USB-C เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่ออเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความสามารถในการจัดการการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การส่งพลังงาน และการรองรับการเชื่อมต่อในการแสดงผล ด้วยเหตุนี้ จอภาพ ที่รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ USB-C จึงได้รับความนิยมมากขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อแล็ปท็อป เดสก์ท็อป หรืออุปกรณ์พกพาเข้ากับจอภาพคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย สำหรับบทความนี้ของ Blogsdit เราจะมาสำรวจว่าจอภาพ USB-C คืออะไร ทำงานอย่างไร และเหตุใดหน้าจอประเภทนี้นั้นจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้จำนวนมาก
จอภาพ USB-C คืออะไร?
จอภาพ USB-C เป็นจอภาพที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์โดยใช้สาย USB Type-C สาย USB-C ไม่เพียงรองรับสัญญาณวิดีโอเท่านั้น แต่ยังรองรับการจ่ายไฟและการถ่ายโอนข้อมูลด้วย ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้สายเคเบิลเส้นเดียวเพื่อเชื่อมต่อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่เข้ากับจอภาพเพื่อใช้ในการแสดงผล สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ และช่วยให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองได้ จอภาพ USB-C มีหลายขนาด ความละเอียด และคุณสมบัติต่างๆ เช่น ลำโพงในตัว ฮับ USB และขาตั้งแบบปรับได้ สามารถใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่งานในสำนักงานและการสร้างเนื้อหาไปจนถึงการเล่นเกมและความบันเทิง
จอภาพ USB-C ทำงานอย่างไร?
จอภาพ USB-C ทำงานโดยใช้การเชื่อมต่อ USB-C เพื่อส่งวิดีโอและข้อมูลระหว่างอุปกรณ์และจอภาพ สาย USB-C มีสี่เลนในการถ่ายโอนข้อมูล โดยแต่ละเลนสามารถรองรับการถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 10Gbps ซึ่งหมายความว่าจอภาพ USB-C สามารถรองรับการแสดงผลความละเอียดสูงที่มีอัตราการรีเฟรชสูง เช่น จอภาพ 4K ที่ 60Hz หรือแม้แต่ 144Hz
นอกจากการถ่ายโอนวิดีโอและข้อมูลแล้ว จอภาพ USB-C ยังสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้อีกด้วย สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยมาตรฐาน USB Power Delivery (PD) ซึ่งช่วยให้อุปกรณ์สามารถรองรับปริมาณพลังงานที่ส่งผ่านสาย USB-C ซึ่งหมายความว่าจอภาพ USB-C สามารถให้พลังงานเพียงพอสำหรับชาร์จแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์พกพา ทำให้ไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟแยกต่างหาก ซึ่งถือว่าสะดวกมากสำหรับการใช้งาน
จุดเด่นของจอภาพ USB-C?
1.การเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเส้นเดียว
ด้วยจอภาพ USB-C คุณต้องใช้สายเคเบิลเพียงเส้นเดียวในการเชื่อมต่อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์พกพาของคุณเข้ากับจอภาพ ทำให้การตั้งค่าและการจัดการสายเคเบิลง่ายขึ้นมาก เนื่องจากคุณไม่ต้องกังวลกับสายเคเบิลหลายเส้นสำหรับการถ่ายโอนพลังงาน วิดีโอ และข้อมูล
2.รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง
จอภาพ USB-C รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง ซึ่งมีประโยชน์สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่หรือการสตรีมมีเดียคุณภาพสูง สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยมาตรฐาน USB 3.1 ซึ่งใช้โดยสาย USB-C
3.รองรับการจ่ายพลังงาน
จอภาพ USB-C สามารถจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับแล็ปท็อปและอุปกรณ์พกพาที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่จำกัด ทำให้ไม่ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟแยกต่างหาก ทำให้ใช้งานอุปกรณ์ขณะเชื่อมต่อกับจอภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น
4.ความหลากหลายในการใช้งาน
จอภาพ USB-C สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์หลากหลาย รวมถึงแล็ปท็อป เดสก์ท็อป และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถใช้จอภาพเดียวกันกับอุปกรณ์หลายเครื่องได้ ทำให้ใช้งานได้หลากหลายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น
จอภาพ USB-C เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการจอภาพคุณภาพสูงที่ติดตั้งและใช้งานง่าย ด้วยการเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลเส้นเดียว การถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง การส่งพลังงาน และความอเนกประสงค์ จอภาพ USB-C จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ใช้จำนวนมาก ไม่ว่าคุณจะเป็นมืออาชีพที่ต้องการจอแสดงผลความละเอียดสูงสำหรับการทำงาน หรือเกมเมอร์ที่ต้องการจอแสดงผลที่มีอัตราการรีเฟรชสูงสำหรับการเล่นเกม จอภาพ USB-C สามารถให้ประสิทธิภาพและความสะดวกสบายที่คุณต้องการได้
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อหน้าจอ USB Type C มาใช้งาน
1.ขนาดและความละเอียดของหน้าจอ
สิ่งแรกที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อจอภาพ USB-C คือขนาดความกว้างของหน้าจอและค่าความละเอียด คุณควรเลือกขนาดที่เหมาะกับพื้นที่ทำงานและความละเอียดที่ตรงกับความต้องการของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณทำงานกับกราฟิกหรือตัดต่อวิดีโอ คุณอาจต้องการเลือกใช้จอภาพที่มีความละเอียดสูง เช่น 2K - 4K ในขณะที่การเล่นเกมทั่วๆไปนั้นควรจะเลือกหน้าจอความละเอียดระดับ full hd ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
2.อัตราการรีเฟรช
อัตราการรีเฟรชคือจำนวนครั้งต่อวินาทีที่จอภาพจะอัปเดตภาพบนหน้าจอ อัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นสามารถมอบประสบการณ์ภาพที่ราบรื่นและตอบสนองได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับเกมเมอร์หรือผู้ที่ทำงานกับวิดีโอความเร็วสูง มองหาจอภาพที่มีอัตราการรีเฟรชอย่างน้อย 75Hz ขึ้นไปจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่า
3.ความแม่นยำของสี
หากคุณกำลังทำงานกับกราฟิกหรือการแต่งภาพหรือการใช้งานซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกต่างๆนั้น ความถูกต้องของสีเป็นสิ่งสำคัญ มองหาจอภาพที่มีขอบเขตสีกว้างและข้อกำหนดความถูกต้องของสี เช่น sRGB หรือ AdobeRGB ที่มีความแม่นยำเทียบเท่าหรือใกล้เคียงก็จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
4.การรองรับการเชื่อมต่อ
จอภาพ USB-C ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อกับพอร์ต USB-C บนอุปกรณ์ของคุณ แต่อาจมีพอร์ตอื่นๆ เช่น HDMI หรือ DisplayPort ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอภาพมีการเชื่อมต่อที่คุณต้องการสำหรับอุปกรณ์ของคุณ และช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อได้อย่างหลากหลายอุปกรณ์และมีความคุ้มค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น
5.ความสามารถในการจ่ายพลังงาน
ข้อดีอย่างหนึ่งของจอภาพ USB-C คือความสามารถในการจ่ายพลังงานให้กับอุปกรณ์ของคุณในขณะที่เชื่อมต่ออยู่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าจอภาพรองรับ USB Power Delivery (PD) และมีพลังงานเพียงพอที่จะชาร์จอุปกรณ์ของคุณ
6.คุณสมบัติเพิ่มเติม
พิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น ลำโพงในตัว ฮับ USB และขาตั้งแบบปรับได้ คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้พื้นที่ทำงานของคุณสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
7.ยี่ห้อและราคา
สำหรับการที่จะเลือกซื้อหน้าจอแบบ USB Type C มาใช้งานนั้นคุณควรที่จะเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในท้องตลาดว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงพร้อมคำวิจารณ์จากลูกค้าที่ดีและการรับประกัน จอภาพ USB-C มีหลายราคา ดังนั้นพิจารณางบประมาณของคุณและเลือกจอภาพที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ
จอ USB Type C รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1. BenQ EW3270U
เป็นจอ USB Type C ขนาด 32 นิ้วที่มาพร้อมกับความละเอียดสูงสุดที่ 4k รองรับ HDR เทคโนโลยี Freesync มาพร้อมกับหน้าจอความคมชัดสูงเหมาะสำหรับการเล่นเกมดูหนังฟังเพลงรองรับการเชื่อมต่อต่างๆที่หลากหลายไหมว่าจะเป็น HDMI USB c และ Display port ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างหลากหลายมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ใช้ในการวัดความสว่างและอุณหภูมิของสีเพื่อปรับให้สบายตามากยิ่งขึ้นเป็น panel แบบ VA ที่จะช่วยให้คอนทราสต์ที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าหน้าจอปกติ
#2. Dell Ultrasharp 27 4K USB-C Hub Monitor U2723QE
เป็นหน้าจอขนาด 27 นิ้วความละเอียดระดับ 4k ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB Type C และการเชื่อมต่อต่างๆที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น HDMI (HDCP 2.2),DisplayPort 1.4,USB-C 3.2 Gen 2,Type-C,Lan มาพร้อมกับความละเอียดหน้าจอ 4K 3840 x 2160 at 60 Hz รองรับความสว่างสูงสุดที่ Brightness 400 cd/m² หน้าจอด้านไม่สะท้อน,LED, Color Gamut 100% Rec 709, 100% sRGB, 98% DCI-P3 เหมาะสำหรับการใช้งานในการทำงานเอกสารการทำงานเกี่ยวกับกราฟฟิกที่ต้องการภาพที่มีความละเอียดสูงเป็นพิเศษตัวหน้าจอนั้นมาพร้อมกับการรับประกันจากโรงงานสูงสุดถึง 3 ปีที่จะช่วยให้คุณนั้นมั่นใจได้ถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวหน้าจอ