ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเครือข่ายมือถือมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดย 4G เป็นมาตรฐานการสื่อสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การถือกำเนิดของเทคโนโลยี 5G ได้นำความตื่นเต้นและความฮือฮามาสู่อุตสาหกรรมเครือข่ายมือถือในระดับใหม่ สิ่งนี้ทำให้หลายคนสงสัยว่าโทรศัพท์ 4G และ 5G ต่างกันหรือไม่?
คำตอบคือใช่ โทรศัพท์ 4G และ 5G มีความแตกต่างอย่างมาก แม้ว่าเครือข่าย 4G จะมีมาตั้งแต่ปี 2009 แต่เครือข่าย 5G ก็มีให้บริการในเชิงพาณิชย์ในปี 2019 เท่านั้น โดยพื้นฐานแล้ว 5G เป็นเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือรุ่นที่ 5 และเป็นการก้าวกระโดดที่สำคัญในด้านความเร็ว ประสิทธิภาพ และความน่าเชื่อถือของการสื่อสารสมัยใหม่
ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดสิ่งแรกระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G คือความเร็วในการรับส่งข้อมูล เครือข่าย 4G ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดที่ 100Mbps ในขณะที่เครือข่าย 5G ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงถึง 20Gbps ซึ่งหมายความว่าเครือข่าย 5G สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 20 เท่า ทำให้สามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ได้ในเวลาไม่กี่วินาที ทำให้สามารถที่จะใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้ในการ Video Call ความละเอียดสูงการถ่ายทอดสด ที่ต้องการภาพความละเอียดสูง ซึ่งจะทำให้คุณภาพที่ได้นั้นดีมากขึ้นกว่าการใช้เครือข่าย 4G
นอกจากความเร็วแล้ว 5G ยังมี Latency หรือ เวลาแฝง ที่ต่ำกว่า ซึ่งเป็นเวลาที่ข้อมูลใช้ในการเดินทางระหว่างอุปกรณ์และเครือข่าย โดยเครือข่าย 4G มีเวลาแฝงระหว่าง 30 ถึง 50 มิลลิวินาที ในขณะที่เครือข่าย 5G มีเวลาแฝงน้อยกว่า 1 มิลลิวินาที ซึ่งหมายความว่าเครือข่าย 5G สามารถรองรับแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ เช่น ความจริงเสมือน AR และความจริงเสริม VR ซึ่งต้องใช้เวลาตอบสนองที่รวดเร็วเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ดีขึ้น
ความแตกต่างที่สำคัญอีกประการระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G คือประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เครือข่าย 5G ได้รับการออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานมากกว่าเครือข่าย 4G ซึ่งหมายความว่าใช้แบตเตอรี่น้อยกว่าและมีความยั่งยืนมากกว่าในระยะยาว ซึ่งทำได้ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงการใช้เสาส่งสัญญาณเซลล์ขนาดเล็กที่ใช้พลังงานน้อยลง และความสามารถในการปิดการทำงานของส่วนประกอบที่ไม่ได้ใช้ของเครือข่ายเมื่อไม่ต้องการใช้ ทำให้อุปกรณ์สามารถที่จะทำการประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้นทำให้สามารถที่จะใช้ได้นานขึ้นไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่บ่อยๆ
ความแตกต่างระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G มีนัยสำคัญสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G จะสามารถใช้ประโยชน์จากความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น เวลาแฝงที่ต่ำกว่า และประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับแอพพลิเคชั่นที่สมจริงและโต้ตอบได้มากขึ้น เช่น เกมเสมือนจริง การสตรีมเนื้อหาวิดีโอคุณภาพสูง และอื่นๆ จึงทำให้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน 5g นั้นมีความแตกต่างในเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่าโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนที่รองรับเครือข่าย 4G อยู่พอสมควร
โดยสรุปแล้ว ความแตกต่างระหว่างเครือข่าย 4G และ 5G นั้นมีความสำคัญ และมีความหมายกว้างไกลสำหรับเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือ เครือข่าย 5G ได้รับการออกแบบให้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเชื่อถือได้มากกว่ารุ่นก่อน ทำให้สามารถรองรับอุปกรณ์และแอพพลิเคชั่นได้มากขึ้น แม้ว่าเครือข่าย 4G จะยังคงถูกใช้อย่างแพร่หลายต่อไปอีกระยะหนึ่ง แต่เครือข่าย 5G เป็นตัวแทนของอนาคตของเทคโนโลยีเครือข่ายมือถือ และประโยชน์ที่ได้รับมีแนวโน้มที่จะปฏิวัติวิธีการใช้อุปกรณ์ของเรา และคาดว่าจะเข้ามาทดแทนอุปกรณ์ 4G ได้ในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน