-->

VPN คืออะไร? ทำไมต้องใช้ VPN





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





VPN คืออะไร? ทำไมต้องใช้ VPN



VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network หรือเครือข่ายส่วนตัวเสมือน เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างการเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต โดย VPN จะสร้างอุโมงค์เข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ซึ่งจะปกปิดที่อยู่ IP ของคุณและข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณ


VPN มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต การใช้ VPN จะช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หรือแฮกเกอร์ สามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้


นอกจากนี้ VPN ยังสามารถใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกบล็อกในบางภูมิภาคได้ เช่น Netflix หรือ BBC iPlayer


เหตุผลที่ควรใช้ VPN มีดังนี้


  • เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต
  • เข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกบล็อก
  • ป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle
  • ปกปิดตัวตนและตำแหน่งที่ตั้ง
  • ป้องกันการสอดแนมจาก ISP

วิธีใช้งาน VPN นั้น สามารถทำได้โดยดาวน์โหลดและติดตั้งซอฟต์แวร์ VPN บนอุปกรณ์ของคุณ จากนั้นเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ต้องการ เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น


ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการใช้งาน VPN ในชีวิตจริง


  • นักธุรกิจใช้ VPN เพื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายสำนักงานจากระยะไกล
  • นักท่องเที่ยวใช้ VPN เพื่อเข้าถึงบริการสตรีมมิ่งจากต่างประเทศ
  • ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตใช้ VPN เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากแฮกเกอร์
  • ปัจจุบันมีผู้ให้บริการ VPN มากมายให้เลือกใช้บริการ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผู้ให้บริการ VPN ที่เชื่อถือได้และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ข้อดี ข้อเสีย ของ VPN



ข้อดีของ VPN มีดังนี้


  • เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต
  • VPN จะช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) หรือแฮกเกอร์ สามารถติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณหรือขโมยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
  • เข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกบล็อก
  • VPN สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกบล็อกในบางภูมิภาคได้ เช่น Netflix หรือ BBC iPlayer
  • ป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle
  • การโจมตีแบบ Man-in-the-Middle (MITM) เป็นประเภทของการโจมตีทางไซเบอร์ที่โจมตีโดยแฮกเกอร์ที่วางตัวเป็นบุคคลที่เชื่อถือได้เพื่อขโมยข้อมูล
  • VPN จะช่วยป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์ทำการโจมตีแบบ MITM โดยการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านเครือข่าย
  • ปกปิดตัวตนและตำแหน่งที่ตั้ง
  • VPN จะช่วยปกปิดตัวตนและตำแหน่งที่ตั้งของคุณจากการติดตามออนไลน์
  • ป้องกันการสอดแนมจาก ISP
  • ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ของคุณอาจติดตามกิจกรรมออนไลน์ของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่น
  • VPN จะช่วยป้องกันการสอดแนมจาก ISP ของคุณโดยการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านเครือข่าย

ข้อเสียของ VPN มีดังนี้


  • อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลง
  • VPN จะต้องเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่ส่งผ่านเครือข่าย ซึ่งอาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลงเล็กน้อย
  • อาจต้องใช้ทักษะทางเทคนิคบางอย่าง
  • การติดตั้งและใช้งาน VPN อาจต้องใช้ทักษะทางเทคนิคบางอย่าง
  • อาจถูกบล็อกในบางประเทศ
  • บางประเทศอาจบล็อกการใช้งาน VPN เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่ได้รับอนุญาต

โดยสรุปแล้ว VPN เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผู้ให้บริการ VPN ที่เชื่อถือได้และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้



แนะนำ VPN เจ้าไหนดี



ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้แต่ละคน อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการ VPN ที่ได้รับการแนะนำโดยทั่วไป ได้แก่

BULL VPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ VPN มากกว่า 3,000 แห่งใน 94 ประเทศ รองรับโปรโตคอลการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน

VPN คืออะไร? ทำไมต้องใช้ VPN




BullVPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศไทย ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ VPN มากกว่า 100 แห่งใน 28 ประเทศ BullVPN รองรับโปรโตคอลการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง เช่น OpenVPN และ IKEv2 และมีการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน


BullVPN เป็น VPN ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ VPN ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง BullVPN ยังมีแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Windows, macOS, Android, iOS และ Linux

อย่างไรก็ตาม BullVPN ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น

  • มีเซิร์ฟเวอร์ VPN น้อยกว่าผู้ให้บริการ VPN รายใหญ่รายอื่น
  • ไม่รองรับ kill switch ซึ่งเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยที่สำคัญ
  • นโยบายบันทึกข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้อาจไม่โปร่งใสมากนัก
โดยรวมแล้ว BullVPN เป็น VPN ที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ VPN ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการ VPN ที่มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงหรือรองรับเซิร์ฟเวอร์ VPN ในหลายประเทศ คุณอาจต้องการพิจารณาผู้ให้บริการ VPN รายอื่น

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกผู้ให้บริการ VPN ได้แก่


  • ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: ผู้ให้บริการ VPN ควรใช้โปรโตคอลการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งและนโยบายความเป็นส่วนตัวที่โปร่งใส
  • ความเร็ว: VPN อาจทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลงเล็กน้อย สิ่งสำคัญคือต้องเลือกผู้ให้บริการ VPN ที่ให้บริการความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพียงพอสำหรับการใช้งานของคุณ
  • ความเข้ากันได้: VPN ควรเข้ากันได้กับอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการที่คุณใช้
  • ราคา: ผู้ให้บริการ VPN มีราคาแตกต่างกันไป เลือกผู้ให้บริการ VPN ที่เหมาะกับงบประมาณของคุณ

ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำในการเลือกผู้ให้บริการ VPN ที่เหมาะสมกับคุณ


  • พิจารณาความต้องการของคุณ: คุณต้องการ VPN เพื่ออะไร? หากคุณต้องการใช้ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่ก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการใช้ VPN เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์หรือบริการที่ถูกบล็อก คุณอาจต้องการผู้ให้บริการ VPN ที่มีเซิร์ฟเวอร์ในหลายประเทศ
  • อ่านรีวิว: อ่านรีวิวของผู้ให้บริการ VPN ต่างๆ เพื่อดูว่าผู้ใช้รายอื่นคิดอย่างไร
  • ทดลองใช้: ผู้ให้บริการ VPN ส่วนใหญ่เสนอการทดลองใช้ฟรีหรือช่วงทดลองใช้ฟรี ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เพื่อทดสอบผู้ให้บริการ VPN ก่อนตัดสินใจสมัครสมาชิก
โดยสรุปแล้ว ผู้ให้บริการ VPN ที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือผู้ให้บริการ VPN ที่ตรงกับความต้องการของคุณและเชื่อถือได้