Infinix Note 11 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอแบบ Amoled 6.7 นิ้วความละเอียด FHD+ ใช้ชิป Mediatek helio G88 สำหรับเล่นเกมและการใช้งานทั่วไป ซึ่งในตลาดสมาร์ทโฟนในราคาถูกที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายเหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อที่จะนำเอาไปใช้งานพื้นฐานต่างๆหรือใช้ในการเล่นเกมในระดับเริ่มต้น
สเปคของ Infinix Note 11
Infinix Note 11 มาพร้อมกับหน้าจอแบบ amoled ขนาด 6.7 นิ้วความละเอียด FHD+ ที่ 1080 x 2400 pixels สัดส่วนของหน้าจอ 20:9 ratio ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่มากกว่าขนาดมือถือมาตรฐานที่มีอยู่ในท้องตลาดซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานโซเชียลในการเล่นเกมหรือการดูวิดีโอได้อย่างชัดเจนมากกว่า
ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผล Chipset MediaTek Helio G88 เทคโนโลยีในการผลิตขนาด 12nm ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการเล่นเกมและการทำงานทั่วไปโดยเป็นชิปในกลุ่มของมือถือสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับล่างที่เน้นราคาที่ไม่แพง CPU Octa-core (2x2.0 GHz Cortex-A75 & 6x1.8 GHz Cortex-A55) ความเร็วสูงสุด 2.0 ghz ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการประมวลผลต่างๆได้อย่างเพียงพอ และ ใช้ GPU Mali-G52 MC2 ในการประมวลผลซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ทำการใช้งานภาพได้อย่างคมชัด และสวยงามไม่ว่าจะเป็นสีสันต่างๆรวมถึงความลื่นไหลในการแสดงผลกราฟฟิก ตัวเครื่องนั้นมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 11 และ ครอบทับด้วย XOS 10
ในส่วนของหน่วยความจำนั้น Infinix Note 11 มาพร้อมกับ Ram ให้เลือกใช้ 2 ขนาดได้แก่ขนาด 4 GB และ 6 GB พื้นที่ในการเก็บข้อมูล ROM ให้เลือกใช้งาน 2 ขนาดได้แก่ขนาด 64 และ 128 GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในการติดตั้งแอปพลิเคชันทั่วไป และนอกจากนั้นยังมาพร้อมกับช่องสำหรับเสียบสื่อบันทึกข้อมูลอย่าง Micro SD Card ซึ่งมีแยกมาให้เฉพาะซึ่งสามารถที่จะนำการใส่ Micro SD Card ความจุสูงสุดถึง 512 GB
สำหรับกล้องของ Infinix Note 11
มาพร้อมกับกล้องหลังแบบ Triple Camera หรือกล้อง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล f/1.6, (wide), PDAF 2 MP, f/2.4, (depth) ที่รองรับการใช้ Quad-LED flash, HDR, panorama สามารถที่จะถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1440p@30fps
ตัวกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่นั้นมาพร้อมกับกล้องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลรองรับการถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080 P ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
สำหรับระบบเสียงนั้น Infinix Note 11 มาพร้อมกับลำโพงคู่แบบ dual speaker และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเพื่อใช้ในการใช้งานร่วมกับหูฟังแบบมีสายซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานร่วมกับการฟังเพลงเล่นเกมหรือดูวิดีโอได้อย่างชัดเจนโดยที่ไม่มีการดีเลย์เกิด
การเชื่อมต่อของ Infinix Note 11 รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot และมาพร้อมกับการเชื่อมต่อคลื่น Bluetooth GPS Yes, with A-GPS. ตัวเครื่องและมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type C 2.0 ที่รองรับ OTG ที่รองรับใน การใช้งานเพื่อการชาร์จซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่นำการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆได้จากง่ายดาย
ในส่วนของเซ็นเซอร์นั้น Infinix Note 11 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ต่างๆให้ใช้งานอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างของตัวเครื่อง accelerometer, gyro, proximity, compass เพื่อการใช้งานร่วมกับ Application ต่างๆ
แบตเตอรี่ของ Infinix Note 11 มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบลิเธียมโพลิเมอร์ความจุ 5000 mAh แบบ ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้และรองรับการชาร์จเร็วที่ 33 วัตต์ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นสามารถที่จะใช้อุปกรณ์ได้นานมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวัน
Infinix Note 11 จะมีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สีได้แก่ Celestial Snow, Glacier Green, Graphite Black ส่วนราคาวางขายและเปิดตัวนั้นยังไม่มีการประกาศมาอย่างชัดเจนแต่คาดว่าจะมีราคาที่ไม่แพงเพราะเป็น Smartphone สำหรับตลาดระดับกลาง