คีย์บอร์ดมีไฟ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี

 คีย์บอร์ดมีไฟ เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ PC Notebook หรือ laptop ได้อย่างสะดวกสบายเนื่องจากว่าตัวคีย์บอร์ดนั้นมีการเพลงแสงไฟซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะเห็นตัวอักษรต่างๆได้อย่างชัดเจนแม้ในเวลาที่มีแสงน้อยตอนกลางคืน ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ซึ่งคีย์บอร์ดมีไฟและได้รับความนิยมมาอย่างน้อย 8-9 ปีและในอดีตการซื้อคีย์บอร์ดที่มีไฟหรือซื้อ Notebook ซึ่งมีคีย์บอร์ดที่มีไฟนัดเรียนไหมว่าเป็นอุปกรณ์ระดับ hi end ที่ทุกคนต่างต้องการที่จะใช้งานเนื่องจากว่ามีความสะดวกสบายในการใช้งานและทำให้การพิมพ์ข้อความต่างๆบนคีย์บอร์ดไม่สามารถที่จะทำได้อย่างชัดเจนมากกว่าคีย์บอร์ดธรรมดานั่นเอง

จึงทำให้ในปัจจุบันนี้มีความนิยมในการใช้งานคีย์บอร์ดมีไฟเพิ่มมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Gaming Keyboard ที่นอกจากจะมีไฟแล้วยังมีไฟแบบ rgb ที่สามารถไล่สีได้ซึ่งจะช่วยให้การเล่นเกมนั้นมีอรรถรสหรือให้ความรู้สึกในการเล่นเกมที่ดูไฮเทคเพิ่มมากยิ่งขึ้นสามารถที่จะใช้ในการตกแต่งโต๊ะคอมหรือจัดโต๊ะคอมสำหรับเล่นเกมให้มีความสวยงามเพิ่มมากยิ่งขึ้น

และในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ามีคีย์บอร์ดมีไฟวางขายมากมายหลายรูปแบบ  และหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟรุ่นไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้ดีที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาคีย์บอร์ดมีไฟมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด

คีย์บอร์ดมีไฟ ยี่ห้อไหนดี?

ในการที่จะเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟนั้นควรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟจากผู้ผลิตที่เชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีเลยท้องตลาดกว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพที่ดีเพียงพอที่จะนำมาใช้งานมีการใช้วัสดุและอุปกรณ์คุณภาพสูงซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเต็มประสิทธิภาพไม่ควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟจากผู้ผลิตที่ไม่เป็นที่รู้จักเด็ดขาดอาจจะทำให้คุณนั้นไม่สามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเองโดยที่บ่มีไฟที่เรานั้นได้แนะนำได้แก่คีย์บอร์ดมีไฟยี่ห้อ Razer, HP, Fantech, anitech และ Tsunami

แนะนำ คีย์บอร์ดมีไฟ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี

#1.คีย์บอร์ดมีไฟ TSUNAMI MK-04 

เป็นคีย์บอร์ดมีไฟแบบ คีย์บอร์ด TKL เพียง 87 ปุ่ม  ซึ่งใช้ switchแบบ  Outemu Mechanical ที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการพิมพ์ได้อย่างตำรวจและแข็งแรง รูปแบบคีย์บอร์ดแบบ Youth Palette

• การออกแบบป้องกันฝุ่นและน้ำ ช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นตัวคีย์บอร์ดสามารถที่จะเปลี่ยนสีได้สูงสุดถึง 3 สีได้แก่สีฟ้าสีแดงและสีน้ำตาลรวมถึงสามารถที่จะแสดงผลไฟแบบ rgb ได้ตัว Key Cab สามารถที่จะทำการถอด  ถอดเปลี่ยนได้เพื่อความสะดวกในการใช้งานปุ่มรองรับการปลดสูงสุดถึง 20 ล้านครั้งต่อปุ่มและมีการเชื่อมต่อ  USB ให้ใช้งาน

👉ไปที่ร้านค้า

จุดเด่นของคีย์บอร์ดมีไฟรุ่นนี้

1.วัสดุกรอบตัวเครื่อง : พลาสติก ABS

2.สวิตช์เครื่องกล : Outemu Mechanical Switch (Blue/Red/Brown)

3. คีย์แคป : ถอดได้

4. คีย์แคปสี : Youth Palette (ส้ม/เทา/เทาเข้ม)

5. จำนวนคีย์ : 87 ปุ่ม

6.อายุการใช้งาน : 20 ล้านครั้ง

#2.คีย์บอร์ดมีไฟ  HP K100 คีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกม 

เป็นคีย์บอร์ดมีไฟ  HP K100 คีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกม  104-Key Backlight และเอฟเฟกต์แสงที่มีสีสัน สวยงามและมีการส่งผ่านแสงที่ยอดเยี่ยมซึ่งเกิดจากการเขียนด้วยเลเซอร์ที่มีความคมชัดสูง  รอผมก่อนนั้นมีความแข็งแรงทนทานทนต่อการสึกหรอและสามารถที่จะใช้งานได้อย่างยาวนาน

เหมาะสำหรับใช้ในการเล่นเกมหรือการพิมพ์เอกสารหรือการตกแต่งโต๊ะคอมเพื่อความสวยงามและยางรองรับการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตัวขี่นะมาพร้อมกับขี่ที่มีความแข็งแรงทนทานสูง จึงทำให้คุณนั้นสามารถที่ทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 

👉ไปที่ร้านค้า

จุดเด่นของคีย์บอร์ดมีไฟรุ่นนี้

1.104-Key Backlight

2.เหมาะสำหรับใช้ในการเล่นเกมหรือการพิมพ์เอกสาร

3.มีความทนทานสูง

#3.คีย์บอร์ดมีไฟ  Razer BlackWidow V3 Pro

เป็นคีย์บอร์ดมีไฟที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีไร้สาย Razer™ HyperSpeed สำหรับการเล่นเกมไร้สายที่มีความหน่วงต่ำ 3 โหมดการเชื่อมต่อผ่าน Razer™ HyperSpeed (ไร้สาย 2.4GHz), Bluetooth และ USB-C Razer™ Mechanical Switches เพื่อการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ

 ตัวเรือนสวิตช์แบบโปร่งใสเพื่อให้แสง Razer Chroma™ RGB สว่างขึ้น  ปุ่มกด ABS Doubleshot ทนทานต่อการใช้งานที่รุนแรง Razer BlackWidow V3 Pro มีให้เลือกสองรุ่น  ประเภทสวิตช์ : Razer™ Yellow Mechanical Switch ความรู้สึกที่สำคัญ : เชิงเส้นและเงียบ ประเภทสวิตช์ : Razer ™ Green Mechanical Switch ความรู้สึกที่สำคัญ : สัมผัสและ Clicky ขนาด : ขนาดเต็ม LIGHTING : แสงพื้นหลัง Razer Chroma™ พร้อมตัวเลือกสีที่ปรับแต่งได้ 16.8 ล้านสี.

👉ไปที่ร้านค้า

จุดเด่นของคีย์บอร์ดมีไฟรุ่นนี้

1.Razer™ Mechanical Switches เพื่อการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ

2.ตัวเรือนสวิตช์แบบโปร่งใสเพื่อให้แสง Razer Chroma™ RGB สว่างขึ้น

3.ปุ่มกด ABS Doubleshot ทนทานต่อการใช้งานที่รุนแรง

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟมาใช้งาน

1.ขนาดของคีย์บอร์ด

ในการที่จะเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อคีย์บอร์ดที่มีขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของคุณโดยพิจารณาจากลักษณะในการใช้งานของคุณเป็นหลักซึ่งคีย์บอร์ดมีไฟนี้จะมีขนาดให้เลือกต่างๆมากมายหลากหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กซึ่งมีกี่จำนวน 100 เพื่อเหมาะสมในการพกพาสำหรับการใช้งานร่วมกับแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ซึ่งจะทำให้การเคลื่อนย้ายนั้นมีความสะดวกสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นคีย์บอร์ดขนาด full size ซึ่งมีปุ่มให้ใช้งานเต็มที่ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานในการทำงานต่างๆได้อย่างครบถ้วนเหมาะสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ

คีย์บอร์ดขนาดกระทัดรัดหรือ Compact Keyboard เป็นคีย์บอร์ดที่มีขนาดปุ่ม 84 นิ้วที่สามารถใช้ในการพิมพ์ข้อความได้แต่ไม่มีปุ่มตัวเลขมาให้ซึ่งจะทำให้ตัวคีย์บอร์ดนั้นมีขนาดที่สั้นลงมากกว่าคีย์บอร์ดปกตินั่นเองซึ่งในการเลือกซื้อมาใช้งานนั้นก็ให้เลือกซื้อตามความเหมาะสมและความต้องการรวมถึงความถนัดในการใช้งานของคนเป็นหลักซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.รูปแบบของแสงไฟบนคีย์บอร์ด

รูปแบบของแสงไฟบนคีย์บอร์ดสำหรับคีย์บอร์ดมีไฟนั้นจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบได้แก่แบบที่เป็นไฟล์แบบ rgb ซึ่งจะสามารถที่จะทำการไล่สีและการผสมสีจากแม่สีต่างๆซึ่งจะทำให้ตัวคีย์บอร์ดนั้นมีความสวยงามเพิ่มมากยิ่งขึ้นน่าใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นเหมาะสำหรับการใช้งานในการเล่นเกมเป็นหลักแต่คีย์บอร์ดประเภทนี้นั้นอาจจะไม่เหมาะสำหรับใช้ในการพิมพ์งานหรือการทำงานเอกสารเนื่องจากว่าจะทำให้คุณนั้นลายตาและเวียนหัวได้  ดังนั้นควรที่จะเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟแบบที่เป็นแสงสีเดียว ซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และนอกจากนั้นคีย์บอร์ดมีไฟประเภทนี้ยังสามารถที่จะทำการเปลี่ยนสีหรือเลือกสีให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณได้ไม่ว่าจะเป็นสีขาวแสงสีแดงสีฟ้าหรือสีต่างๆตามความต้องการในการใช้งานของคนซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเลือกสีที่เหมาะสมกับการพิมพ์ข้อความของคุณได้นั่น

3.การเชื่อมต่อของคีย์บอร์ด

คีย์บอร์ดที่มีไฟนัดจะสามารถที่จะเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้อย่างหลากหลายขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้งานของคุณว่าจะนำเอาไปเชื่อมกับอุปกรณ์ใดอย่างเช่นการเชื่อมต่อเข้ากับ Notebook นั้นควรที่จะมี Interface การเชื่อมต่อแบบ USB หรือการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยการใช้คลื่นสัญญาณบลูทูธที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อและใช้งานได้อย่างสะดวกสบายหรือการใช้งานร่วมกับแท็บเล็ตนั้นควรที่จะเป็นคีย์บอร์ดมีไฟแบบที่เป็น Bluetooth ซึ่งจะทำให้การพกพามีความสะดวกสบายเพิ่มมากยิ่งขึ้นไม่มีสายมาให้เกะกะ  หรือสำหรับการใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์เกมมิ่งนั้นควรที่จะเป็นคีย์บอร์ดมีไฟแบบใช้สายซึ่งจะทำให้มีอัตราการดีเลย์ที่ค่อนข้างต่ำและทำให้การเล่นเกมนั้นสามารถที่จะทำการเล่นเกมได้ดีกว่าการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่มีอัตรา delay ที่ค่อนข้างสูงจากการเชื่อมต่อบลูทูธ

4.ประเภทของปุ่มคีย์บอร์ด

ในการเลือกซื้อคีย์บอร์ดนั้นชนิดของปุ่มกดมีความสำคัญมากเนื่องจากว่าจะให้ความรู้สึกในการพิมพ์ข้อความและการใช้งานนั้นมีความแตกต่างกันโดยคีย์บอร์ดที่มีความนิยมในการใช้งานในปัจจุบันนี้จะมีอยู่ 2 ประเภทได้แก่คีย์บอร์ดแบบกลไก หรือ Mechanical  คีย์บอร์ด และคีย์บอร์ดแบบ กึ่งกลไก ซึ่งคีย์บอร์ดทั้ง 2 ประเภทนั้นก็จะให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่แตกต่างกันโดยหลักแล้วความแตกต่างก็คือการตอบสนองเสียงขณะกดความสบายในการพิมพ์ของคีย์บอร์ดแบบ Mechanical จะให้ความรู้สึกในการพิมพ์ที่ดีกว่าพิมพ์ได้แม่นกว่าและให้เสียงขณะที่ใช้งานสบายดีกว่า

5.มีระดับราคาที่เหมาะสม

คีย์บอร์ดมีไฟที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีระดับราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพของตัววัสดุและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำรวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์ไม่ควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดมีไฟที่ไม่มีคุณภาพหรือใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ด้อยคุณภาพซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นไม่สามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานของคุณ

6.การรับประกันและการบริการหลังการขาย

คีย์บอร์ดมีไฟที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 1 ถึง 3 เดือนเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ในกรณีที่เกิดปัญหาขณะที่ใช้งานนั้นคุณสามารถที่จะทำการเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้ขายหรือผู้ผลิตได้ในกรณีที่ปัญหานั้นเกิดจากการทำงานหรือการประกอบที่ไม่ได้คุณภาพ