หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ดูดพรมได้ไหม

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถที่จะดูดพื้นที่ปูพรมได้หรือไม่เป็นคำถามที่น่าสงสัยสำหรับผู้ที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเพื่อเขียนนำมาใช้งานนั้นอาจจะเริ่มสงสัยว่าแล้วเจ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดในปัจจุบันนี้สามารถที่จะใช้งานในการดูดฝุ่นบนพื้นพรมได้หรือไม่

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นหลายรุ่นสามารถที่จะใช้งานในการดูดฝุ่นบนพื้นพรมปูพื้นได้ดีเช่นเดียวกับการใช้งานในการดูดฝุ่นบนพื้นธรรมดาซึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการดูดที่แรงขึ้นและมีระบบตีฝุ่นบนพรม ซึ่งจะทำให้การดูดฝุ่นบนพื้นพรมนั้นสามารถที่จะทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นไม่ใช่ว่าทุกรุ่นทุกยี่ห้อจะสามารถที่จะใช้ในการดูดฝุ่นบนพื้นโฟมได้จะมีเฉพาะหุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้นจึงจะสามารถที่จะใช้ในการดูดฝุ่นบนพื้นพรมได้

โดยก่อนที่จะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นคุณจะเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อรุ่นและยี่ห้อที่มีฟีเจอร์ดังกล่าวซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้ในการดูดฝุ่นภายในบ้านของคุณได้อย่างเหมาะสมหุ่นยนต์ดูดฝุ่นบางรุ่นนั้นจะไม่สามารถที่จะใช้งานร่วมกับพื้นที่ปลูกผมได้เลยซึ่งอาจจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะใช้งานร่วมกับบ้านของคุณได้และจะทำให้คุณเกิดปัญหาในการใช้งานดังนั้นก่อนที่จะเลือกซื้อคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน

แนะนำ หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้ดูดพรมได้ รุ่นไหนยี่ห้อไหนดี

#1.iRobot Roomba i7 หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติ 

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba® i7 มาพร้อมกับระบบทำความสะอาด3ขั้นตอนที่เหนือชั้น ช่วยจัดการให้บ้านสะอาดในทุกวัน กับชุดแปรงยางคู่ทำความสะอาดหลากพื้นผิว และแรงดูดทรงพลังถึง 10เท่า* เพื่อทำความสะอาดพื้นผิวที่แตกต่างกันทั้งบ้านของคุณ Roomba® i7 สามารถเรียนรู้ สร้างแผนที่ และปรับการทำงานให้เหมาะสมตามพื้นที่ในบ้าน โดยใช้เทคโนโลยี Imprint™ระบบสร้างแผนที่อัจฉริยะ ให้คุณเลือกห้องและตั้งเวลาที่จะทำความสะอาดได้ พลังทำความสะอาดอยู่ที่ปลายนิ้วสัมผัสเสมอกับแอปพลิเคชั่นiRobot HOMEที่ให้คุณควบคุมพื้นที่ เวลา และวิธีที่หุ่นยนต์ของคุณจะทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณ.

👉ไปที่ร้านค้า

#2.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot รุ่น Roomba e5

หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba e5 กับระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอนที่เหนือชั้น ช่วยจัดการให้บ้านสะอาดในทุกวัน กับชุดแปรงยางคู่ทำความสะอาดหลากพื้นผิว แรงดูดทรงพลัง และฟิลเตอร์กรองฝุ่นประสิทธิภาพสูง นำทางด้วยระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานทั่วพื้นที่ เลาะขอบกำแพง มุม รอบเฟอร์นิเจอร์ พร้อมทำงานซ้ำในบริเวณที่มีฝุ่นมากโดยอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect™️ ถังเก็บฝุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ล้างน้ำได้เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้น ควบคุมการทำงานและตั้งเวลาล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน iRobot HOME.

เสริมประสิทธิภาพการทำงานให้เต็มที่ทั้งการเชื่อมต่อWi-Fi® แปรงปัดด้านข้างสำหรับเลาะขอบหัวทำความสะอาดที่ปรับการทำงานอัตโนมัติ เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตร Dirt Detectระบบนำทางอัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดสามารถทำงานได้ทั้งบนพื้นพรมและพื้นเนื้อแข็ง

👉ไปที่ร้านค้า

#3.หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot รุ่น Roomba s9+

เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นประสิทธิภาพสูงที่มาพร้อมกับระบบการกำจัดขยะจากหุ่นยนต์ได้ด้วยตัวเองด้วยระบบ Cubase ซึ่งจะมาพร้อมกับท่านกำจัดขยะอัตโนมัติเก็บเศษดินฝุ่นและเส้นผมอย่างมิดชิดมาพร้อมกำลังป้องกันสารก่อภูมิแพ้จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการดักจับสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์

มาพร้อมกับระบบการทำความสะอาด 3 ขั้นตอนที่เหนือชั้นให้แรงดูดทรงพลังมากยิ่งขึ้นและเซ็นเซอร์อัจฉริยะรวมถึงแปรงปัดข้างดีไซน์มาเพื่อการปัดในบริเวณมุมโดยเฉพาะจึงทำให้การทำความสะอาดในซอกมุมต่างๆและสามารถที่จะทำได้ดี

มีระบบนำทางและสร้างแผนที่อัตโนมัติภายในบ้านซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ทำการตั้งค่าการใช้งานและการโปรแกรมการใช้งานต่างๆได้อย่างสะดวกสบายสามารถสแกนพื้นที่ล่วงหน้าได้อย่างต่อเนื่องและเรียนรู้การสั้นแผนที่ใหม่ตามการปรับเปลี่ยนหรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านของคุณได้ด้วยซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย

สำหรับการใช้งานในพื้นพรมนั้นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ก็สามารถที่จะทำความสะอาดพื้นที่ที่มีความหนาได้ดี ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะใช้ในการทำความสะอาดพื้นบ้านที่ปูพรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้น

👉ไปที่ร้านค้า

สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นสำหรับพื้นพรมมาใช้งาน

1.ขนาดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขนาดที่เล็กกะทัดรัดเหมาะสมกับการใช้งานของคุณการมีขนาดที่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไปนั้นอาจจะไม่ได้มีความเหมาะสมกับการใช้งานเสมอไปอย่างเช่นถ้าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของคุณมีขนาดใหญ่จนเกินไปนั้นจะทำให้เกิดปัญหาในการเข้าไปยังพื้นที่แคบอย่างเช่นใต้โซฟาใต้โต๊ะหรือใต้เก้าอี้ได้ในขณะที่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กจนเกินไปนั้นอาจจะไม่สามารถที่จะทำงานบนพื้นพรมได้ดีเนื่องจากว่าพวกมันนัดมีพื้นหรือระยะห่างระหว่างพื้นกับตัวหุ่นยนต์น้อยจึงทำให้ไม่สามารถที่จะทำการเคลื่อนย้ายได้สะดวก

2.กำลังดูดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

โดยทั่วไปแล้วหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นจะมีกำลังในการดูดที่น้อยกว่าเครื่องดูดฝุ่นเนื่องจากว่าข้อจำกัดในด้านของพลังงานของแบตเตอรี่และมีมอเตอร์ที่ใช้ในการดูดฝุ่นที่เล็กกว่าจึงทำให้มีแรงดูดฝุ่นที่น้อยกว่าซึ่งจะเหมาะสำหรับใช้ในการดูดฝุ่นที่มีขนาดใหญ่เท่านั้นสำหรับฝุ่นผงที่มีขนาดเล็กควรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่อยู่เป็นประจำเช่นเดียวกันแต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นจะช่วยคุณแบ่งเบาภาระสำหรับเศษฝุ่นที่มีขนาดใหญ่ซึ่งจะทำให้คุณนั้นทำความสะอาดด้วยตัวเองน้อยลง

3.ระยะเวลาในการใช้งานต่อการชาร์จ

โดยส่วนใหญ่แล้วหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นจะสามารถที่จะทำการใช้งานหลังจากที่ชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้วได้สูงสุดไม่เกิน 1.5 ถึง 2 ชั่วโมงซึ่งตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการกลับไปที่ฐานชาร์จเพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นซึ่งระยะเวลาในการใช้งานต่อการชาร์จของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ที่อยู่ภายในตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นยิ่งมีความจุมากก็จะสามารถที่จะใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นมากกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีความจุของแบตเตอรี่น้อยและนอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย

4.การตั้งโปรแกรม

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนะก่อนที่พวกมันจะทำงานได้อย่างอัตโนมัติจะต้องมีการสร้างโปรแกรมให้ทำงานโดยผู้ใช้งานก่อนซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีพรมอยู่นั้นตัวเครื่องจะต้องสามารถที่จะทำการตรวจจับพื้นที่พรมได้และช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการตั้งค่าในการใช้งานต่างๆบนพื้นผิวที่หลากหลายได้ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสามารถที่จะเน้นพื้นที่บางพื้นที่หรือเฉพาะพื้นที่ให้ทำความสะอาดเป็นพิเศษได้ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายด้วยการตั้งโปรแกรมนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตั้งโปรแกรมเพียงครั้งเดียวก็จะสามารถใช้งานได้เรื่อยๆ

5.ระดับเสียงในการทำงาน

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระดับเสียงที่เหมาะสมไม่ดังเกินกว่า 65 เดซิเบลซึ่งเป็นระดับเสียงที่เราใช้ในการคุยกันซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานโดยที่ไม่รบกวนการอยู่อาศัยของคุณการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นที่มีเสียงที่ดังจนเกินไปนั้นอาจจะทำให้เกิดมลภาวะทางเสียงและทำให้เกิดความรำคาญในการอยู่อาศัยภายในบ้านได้ดังนั้นควรที่จะหลีกเลี่ยง