หม้อทอดไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในครัวที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ทำการทำอาหารเมนูทอดต่างๆได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็วโดยเป็นรูปแบบของทอดที่ใช้กระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานซึ่งมีข้อดีในส่วนที่มีความสะดวกสบายไม่มีเปลวไฟและไม่มีประกายไฟเกิดขึ้นขณะที่ทำการใช้งานเมื่อเปรียบเทียบกันกับหม้อทอด Gas หรือการให้ความร้อนด้วยวิธีอื่น
หม้อทอดไฟฟ้า คืออะไร? หม้อทอดไฟฟ้านั้นเป็นหม้อทอดที่ถูกออกแบบมาสำหรับการทำเมนูทอดโดยเฉพาะซึ่งจะใช้กระแสไฟฟ้าในการสร้างพลังงานความร้อนให้กับน้ำมันที่ใช้ในการทอดซึ่งจะมีการทำความร้อนจากขดลวดที่มีความต้านทานสูงเหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นโดยการผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดเหล่านั้นแล้วก็จะเกิดความร้อนออกมาซึ่งจะทำให้น้ำมันที่อยู่ในหม้อนั้นเกิดความร้อนจนสามารถที่จะนำไปใช้ในการทอดอาหารได้โดยหม้อทอดไฟฟ้านั้นจะมาพร้อมกับความสามารถในการปรับระดับความร้อนให้เหมาะสมกับการทอดอาหารแต่ละประเภทได้
โดยข้อดีหลักๆขอหม้อทอดไฟฟ้านั่นก็คือการที่พวกมันมีราคาที่ถูกสามารถที่จะหาซื้อได้ง่ายและเหมาะสำหรับการใช้งานภายในร่มและพื้นที่ที่ไม่สามารถที่จะใช้เตาแก๊สหรือเตาถ่านได้เมื่อเปรียบเทียบกับหม้อทอดแบบใช้แก๊สที่จะต้องมีเปลวไฟมีควันไฟขณะที่ทำการใช้งานและมีความร้อนที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบระหว่างหม้อทอดไฟฟ้ากับหม้ออบลมร้อนหรือหม้อทอดไร้น้ำมันนั้นถึงแม้จะมีการปรุงอาหารที่คล้ายกันแต่อาหารที่ได้จากการทอดด้วยน้ำมันจะมีรสชาติที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็จะมีปริมาณไขมันพี่อยู่ในอาหารที่มากด้วยเช่นกันเพราะฉะนั้นจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักหรือต้องการที่จะลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันปริมาณมาก
และในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ามีหม้อทอดไฟฟ้าวางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อหลายแบบให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คุณนะสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อหม้อทอดรุ่นไหนแบบไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาหม้อทอดไฟฟ้ามาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้าที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
แนะนำ หม้อทอดไฟฟ้า รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1.หม้อทอดไฟฟ้า รุ่น EH-81
เป็นหม้อทอดขนาด 6 ลิตรที่มาพร้อมกับกำลังวัตต์สูงสุดถึง 2500 วัตต์ให้คุณนะสามารถที่ทำการใช้งานในการทอดอาหารเมนูต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมเครื่องรองรับการปรับระดับความร้อนได้หลายระดับตั้งแต่ 60 ถึง 200 องศาเซลเซียสทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในการทอดอาหารเมนูต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพตัวหม้อผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงมีความแข็งแรงทนทานทำให้มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานและสามารถที่จะถอดทำความสะอาดได้ทุกชิ้นซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกในการใช้งานวัสดุที่เป็น Stainless Steel ที่มีความแข็งแรงทนทานไม่เป็นสนิมทำความสะอาดง่าย
#2. หม้อทอดไฟฟ้า OTTO รุ่น DF-377
หม้อทอดไฟฟ้าOTTOรุ่น DF-377 ได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก.1509-2547 หม้อใหญ่จุใจด้วยขนาดความจุถึง 6 ลิตร ผลิตจากวัสดุสแตนเลส304และABSอย่างดี วัสดุเกรดอาหาร ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเหมาะสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือในครัวเรือน ออกแบบมาเป็นพิเศษ หม้อและตะแกรงสามารถถอดแยกออกจากกันได้ ทำความสะอาดได้ง่าย ชิ้นส่วนสามารถถอดแยกออกมาทำความสะอาดได้ทั้งหมด ใช้งานง่ายสามารถทำอาหารได้อย่างหลากหลาย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดพื้นที่ ใช้น้ำมันน้อยกว่าหม้อทอดธรรมดา
มีที่พักอาหารให้สะเด็ดน้ำมัน มีฝาปิด เพื่อป้องกันน้ำมันกระเด็น แท่นทำความร้อน กระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ทำความร้อนด้วยฮีตเตอร์ ควบคุมอุณหภูมิด้วยเทอร์โมสตัท มีระบบกันไฟฟ้าลัดวงจร ปลอดภัยหายห่วง สามารถปรับอุณหภูมิได้ 60˚C - 200˚C มีตารางบอกการใช้อุณหภูมิของอาหารแต่ละประเภท.
#3. หม้อทอดไฟฟ้า FRY KING รุ่น FR-35
เตาทอดไฟฟ้า ความจุ 3.5 ลิตร ปรับอุณหภูมิความร้อนได้ 130-190 C เหมาะสำหรับการทำอาหารเมนู ทอดเฟรนฟราย ไก่ทอด หมูทอด ปลาทอด ทอดมัน และอีกหลากหลายเมนู สะดวก ทันสมัย ใช้งานง่าย มาพร้อมตะแกรงทอดอาหาร และฝาครอบ ที่จะช่วยให้อาหารสุกเร็วทั่วถึง รวมทั้งช่วยป้องกันน้ำมันกระเด็นขณะทอดอาหาร หม้อทอด ตะแกรงทอด ฝาครอบ ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพดี ปลอดภัยด้วยฮีตเตอร์ที่มีฟิวส์ตัดความร้อน ควบคุมอุณหภูมิด้วยปุ่มควบคุมแบบหมุน ใช้งานง่าย มีไฟโชว์ แสดงสถานะการทำงาน กำลังไฟฟ้า 2000 วัตต์ 220V-50Hz เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อใช้ในการทอดเป็นหลัก
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้ามาใช้งาน
1. ขนาดความจุของหม้อทอดไฟฟ้า
ขนาดความจุของหม้อทอดไฟฟ้านั้นเป็นสิ่งแรกที่คุณควรที่จะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อมาใช้งานโดยให้พิจารณาจากปริมาณอาหารที่คุณต้องการที่จะปรุงหรือทอดในแต่ละครั้งเป็นหลักว่ามีปริมาณมากน้อยเท่าไหร่ซึ่งคุณจะต้องเลือกขนาดความจุของหม้อทอดไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณการใช้หม้อที่มีขนาดความจุกที่ใหญ่จนเกินไปนั้นจะทำให้การใช้งานอาจจะไม่เหมาะสมในกรณีที่คุณต้องการทอดอาหารปริมาณน้อยแต่หม้อน้ำมีขนาดที่ใหญ่เกินซึ่งคุณจะต้องใช้กระแสไฟฟ้าที่มากขึ้นใช้น้ำมันเพื่อใช้ในการทอดที่มากขึ้นและต้องใช้ระยะเวลากว่าที่จะสามารถถอดได้นานขึ้นด้วยเมื่อเปรียบเทียบกับบ่อท่อที่มีขนาดเล็กใช้น้ำมันน้อยร้อนเร็วกว่าโดยความจุของมอดนั้นจะนิยมเลือกซื้อหนูใช้หน่วยเป็นลิตรยิ่งมีความจุมากก็จะหมายถึงว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นมีกำลังหลักที่มากขึ้นและมีกระแสไฟฟ้าที่มากขึ้นด้วย
2. กำลังวัตต์ของหม้อทอดไฟฟ้า
ในส่วนของกำลังวัตต์ของหม้อทอดไฟฟ้านั้นคุณควรที่จะเลือกซื้อหม้อทอดไฟฟ้าที่มีกำลังวัตต์ที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งานของคุณซึ่งตัวกำลังวัตต์นั้นหมายถึงประสิทธิภาพในการทำความร้อนของหม้อทอดไฟฟ้าโดยยิ่งหม้อทอดมีกำลังวัตต์ที่สูงขึ้นก็จะหมายถึงความสามารถในการทำความร้อนที่รวดเร็วขึ้นช่วยให้คุณสามารถที่จะปรุงหรือทอดอาหารได้เร็วขึ้นแต่ก็จะต้องแลกมาพร้อมกับอัตราการบริโภคพลังงานที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกันเพราะฉะนั้นแล้วการเลือกซื้อกำลังวัตต์ที่มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งานของคุณนัทจึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ
3.ความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับหม้อทอดไฟฟ้าที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นควรที่จะมีการใช้งานที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการปรับระดับความร้อนได้หลายระดับเพื่อความเหมาะสมในการปรุงอาหารหรือทอดอาหารแต่ละประเภทตะกร้าสำหรับเพื่อใช้ในการทอดอาหารเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งานระบบความปลอดภัยต่างๆที่จะต้องช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นระบบตัดไฟอัตโนมัติระบบตัดความร้อนในกรณีที่มีความร้อนเกินหรือการป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่ตัวเครื่องนั้นจะต้องช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างปลอดภัย
การทำความสะอาดและการดูแลรักษานั้นก็มีความสำคัญเช่นเดียวกันซึ่งตัวมอดไฟฟ้าที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นควรที่จะถูกออกแบบมาให้สามารถที่ทำความสะอาดได้ง่ายสะดวกซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
4. การรับประกันและการบริการหลังการขาย
ในส่วนหม้อทอดไฟฟ้าที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นควรที่จะมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 1 ถึง 3 เดือนเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจได้ถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาขณะที่ใช้งานนั้นคุณสามารถที่จะเรียกร้องขอความรับผิดชอบจากผู้ขายหรือผู้ผลิตได้ไม่ควรที่จะเลือกใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีการรับประกันเด็ดขาดซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพและไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคา