หม้อหุงข้าวเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญสำหรับคนไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชอบรับประทานข้าวสวยเป็นอาหารหลักซึ่งตัวหม้อหุงข้าวนั้นจะเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้ที่จะช่วยให้เราสามารถที่จะทำการหุงข้าวสวยร้อนๆมารับประทานได้อย่างเอร็ดอร่อย
หม้อหุงข้าว คืออะไร? หม้อหุงข้าวเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟฟ้าทำความร้อนในการทำให้ข้าวสุกซึ่งกลไกในการทำงานนั้นตัวหม้อหุงข้าวจะมีขดลวดทำความร้อนอยู่ด้านล่างเมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังขดลวดดังกล่าวนั้นก็จะทำให้ขดลวดปล่อยความร้อนออกมาและกระจายความร้อนมายังโถใส่ข้าวที่วางอยู่ข้างบนซึ่งจะทำให้น้ำและข้าวที่อยู่ภายในนั้นสุขและเมื่อข้าวสุกตัวเทอร์โมสตัทก็จะทำการตัดกระแสไฟฟ้าให้โดยอัตโนมัติซึ่งเมื่อกระแสไฟฟ้าตัดแล้วตัวข้าวก็จะเริ่มค่อยๆสุกและพร้อมรับประทาน
ซึ่งหม้อหุงข้าวนั้นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ มีกลไกในการทำงานที่ง่ายดายและไม่มีความซับซ้อนจึงทำให้หม้อหุงข้าวไฟฟ้านั้นมีอายุในการใช้งานที่ยาวนานแต่การใช้งานหม้อหุงข้าวที่ไม่ถูกต้องนั้นอาจจะทำให้หม้อหุงข้าวมีอายุในการใช้งานที่สั้นลงและเสียหายได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วโดยหม้อหุงข้าวนั้นจะมีอายุในการใช้งานตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไปแต่ถ้าใช้งานไม่ถูกต้องนั้นอาจจะเหลือเพียงระยะเวลา 1- 2 ปีเท่านั้น
การดูแลรักษาหม้อหุงข้าว
ในการดูแลรักษาหม้อหุงข้าวนั้นมีเทคนิคและขั้นตอนวิธีการใช้งานง่ายๆไม่ซับซ้อนเพียงคุณทำตามวิธีเหล่านี้นั้นจะช่วยให้หม้อหุงข้าวของคุณมีอายุในการใช้งานยาวนานเพิ่มมากยิ่งขึ้นและช่วยให้คุณสามารถที่จะทำงานใช้งานได้ปลอดภัยขึ้นด้วย
1.เช็คหม้อหุงข้าวให้แห้งก่อนหุง
ก่อนที่จะทำการหุงข้าวนั้นเราจะทำการล้างโถหุงข้าวที่อยู่ภายในก่อนหรือการใส่ข้าวและน้ำนั้นอาจจะทำให้โถใส่ข้าวเปียกซึ่งก่อนที่จะวางลงบนหม้อหุงข้าวนั้นคุณควรที่จะใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งก่อนที่จะทำการวางเพราะมิฉะนั้นแล้วน้ำที่เกาะอยู่บนโถใส่ข้าวนั้นอาจจะทำให้ชุดทำความร้อนของหม้อหุงข้าวเกิดความเสียหายและอาจจะทำให้เกิดคราบสนิมบนชุดทำความร้อนดังกล่าวและอาจจะทำให้ตัวหม้อหุงข้าวนั้นเกิดการลัดวงจรหรือเกิดสนิมได้ง่ายดายจนทำให้อายุในการใช้งานนั้นสั้นลงนั่นเองเพราะฉะนั้นแล้วก่อนที่จะวางโถใส่ข้าวควรที่จะทำความสะอาดให้ดี
2.ไม่ควรปิดช่องระบายไอน้ำ
หม้อหุงข้าวนั้นส่วนใหญ่จะมีช่องระบายไอน้ำซึ่งจะออกแบบมาให้ทำการระบายไอน้ำที่เกิดขึ้นจากการให้ความร้อนและการหุงข้าวอยู่ภายในเพราะฉะนั้นแล้วช่องระบายไอน้ำดังกล่าวนั้นไม่ควรที่จะปิดหรือมีวัสดุใดเข้าไปปิดไว้ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาฟองอากาศหรือหยดน้ำแล้วไหลลงบนหม้อหุงข้าวไฟฟ้าของคุณซึ่งนอกจากจะทำให้สกปรกเลอะเทอะแล้วยังอาจจะทำให้ระบบกระแสไฟฟ้าของหม้อหุงข้าวนั้นเกิดการลัดวงจรและเกิดความเสียหายได้นั่นเอง
3.ใช้ทัพพีพลาสติก
สำหรับหม้อหุงข้าวที่มีการเคลือบสารกันอาหารติดหรือสาร non-stick นั้นไม่ควรใช้ทัพพีหรือช้อนที่เป็นโลหะในการตักข้าวเด็ดขาดซึ่งตัวช้อนที่เป็นโลหะนั้นอาจจะทำให้พื้นผิวป้องกันอาหารติดของห้องเท่านั้นเกิดรอยและเกิดการถลอกหรือลอกจนทำให้คุณสมบัติในการป้องกันอาหารติดนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและทำให้การทำความสะอาดหม้อหุงข้าวของคุณนั้นสามารถที่จะทำความสะอาดได้ยากโดยทัพพีที่เป็นวัสดุจำพวกพลาสติก จะไม่ทำลายพื้นผิว non-stick ดังกล่าว
4.ถอดปลั๊กเมื่อไม่ได้ใช้งาน
หม้อหุงข้าวไฟฟ้านั้นเมื่อไม่ได้ใช้งานควรที่จะถอดปลั๊กออกเพราะว่ากระแสไฟฟ้าที่อยู่ภายในจะมีการไหลอยู่ตลอดเวลาและเมื่อคุณไปสัมผัสลงบนสวิตช์ปิดเปิดโดยไม่ได้ตั้งใจนั้นอาจจะทำให้ตัวหม้อหุงข้าวทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจและจะทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานได้
5. การทำความสะอาด
ในการทำความสะอาดหม้อหุงข้าวโดยเฉพาะโถที่อยู่ภายในนั้นไม่ควรที่จะใช้ฝอยเหล็กหรือฝอยขัดหม้อในการขัดหรือทำความสะอาดเนื่องจากว่าอาจจะทำให้พื้นผิวป้องกันอาหารติดนั้นเกิดการลอกและเสียหายได้ควรที่จะใช้เพียงวัสดุที่มีความนุ่มและบางอย่างเช่นฟองน้ำหรือใช้ผ้าสะอาดในการทำความสะอาดก็ถือว่าเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณฝาของหม้อหุงข้าวและช่องระบายไอน้ำนั้นควรที่จะต้องทำการถอดมาล้างทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเนื่องจากว่าในส่วนนี้จะมีเศษข้าวหรือสิ่งสกปรกต่างๆที่ถูกดันขึ้นไปและอาจจะทำให้ข้าวนั้นเกิดการบูดได้อย่างรวดเร็วถ้ามีเชื้อแบคทีเรียอยู่บริเวณนี้โดยทั่วไปแล้วหม้อหุงข้าวส่วนมากจะสามารถถอดฝาด้านบนได้ซึ่งคุณสามารถจะดูขั้นตอนและวิธีการได้จากคู่มือผู้ใช้งาน
และถ้าคุณกำลังมองหาหม้อหุงข้าวเพื่อที่จะนำมาใช้งานนั้นและยังสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อหม้อหุงข้าวรุ่นไหนแบบไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดยาวนานและมีความทนทานมากที่สุดโดยเราได้ทำการรวบรวมเอาข้อมูลต่างๆที่คุณควรจะรู้ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามาใช้งานได้ที่บทความนี้ “ หม้อหุงข้าวขนาด 1.8 ลิตร ยี่ห้อไหนดี” ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลต่างๆเอาไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อหม้อหุงข้าวที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด