ตรอ. คืออะไร? ตรอ. ย่อมาจาก สถานตรวจสภาพรถเอกชน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกให้เป็นสถานที่ที่ใช้ในการตรวจสอบสภาพรถยนต์ว่ามีความพร้อมในการใช้งานที่ตรงตามกับข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกหรือไม่และสามารถออกเอกสารรับรองเพื่อใช้ในการต่อภาษีประจำปีหรือเรียกว่าต่อทะเบียนได้ซึ่งโดยปกติแล้วที่เราจะต้องนำเอารถยนต์ไปตรวจสภาพ ต่างๆที่กรมขนส่งทางบกซึ่งมีการให้บริการที่จำกัดจำนวนเพราะฉะนั้นการอนุญาตให้มีสถานตรวจสภาพรถยนต์เอกชนจึงเป็นสิ่งที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถที่จะทำการตรวจสภาพรถยนต์เพื่อทำการเสียภาษีรายปีหรือต่อทะเบียนได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
โดยในการที่จะต่อภาษีหรือต่อทะเบียนรายปีของรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานเกิน 7 ปีขึ้นไปนั้นจะต้องทำการ ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนที่จะทำการต่อทะเบียน จึงสามารถที่จะทำการเสียภาษีและต่อทะเบียนได้ซึ่งแตกต่างกันกับรถใหม่ที่มีอายุ 1-7 ปีนั้นไม่ต้องตรวจสภาพสามารถที่จะทำการต่อทะเบียนได้เลย
ซึ่งข้อดีหลักๆของ ตรอ. หรือสถานตรวจสภาพรถเอกชนนั่นก็คือ ความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจสภาพรถยนต์ที่ศูนย์บริการตรอหรือตรวจสภาพรถยนต์จะมีให้บริการอยู่แทบจะทุกอำเภอหรือ ตามเขตชุมชนต่างๆที่มีการใช้รถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ อย่างหนาแน่น ซึ่งจะสามารถตรวจสภาพรถได้รวดเร็วมากกว่าการนำเอาไปตรวจสภาพที่ขนส่งจังหวัดที่มีอยู่เพียงสถานที่เดียวในตัวจังหวัดเท่านั้นซึ่งอาจจะทำให้การทำงานในการต่อทะเบียนรวมถึงการต่อภาษีนั้นใช้ระยะเวลานานและมีความยุ่งยากเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
เราจะต้องตรวจสภาพรถ ที่ ตรอ เมื่อไหร่
สำหรับรถยนต์นั้นรถที่จะต้องทำการตรวจสภาพก่อนที่จะเสียภาษีหรือต่อทะเบียนจะต้องมีอายุการใช้งานที่มากกว่า 7 ปีในขณะที่รถจักรยานยนต์นั้นรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 5 ปีขึ้นไปจะต้องมีการตรวจสภาพก่อนที่จะทำการต่อทะเบียนหรือภาษีทุกครั้งซึ่งรถยนต์และจักรยานยนต์ที่จะต้องทำการตรวจสภาพก่อนที่จะทำการต่อทะเบียนหรือภาษีนั้นได้แก่
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป
โดยเจ้าของรถนั้น สามารถดูอายุการใช้งานจากวันที่จดทะเบียนได้ในเล่มทะเบียนสีน้ำเงินหรือสีเขียว ที่กรมการขนส่งทางบกเป็นคนออกให้ ให้นับตั้งแต่วันจดทะเบียนวันแรกจนถึงวันครบกำหนดเสียภาษี แต่ถ้าอายุการใช้งานไม่ถึงตามที่กฎหมายกำหนด ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถกับตรอ. และในการตรวจสภาพรถในปีที่ถึงกำหนดสามารถทำการตรวจสภาพที่ตรอ.ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือนก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีประจำปี
แต่จะมีรถบางประเภทที่ไม่สามารถที่จะทำการตรวจสภาพได้ที่ ตรอ. ได้จะต้องไปทำการตรวจสภาพที่ขนส่ง หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดเท่านั้นซึ่งจะมีสถานที่ตรวจสภาพสำหรับรถยนต์บางประเภทที่ไม่สามารถตรวจสภาพที่สถานตรวจรถยนต์เอกชนได้ได้แก่
- รถที่ขาดต่อทะเบียน เกิน 1 ปี
- รถที่มีการดัดแปลงสภาพ, เปลี่ยนแปลงตัวรถ, เปลี่ยนสี, หรือส่วนใดส่วนหนึ่ง ที่ไม่ตรงกับรายละเอียดในสมุดคู่มือทะเบียนรถ
- รถที่ไม่ปรากฏตัวเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ มีรอยขูดขีด แก้ไข ชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
- รถที่มีการแจ้งไม่ใช้งานชั่วคราว หรือแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป กับกรมการขนส่งเอาไว้
- รถที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001, กทจ-0001 เป็นต้น ก็ไม่สามารถตรวจสภาพที่ ตรอ.ได้เช่นกัน เพราะจะต้องเปลี่ยนทะเบียนรถใหม่ เมื่อมีการนำมาเสียภาษีประจำปี
- รถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ที่เคยสูญหาย หรือเคยโดนโจรกรรมแล้วได้คืน ต้องตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งเท่านั้น
เอกสารที่ใช้ในการตรวจสภาพรถยนต์จาก ตรอ.
- เจ้าของรถ
- รถที่ต้องการตรวจสภาพ
- สมุดเล่มทะเบียนรถหรือสำเนา (มอเตอร์ไซค์เล่มสีเขียว/รถยนต์เล่มสีน้ำเงิน)
ค่าบริการในการตรวจสภาพรถยนต์จาก ตรอ.
สำหรับอัตราค่าตรวจสภาพรถจากตรอ. ได้ถูกกำหนดโดยกรมการขนส่งทางบก ให้ใช้ราคาเดียวกันทั่วประเทศ ดังนี้
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม 150 บาท/คัน
- รถยนต์น้ำหนักรถเปล่าเกิน 1,600 กิโลกรัม 250 บาท/คัน
- รถจักรยานยนต์ 60 บาท/คัน