ทีวีในปัจจุบันนี้ยังเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญภายในบ้านที่จะช่วยให้เราสามารถที่จะทำการใช้งานในการเพื่อความบันเทิงไม่ว่าจะเป็นการดูหนังฟังเพลงติดตามข่าวสารดูซีรีย์หรือรายการความบันเทิงอื่นได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันนี้รายการทีวีมีให้ชมหลากหลายรายการและมีความคมชัดสูงขึ้นมีเนื้อหาให้รับชมหลากหลายมากขึ้น
และในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงมาใช้ระบบดิจิตอลทีวีแทนทีวีอนาล็อกแบบเดิมจึงทำให้ในปัจจุบันนี้ทีวีที่คุณเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับดิจิตอลทีวีเป็นหลักจึงจะสามารถที่จะทำการรับสัญญาณได้หรือการใช้งานร่วมกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลสำหรับทีวีอนาล็อกธรรมดาก็จะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการเข้าถึงและรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้เช่นกัน
แต่สำหรับผู้ที่มีงบประมาณที่ค่อนข้างจะจำกัดซึ่งมีงบประมาณในช่วงระดับราคาที่ไม่เกิน 3,000 บาทนั้นเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มของทีวีราคาถูกที่สุดที่จะสามารถเลือกซื้อมาใช้งานได้และส่วนมากแล้วทีวีที่มีเรื่องราคาที่ต่ำกว่า 3,000 นั้นจะเป็นอนาล็อกทีวีไม่สามารถที่จะทำการรับสัญญาณทีวีดิจิตอลได้ด้วยตัวของมันเองจะต้องทำการเชื่อมต่อเข้ากับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่มีอยู่เท่านั้นหรือคุณสามารถที่จะทำการซื้อกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลเชื่อมต่อเพื่อให้สามารถที่จะทำการรับสัญญาณทีวีได้ถ้าคุณมีงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกสัก 1000-2,000 บาทเราแนะนำให้คุณเลือกซื้อทีวีที่เป็นดิจิตอลทีวีจะทำให้มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเนื่องจากว่ามีระบบการรับสัญญาณที่ดีกว่าให้ภาพที่คมชัดกว่าและให้ฟีเจอร์ต่างๆที่ดีกว่า
และสำหรับผู้ที่มีงบประมาณที่จำกัดจริงๆอาจจะเริ่มสงสัยว่าแล้วทำไมจึงไม่ควรที่จะเลือกซื้อทีวีที่มีระดับราคาที่ต่ำกว่า 3000 บาทหรือทีวีที่ไม่ใช่ดีตั้งทีวีมาใช้งานงั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลข้อดีข้อเสียต่างๆของทีวีที่มีราคาที่ต่ำกว่า 3,000 บาทมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อทีวีที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
ข้อเสียของทีวีที่มีราคาที่ต่ำกว่า 3000 บาท
1.ไม่รองรับทีวีดิจิตอลในตัว
ทีวีที่มีราคาที่ต่ำกว่า 3000 บาทนั้นส่วนมากนั้นแต่ไม่รองรับการเชื่อมต่อทีวีดิจิตอลภายในตัวจะต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมจึงจะสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อช่องสัญญาณทีวีดิจิตอลที่มีให้บริการได้และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้ช่องสัญญาณอนาล็อกทีวีหรือทีวี analog ทั่วไปไม่มีให้บริการแล้วเพราะฉะนั้นจะต้องทำการเชื่อมต่อร่วมกับกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลเท่านั้นจึงจะสามารถที่รับสัญญาณเข้าทีวีได้ และยิ่งถ้าคุณไม่มีกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลอยู่แล้วคุณจะเป็นจะต้องซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลที่มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่หลัง 500 ขึ้นไปเสาอากาศรับสัญญาณทีวีดิจิตอลซึ่งมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 200 บาทถึง 500 บาทนั่นจึงทำให้ต้นทุนในการใช้งานทีวีของคุณนั้นเพิ่มขึ้นจะราคาทีวี 350 บาทบวกอีก 700 บาทซึ่งเป็นอุปกรณ์กล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอลและเสาอากาศรวมถึงเสาอากาศด้วยซึ่งจะทำให้ต้นทุนขอบคุณที่จะใช้งานทีวีราคา 3,000 บาทนั้นกลายเป็น 4,000 บาทในทันที
2.จอคุณภาพต่ำกว่า
สำหรับทีวีที่มีราคาต่ำกว่า 3,000 นั้นจะใช้หน้าจอแบบ LCD TV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรุ่นเก่าที่มีความคมชัดน้อยกว่าอาจจะมีความคมชัดเพียงระดับ HD โดยที่ทีวีที่มีราคาที่สูงกว่านี้ซึ่งเริ่มต้นที่ 5,000 บาทก็จะมีความคมชัดระดับ Full HD ไปแล้วซึ่งมีความคมชัดที่สูงกว่ามากและช่วยให้คุณสามารถที่จะเห็นรายละเอียดต่างๆทั้งภาพและเสียงได้อย่างชัดเจนมากกว่ามีคุณภาพที่สูงกว่า
3.ความทนทาน
ทีวีที่มีราคาต่ำกว่า 3,000 บาทนั้นจะมีความทนทานที่น้อยกว่าเนื่องจากว่าใช้วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆที่มีคุณภาพที่ต่ำกว่าจึงทำให้อายุการใช้งานนั้นสั้นกว่าโดยการใช้งานทีวีเหล่านี้จะเน้นการใช้งาน 1-2 ปีก็จะเริ่มมีปัญหาเสื่อมสภาพไปตามอายุการใช้งานในขณะที่ทีวีที่เป็นแบรนด์คุณภาพสูงนั้นอาจจะมีอายุในการใช้งาน 3-5 ปีเลยทีเดียวซึ่งเมื่อเปรียบเทียบระยะเวลาและความคุ้มค่าแล้วถือว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า
และสำหรับผู้ที่กำลังมองหาทีวีที่มีราคาที่ต่ำกว่า 3,000 บาทมาใช้งานนั้นอาจจะเริ่มสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อทีวีในกลุ่มนี้รุ่นไหนยี่ห้อไหนดีโดยเราได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆของทีวีที่มีระดับราคาที่ไม่เกิน 3,000 บาทมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อได้ที่บทความนี้ “แนะนำ ทีวีราคาไม่เกิน 3000 บาท รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดีที่สุด” ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อทีวีที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด