รอกหยดน้ำ (Baitcasting Reel) เป็นรอกตกปลาชนิดหนึ่งที่มีรูปทรงคล้ายกับหยดน้ำ มีลักษณะเด่นคือ มีกระปุกรอก (Spool) อยู่ด้านบนของรอก และสายตกปลาจะพันรอบกระปุกรอก รอกหยดน้ำเป็นรอกที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับตกปลาในน้ำจืดและน้ำเค็ม เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และมีประสิทธิภาพสูง
ทำไมต้อใช้รอกหยดน้ำ
รอกหยดน้ำเป็นรอกตกปลาชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- ใช้งานง่าย รอกหยดน้ำมีวิธีการใช้ที่ง่ายกว่ารอกชนิดอื่นๆ เพียงแค่โยนเหยื่อออกไปแล้วหมุนมือหมุนเพื่อกรอสายกลับ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นตกปลา
- มีประสิทธิภาพสูง รอกหยดน้ำสามารถส่งเหยื่อออกไปได้ไกลและแม่นยำ เหมาะสำหรับตกปลาในหมายที่มีพื้นที่กว้าง
- น้ำหนักเบา รอกหยดน้ำมีน้ำหนักเบา ทำให้พกพาสะดวก
- ทนทาน รอกหยดน้ำผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง จึงทนทานต่อการสึกหรอ
ดังนั้น รอกหยดน้ำจึงเหมาะสำหรับตกปลาในหลากหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นตกปลาเหยื่อปลอมขนาดเล็กในหมายรกๆ ตกปลาเหยื่อปลอมขนาดใหญ่ในหมายโล่งๆ หรือตกปลาในทะเลก็ตาม
รอกหยดน้ำ แตกต่างจาก รอกธรรมดา อย่างไร?
รอกหยดน้ำ (Baitcasting Reel) และรอกธรรมดา (Spinning reels) เป็นรอกตกปลา 2 ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้
รูปทรง
รอกหยดน้ำมีรูปทรงคล้ายกับหยดน้ำ ส่วนรอกธรรมดามีรูปทรงคล้ายกับกระปุก ลักษณะเด่นของรอกหยดน้ำคือ มีกระปุกรอก (Spool) อยู่ด้านบนของรอก และสายตกปลาจะพันรอบกระปุกรอก ส่วนรอกธรรมดา มีกระปุกรอกอยู่ด้านล่างของรอก และสายตกปลาจะพันรอบกระปุกรอกด้วยการใช้สปูลไกด์ (Spool Guide)
วิธีการใช้งาน
รอกหยดน้ำมีวิธีการใช้งานที่ง่ายกว่ารอกธรรมดา เพียงแค่โยนเหยื่อออกไปแล้วหมุนมือหมุนเพื่อกรอสายกลับ ส่วนรอกธรรมดา ต้องใช้ทักษะในการโยนเหยื่อที่แม่นยำ เนื่องจากสายตกปลาจะพันรอบสปูลไกด์ ทำให้ต้องอาศัยแรงเหวี่ยงในการโยนเหยื่อ
ประสิทธิภาพ
รอกหยดน้ำสามารถส่งเหยื่อออกไปได้ไกลและแม่นยำกว่ารอกธรรมดา เนื่องจากมีเฟืองหมุน (Gear) ขนาดใหญ่กว่า ช่วยให้รอกหมุนเร็วขึ้น แต่รอกธรรมดาสามารถส่งเหยื่อออกไปได้ไกลกว่ารอกหยดน้ำหากใช้เหยื่อขนาดใหญ่
ข้อดีและข้อเสีย
รอกหยดน้ำมีข้อดีคือใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพสูง น้ำหนักเบา และทนทาน ส่วนข้อเสียคืออาจเกิดปัญหาสายพันกันได้ง่าย และอาจไม่สะดวกสำหรับมือใหม่
รอกธรรมดามีข้อดีคือสามารถส่งเหยื่อออกไปได้ไกลกว่ารอกหยดน้ำ หากใช้เหยื่อขนาดใหญ่ และเหมาะสำหรับตกปลาเหยื่อปลอมขนาดใหญ่ ส่วนข้อเสียคือต้องใช้ทักษะในการโยนเหยื่อที่แม่นยำ และอาจไม่สะดวกสำหรับมือใหม่
รอกหยดน้ำเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นตกปลาหรือผู้ที่ตกปลาในหลากหลายสถานการณ์ ส่วนรอกธรรมดาเหมาะสำหรับผู้ที่ตกปลาเหยื่อปลอมขนาดใหญ่หรือผู้ที่ตกปลาในหมายที่มีพื้นที่จำกัด
นอกจากนี้ รอกหยดน้ำยังมีข้อดีอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น
- มีให้เลือกหลากหลายรุ่น รอกหยดน้ำมีให้เลือกหลากหลายรุ่น แต่ละรุ่นมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป จึงสามารถเลือกซื้อรอกที่เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างง่ายดาย
- มีราคาไม่แพง รอกหยดน้ำมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรอกชนิดอื่นๆ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่งบน้อย
อย่างไรก็ตาม รอกหยดน้ำก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน เช่น
- อาจเกิดปัญหาสายพันกัน หากใช้งานรอกหยดน้ำไม่ชำนาญ อาจเกิดปัญหาสายพันกันได้ง่าย
- อาจไม่สะดวกสำหรับมือใหม่ รอกหยดน้ำอาจไม่สะดวกสำหรับมือใหม่ เนื่องจากต้องใช้ทักษะในการโยนเหยื่อที่แม่นยำ
โดยสรุปแล้ว รอกหยดน้ำเป็นรอกตกปลาที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นตกปลาหรือผู้ที่ตกปลาในหลากหลายสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม รอกหยดน้ำก็มีข้อเสียอยู่บ้าง จึงควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียก่อนตัดสินใจเลือกใช้งาน
รอกหยดน้ำแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
- รอกหยดน้ำสปินนิ่ง (Spinning Reel) เป็นรอกหยดน้ำที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหมาะสำหรับตกปลาเหยื่อปลอมทุกประเภท เช่น ตกปลาช่อน ตกปลาชะโด ตกปลากระสูบ เป็นต้น
- รอกหยดน้ำเบทคาสติ้ง (Baitcasting Reel) เป็นรอกหยดน้ำที่เหมาะสำหรับตกปลาเหยื่อปลอมขนาดใหญ่ เช่น ตกปลาบึก ตกปลากะพง เป็นต้น
คุณสมบัติของรอกหยดน้ำ
- อัตราทดเกียร์ (Gear Ratio) หมายถึง จำนวนรอบของกระปุกรอกต่อหนึ่งรอบของมือหมุน อัตราทดเกียร์ยิ่งสูง รอกก็จะหมุนเร็วขึ้น เหมาะสำหรับตกปลาเหยื่อปลอมขนาดเล็ก
- กำลังเบรก (Drag) หมายถึง แรงที่รอกสามารถต้านทานได้เมื่อปลาดึงสาย รอกที่มีกำลังเบรกสูง เหมาะสำหรับตกปลาขนาดใหญ่
- จำนวนลูกปืน (Bearing) หมายถึง จำนวนลูกปืนที่ช่วยลดแรงเสียดทานภายในรอก รอกที่มีจำนวนลูกปืนมาก รอกจะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
การเลือกซื้อ รอกหยดน้ำ
การเลือกซื้อรอกหยดน้ำ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
ประเภทของปลาที่ต้องการตก
หากต้องการตกปลาเหยื่อปลอมขนาดเล็ก แนะนำให้เลือกรอกหยดน้ำสปินนิ่งที่มีอัตราทดเกียร์สูง เช่น 7.0:1 - 8.0:1 และกำลังเบรก 3-5 กิโลกรัม
หากต้องการตกปลาขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกรอกหยดน้ำเบทคาสติ้งที่มีอัตราทดเกียร์ต่ำ เช่น 5.0:1 - 6.0:1 และกำลังเบรก 5-10 กิโลกรัม
ประเภทของเหยื่อปลอมที่ต้องการใช้
หากต้องการใช้เหยื่อปลอมขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกรอกหยดน้ำที่มีกระปุกรอกขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันสายพันกัน
งบประมาณ
รอกหยดน้ำมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันบาท สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ
ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณา
- จำนวนลูกปืน รอกที่มีจำนวนลูกปืนมาก รอกจะทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- วัสดุที่ใช้ผลิต รอกที่ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง จะทนทานต่อการสึกหรอ
- น้ำหนัก รอกที่น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- ดีไซน์ เลือกรอกที่มีดีไซน์ที่ชอบและเหมาะกับการใช้งาน
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากเป็นมือใหม่ แนะนำให้เลือกรอกหยดน้ำสปินนิ่งที่มีอัตราทดเกียร์สูงและกำลังเบรกปานกลาง เช่น 7.0:1 - 6.0:1 และกำลังเบรก 3-5 กิโลกรัม รอกประเภทนี้เหมาะสำหรับตกปลาเหยื่อปลอมทั่วไป และใช้งานง่าย
เมื่อใช้งานรอกหยดน้ำเป็นแล้ว สามารถพิจารณาเลือกรอกประเภทอื่นๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการได้