ในการใช้งานกระแสไฟฟ้าภายในบ้านนั้นคุณอาจจะพบว่าที่บ้านของคุณเกิดสาเหตุเบรกเกอร์ตัดอยู่เป็นประจำซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นเกิดปัญหาในการใช้งานกระแสไฟฟ้าภายในบ้านในบางจุดหรือทั้งบ้านซึ่งคุณอาจจะเริ่มสงสัยว่าควรที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นอย่างไรดีซึ่งเราได้ทำการรวบรวมข้อมูลต่างๆที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวไว้ที่บทความนี้
เหตุการณ์เบรกเกอร์ทริปบ่อยหรือตัดไฟบ่อย นั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากระบบไฟฟ้าภายในบ้าน รวมถึงการเลือกขนาดกระแสพิกัดใช้งานเบรกเกอร์ที่ ไม่เหมาะสม ถ้าเกิดเหตุการณ์เบรกเกอร์ทริปบ่อยจะ ต้องตรวจหาสาเหตุก่อนว่าเกิดจากการใช้กระแสไฟฟ้า เกินหรือมีกระแสไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ จากนั้นให้ ทำการแก้ไขให้ถูกจุด เช่น ต่อสายไฟฟ้าให้แน่นกรณีที่ ขั้วต่อสายไฟฟ้าหลุดหลวม หรือทำการเปลี่ยนขนาด เบรกเกอร์กรณีที่มีการใช้ไฟฟ้าเกิน แต่ในกรณีนี้จะ ต้องคำนึงถึงขนาดกระแสพิกัดของสายไฟฟ้าด้วย โดย
กระแสพิกัดของอุปกรณ์ไฟฟ้า < กระแสพิกัดใช้งานเบรกเกอร์ < กระแสพิกัดสายไฟฟ้า
เบรกเกอร์ตัดหรือทริปบ่อยๆ เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ
วิธีตรวจเช็คเบื้องต้น
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในอาคาร ที่พัก แล้วทำการ เปิดทีละอุปกรณ์แล้วปิด ไล่เปิดอุปกรณ์ต่อไป สังเกตุว่าเปิดอุปกรณ์อะไรแล้วเกิดการทริป
- ลองใช้หลังมือแตะ ดูว่าตัวที่ตัด ว่าร้อนผิดปกติหรือร้อนแตกต่างจากตัวอื่นมากไหม ถ้าร้อนมากก็เป็นไปได้ว่ากระแสไหลเกือบเท่าขีดจำกัดของเบรคเกอร์ แนะนำให้เปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ ที่สามารถทนกระแสได้มากกว่าเดิม (หากไม่ทราบกระแส ให้ใช้ Amp Meter วัดค่า) และถ้าเปลี่ยนเบรกเกอร์ที่มีกระแสมากกว่าเดิม ให้เปลี่ยนสายไฟที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
- ต้อง รู้ชนิดของเบรกเกอร์เสียก่อนว่า เป็น เบรกเกอร์ ชนิดอะไร เช่น ตัดไฟรั่ว ไฟดูด หรือ กระแสไฟเกินพิกัด
- สายไฟเข้าที่เบรกเกอร์หลวมหรือไม่
(หากเช็ควิธีเบื้องต้นแล้วยังไม่พบสาเหตุ แนะนำให้ปรึกษาช่างหรือผู้เชียวชาญเท่านั้น)
สาเหตุเบรกเกอร์ตัด
1.เกิดไฟฟ้าลัดวงจร
สาเหตุแรกที่ตัวเบรกเกอร์นั้นมักจะตัดการทำงานอยู่เป็นประจำอาจจะเกิดจากการลัดวงจรของสายไฟฟ้าที่เดินอยู่ภายในบ้านของคนซึ่งอาจจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของสายไฟฟ้าที่เกิดจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นอายุการใช้งานการโดนหนูหรือแมลงกัดจนทำให้ตัวสายไฟงั้นเกิดการช็อตกันเอง หรือเกิดการเสียดสีหรือสายไฟขยับจนทำให้ตัวฉนวนกันความร้อนเสื่อมสภาพแล้วทำให้ลวดทองแดงที่อยู่ภายในเกิดการสัมผัสกัน ซึ่งสาเหตุนี้มีความอันตรายมากเส้นวิธีแก้นั้นจะต้องทำการแก้ไขที่สาเหตุหลักของสิ่งที่ทำให้ตัวเบรกเกอร์ตัดนั่นก็คือการลัดวงจรจะต้องไล่สายไฟจนหาจุดนี้ให้ เจอจึงจะสามารถที่จะแก้ไขได้ไม่ควรที่จะปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาดซึ่งอาจจะทำให้กระแสไฟฟ้าที่ลัดวงจรนั้น เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการช็อตคนตายในบ้านหรือเกิดเพลิงไหม้ได้ในอนาคต
2.ใช้กระแสไฟฟ้าเกินขนาดของเบรกเกอร์
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาเชื่อมต่ออยู่บนสายที่เชื่อมต่ออยู่กับตัวเบรกเกอร์นะกินกระแสไฟฟ้าเกินกว่าที่ตัวเบรกเกอร์จะรับได้ซึ่งจะทำให้ตัวเบรกเกอร์นั้นทำการตัดโดยอัตโนมัติเนื่องจากว่ากระแสไฟฟ้าที่ดึงไปนั้นเกินค่ามาตรฐานที่ตัวเบรกเกอร์ได้ทำการออกแบบไว้จึงทำให้เบรกเกอร์ไม่สามารถที่จะรับกระแสไฟฟ้าเหล่านั้นได้และเห็นว่าเป็นกระแสไฟฟ้าเกินเนื่องจากว่าตัวเบรกเกอร์นั้นถูกออกแบบมาให้ทำการตัดกระแสไฟฟ้าในกรณีที่กระแสไฟฟ้าเกินตามขนาดขอเบรกเกอร์แต่ละขนาดซึ่งจะมีการวัดหน่วยเป็นแอมป์อย่างเช่นเบรกเกอร์ขนาด 10 แอมป์ขนาด 20 แอมป์และขนาด 30 แอมป์นั้นจะอนุญาตให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้ไม่เกินจำนวนที่ระบุมาในเบรกเกอร์ถ้ามีกระแสไฟฟ้าวิ่งเกินเบรกเกอร์จะทำการตัดทันทีเพราะฉะนั้นแล้ววิธีการแก้ไขนั่นก็คือการเพิ่มขนาดของเบรกเกอร์ให้เรารับกระแสไฟฟ้ามากขึ้นและให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่นำมาต่อ
3.เบรกเกอร์เสื่อมสภาพอายุการใช้งาน
เบรกเกอร์เสื่อมสภาพอายุการใช้งานก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตัวเบรกเกอร์นั้นจัดอยู่เป็นประจำเนื่องจากบ้านอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนั้นมีอายุในการใช้งานของพวกมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่มีอายุการใช้งาน 10 20 ถึง 30 ปีนั้นอุปกรณ์เหล่านี้ควรที่จะมีการดูแลรักษาและเปียกอยู่เป็นประจำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานภายในบ้านและจะต้องมีการตรวจเช็คเมื่อพบปัญหาผิดปกติต่างๆบนระบบไฟฟ้าและในการเปลี่ยนควรที่จะใช้เบรกเกอร์ที่มีขนาดเท่าเดิมหรือใกล้เคียงเพื่อทำให้การใช้งานนั้นมีประสิทธิภาพที่เหมาะสมการใช้งาน Breaker ที่มีขนาดมากกว่าปกตินั้นอาจจะทำให้เกิดอันตรายในอนาคตได้
4. สายไฟเข้าที่เบรกเกอร์หลวม
สายไฟเข้าที่เบรกเกอร์หลวม ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตัวเบรกเกอร์นั้นมีการตัดการทำงานอยู่อย่างเป็นประจำเนื่องจากว่าเมื่อสายไฟนั้นหลวมก็จะทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถที่จะเดินได้อย่างเต็มที่และเกิดความร้อนขึ้นในจุดที่สายไฟหลวมจนทำให้ตัวเบรกเกอร์นั้นเสียหายหรือเสื่อมสภาพในการทำงานซึ่งจะทำให้เบรกเกอร์นั้นทำงานผิดพลาดเพราะฉะนั้นแล้วควรที่จะทำการเช็คและเปลี่ยนเบรกเกอร์ในจุดที่มีสายเชื่อมต่อของเบรกเกอร์เสื่อมสภาพให้เป็นตัวใหม่จะมีความปลอดภัยมากกว่า
ข้อควรระวังสำหรับการตรวจสอบการทำงานของเบรกเกอร์นั่นก็คือควรที่จะใช้ช่างผู้ที่มีความชำนาญและมีใบอนุญาตในการดูแลระบบไฟฟ้าอาคารหรือ "หนังสือรับรองความรู้ความสามารถ" ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานและการตรวจเช็คอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้นถ้าคุณไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทำงานในระบบไฟฟ้าภายในบ้านนั้นไม่ควรที่จะทำเองเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงตามมาในภายหลังได้