การดูแลรักษาแบตเตอรี่ รถจักรยานไฟฟ้า

แบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้านั้นเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญสำหรับจักรยานไฟฟ้าที่ช่วยให้คุณสามารถที่ทำการใช้งานในการเป็นแหล่งพลังงานเพื่อจ่ายไฟให้กับมอเตอร์ซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและเต็มประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้านั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาที่มากกว่าครึ่งหนึ่งของราคาจักรยานไฟฟ้าเพราะฉะนั้นแล้วการดูแลรักษาแบตเตอรี่จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรที่จะมองข้ามเพราะว่าถ้าแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าของคุณเกิดการเสื่อมสภาพหรือเสียหายการซ่อมแซมหรือการเปลี่ยนนักเรียนว่ามีราคาที่ค่อนข้างแพงมากนั่นเอง

และเนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้มีความนิยมในการใช้งานรถจักรยานไฟฟ้าการเพิ่มมากยิ่งขึ้นจึงทำให้ ผู้ใช้งานนั้นอาจจะเริ่มสงสัยว่าควรที่จะดูแลรักษาแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าแบบไหนดีถึงจะช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างทนทานและเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดรวมถึงมีอายุในการใช้งานที่ยาวนานมากที่สุด

ก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความรู้จักกับแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าก่อนว่าแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้านั้นมีแบบใดบ้างซึ่งแบตเตอรี่แต่ละประเภทนั้นก็จะมีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันพอสมควรซึ่งรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ไม่ควรมองข้างนั้นมีส่วนสำคัญมากสำหรับแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้า

แบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้านั้นจะมี 2 แบบได้แก่แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดซึ่งเป็นแบตเตอรี่ทั่วๆไปเหมือนกับแบตเตอรี่รถยนต์ที่เราใช้งานกันอยู่แต่มีขนาดก้อนที่เล็กกว่ามีความจุที่น้อยกว่าซึ่งแบตเตอรี่ประเภทนี้นั้นมักจะพบในรถจักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าราคาถูกเนื่องจากว่าแบตเตอรี่เหล่านี้มีราคาที่ไม่แพงแต่ข้อเสียหลักๆก็คือการจ่ายไฟได้น้อยและมีอายุในการใช้งานที่ต่ำ

แบตเตอรี่แบบลิเทียมเป็นรูปแบบของแบตเตอรี่ที่เริ่มได้รับความนิยมในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นเนื่องจากว่ามีประสิทธิภาพที่สูงกว่าน้ำหนักที่เบากว่าและมีความจุของแบตเตอรี่รวมถึงประสิทธิภาพในการจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มากกว่าซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานจักรยานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้นความแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานกว่า จ่ายกระแสไฟฟ้าได้แรงกว่าแต่ข้อเสียหลักๆของแบตเตอรี่แบบลิเทียมนั่นก็คือราคาที่แพงกว่า 1 ถึง 2 เท่าแต่ถ้าเทียบกับความคุ้มค่าแล้วถือได้ว่าแบตเตอรี่แบบนี้เที่ยงนั้นเป็นแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพที่สูงกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่าถ้าเป็นการใช้งานในระยะยาวซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้ลิเธียมแล้วจะมีอายุในการใช้งานมากกว่า 2 ปีขึ้นไปหรือ การชาร์จมากกว่า 500 ครั้ง  ในขณะที่แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั้นอายุการใช้งาน 1 ปีก็เริ่มจะเสื่อมสภาพแล้ว

การดูแลรักษาแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด

การดูแลรักษาแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั้นดูแลรักษาง่ายเพียงมีการตรวจสอบระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม หรือในรุ่นที่เป็นแบตเตอรี่แบบแห้งนั้นควรที่จะมีการชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับ 80 เปอร์เซ็นต์ไม่ควรที่จะใช้งานแบตเตอรี่จนหมดเกลี้ยง เพราะจะทำให้แบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและควรที่จะใช้งานเครื่องชาร์จที่เหมาะสมให้กระแสไฟฟ้าที่ถูกต้องการป้อนกระแสไฟที่มากเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่บวมหรือเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น

การดูแลแบตเตอรี่แบบลิเทียม

แบตเตอรี่แบตลิเธียมนั้นจะมีหลายแบบแล้วก็อย่างเช่นแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนหรือแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ซึ่งแบตเตอรี่ทั้ง 2 แบบนั้นก็จะมีลักษณะในการดูแลรักษาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งสามารถที่จะดูแลรักษาได้ดังนี้

1. ไม่ควรให้แบตเตอรี่กระแทก

แบตเตอรี่แบบลิเธียมนั้นจะประกอบเป็นแพ็คซึ่ง 1 แพ็คจะประกอบไปด้วยแบตเตอรี่ขนาดเล็กจำนวนมากอยู่ภายในและตัวแบตเตอรี่นั้นเมื่อตกกระแทกอาจจะเกิดการบุบบวมหรือฉีกขาดได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่แบบที่เป็นถุงซึ่งสามารถที่จะฉีกขาดได้ง่ายเพราะฉะนั้นแล้วควรที่จะหรือเคลื่อนย้ายด้วยความระมัดระวังเพราะเมื่อแบตเตอรี่เกิดรั่วหรือเสียหายนั้นอาจจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

2. ควรให้แบตเตอรี่ให้มีกระแสไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา

สำหรับแบตเตอรี่แบบลิเทียมนั้นควรจะมีการชาร์จกระแสไฟฟ้าให้มีไฟอยู่ในแบตเตอรี่ความจุ 60 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน 7-10 วันและไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่มีกระแสไฟฟ้าที่ต่ำกว่าครึ่งหนึ่งเด็ดขาดว่าจะทำให้แบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เพราะฉะนั้นหมายถึงว่าคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำถึงแม้ว่าไม่ได้ใช้งานก็ตามเพื่อถนอมแบตเตอรี่

3. เก็บแบตเตอรี่ให้อยู่ในที่แห้งและอุณหภูมิที่เหมาะสม

ในการเก็บแบตเตอรี่แบบ lithium นั้นควรที่จะเก็บในพื้นที่ที่แห้งและมีอุณหภูมิที่เหมาะสมโดยควรมีอุณหภูมิในช่วง 15-30 องศาเซลเซียสไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่อยู่ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 40 องศา เพราะอุณหภูมิที่สูงจนเกินไปจะทำให้เซลล์ของแบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้อย่างรวดเร็วซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่แบบที่เที่ยวไอออนนั้นจะมีความอ่อนไหว ต่ออุณหภูมิเป็นพิเศษเมื่อมีอุณหภูมิที่สูงกว่า 45 องศาเซลเซียสจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

4.ใช้เครื่องชาร์จสำหรับแบตเตอรี่เท่านั้น

ในการที่จะชาร์จแบตเตอรี่ให้กับแบตเตอรี่แบบ lithium นั้นควรที่จะใช้เครื่องชาร์จที่มาพร้อมกับจักรยานไฟฟ้าห้ามใช้เครื่องชาร์จแบบอื่นที่มีการจ่ายไฟสูงกว่าที่แบตเตอรี่จะสามารถที่จะรับได้เด็ดขาดเพราะจะทำให้แบตเตอรี่เกิดความเสียหายเนื่องจากการชาร์จมากกว่าค่ามาตรฐานแล้วจะทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนจนทำให้เสียหายหรือระเบิดได้

5. ห้ามใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงในการล้างจักรยานไฟฟ้า

ไม่ควรใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงในการร้านจักรยานไฟฟ้าเด็ดขาดเพราะว่าแรงดันที่สูงสามารถที่จะเข้าไปในแบตเตอรี่ไฟฟ้าได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของแบตเตอรี่นั้นจะประกอบไปด้วยแผงวงจรบีเอ็มเอสและตัวแบตเตอรี่ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการซีลอย่างดีใครๆก็จะมีช่องว่างที่ทำให้ไอน้ำหรือละอองน้ำสามารถที่จะเข้าไปทำลายแผงวงจรได้และทำให้เกิดความเสียหาย

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังใช้งานรถจักรยานไฟฟ้าอยู่ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการดูแลรักษารถจักรยานไฟฟ้าของคุณให้มีอายุในการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น