ในการใช้งานตู้เย็นนั้นผู้ใช้งานมักจะพบและประสบปัญหาต่างๆซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสงสัยว่าปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวนั้นจะกระทบหรือมีผลกระทบอะไรบ้างกับการใช้งานตู้เย็นเหล่านั้นและปัญหาดังกล่าวปกติหรือควรที่จะทำการรีบแก้ไขโดยด่วนเพื่อป้องกันอื่นๆปัญหาที่อาจจะตามมาในภายหลัง
โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนนั้นอาจจะเกิดขึ้นจากผู้ใช้เองหรือเกิดขึ้นจากการทำงานที่ผิดปกติของทางตู้เย็นเองซึ่งแต่ละปัญหาก็จะมีวิธีการในการแก้ไขที่แตกต่างกันไปโดยบางปัญหานั้นผู้ใช้งานจะแก้ปัญหาได้เองแต่สำหรับบางปัญหานั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการพึ่งช่างผู้ชำนาญงานในการแก้ไขเพื่อที่จะทำให้ตู้เย็นนั้นกลับมาใช้งานได้ดังเดิม
และจะเห็นได้ว่าปัญหาในการใช้งานตู้เย็นนั้นมีมากมายหลายปัญหาที่สามารถพบได้อีกเป็นประจำ ปัญหาหนักบ้างเบาบ้างซึ่งวันนี้เราจึงได้ทำการรวบรวมเอาปัญหาต่างๆที่ผู้ใช้มักจะพบเห็นและประสบเจอขณะที่ทำการใช้งานตู้เย็นมาให้คุณได้อ่านกัน
ปัญหาต่างๆในการใช้งานตู้เย็นที่มักพบเห็นได้เป็นประจำ
1.ปัญหาตู้เย็นไฟไม่เข้า
ไฟไม่เข้าตู้เย็นถึงแม้จะทำการเสียบปลั๊กแล้วก็ตามก็ไม่มีสัญญาณหรือเสียงการทำงานของตู้เย็นซึ่งสาเหตุที่ไฟไม่เข้าตู้เย็นนั้นจะเกิดจากปลั๊กที่ทำการเสียบเข้ากับตู้เย็นนัดหลวมหรือสายที่ใช้ในการเชื่อมต่อหรือเต้ารับนั้นไม่แน่นซึ่งอาจจะทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถที่จะทำการเดินมาได้อย่างครบวงจรซึ่งจะทำให้ตัวตู้เย็นนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้ถ้ากระแสไฟฟ้าไม่ครบวงจรดังนั้นในการแก้ไขก็คือการซ่อมปลั๊กหรือสายที่ใช้ในการเชื่อมต่อตู้เย็นให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิมโดยคุณสามารถที่จะทำการตรวจสอบได้ว่าปัญหานั้นเกิดจากสายไปซื้อปลั๊กไฟได้โดยการลองไปเสียบที่พระอื่นถ้าติดก็แสดงว่ารักที่คุณทำการเสียบนั้นมีปัญหาให้ทำการซ่อมแซมหรือแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิมแต่ถ้าถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนปลั๊กแล้วแต่ตู้เย็นก็ไม่ติดน่าจะเกิดจากปัญหาที่ตรวจตู้เย็น
2.ตู้เย็นกินไฟเท่าไหร่
สำหรับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการกินไฟของตู้เย็นซึ่งผู้ใช้งานอาจจะสงสัยว่าแล้วตู้เย็นกินไฟเท่าไหร่เราได้ทำการเขียนบทความแยกเกี่ยวกับปัญหาตู้เย็นกินไฟเท่าไหร่ไว้ที่บทความนี้ "ตู้เย็น กินไฟเท่าไหร่"ซึ่งคุณสามารถที่จะเข้าไปอ่านรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับปัญหานี้ได้ที่ลิงค์นี้ซึ่งโดยหลักๆแล้วตู้เย็นจะกินกระแสไฟฟ้าตามกำลังวัตต์ของตัวเครื่องยิ่งกำลังวัตต์มากก็จะกินไฟมากแน่นอกจากนั้นแล้วยังมีปัจจัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็นลักษณะการใช้งานของผู้ใช้งานและสภาพของตู้เย็นด้วย
3.ตู้เย็นกินไฟกี่วัตต์
คุณสามารถที่จะดูกำลังวัตต์สูงสุดที่ตู้เย็นที่คุณเลือกซื้อมาใช้งานนั้นว่ากินไฟกี่วัตต์ได้ที่คู่มือผู้ใช้งานซึ่งจะมีการระบุสเป็คต่างๆและรายละเอียดต่างๆของระบบไฟฟ้าและกำลังวัตต์ของตู้เย็นไว้ภายในคู่มือของตู้เย็น ซึ่งจะมีแถมมากับตู้เย็นเมื่อคุณเลือกซื้อตู้เย็นในแต่ละครั้ง และสำหรับผู้ที่ซื้อตู้เย็นมือสองหรือตู้เย็นที่เก่าแล้วและคู่มือนั้นได้สูญหายไปคุณสามารถที่จะเปิดดูรายละเอียดของสินค้าและสเปคต่างๆผ่านทางเว็บไซต์ของผู้ผลิตได้เช่นเดียวกันซึ่งจะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลคู่มือผู้ใช้งานไว้ให้คุณได้ดาวน์โหลดหนังออนไลน์โดยการ search ผ่าน Google ได้เลยด้วยการใช้ชื่อรุ่นและยี่ห้อของตู้เย็นเรานานๆแล้วตามด้วยคำว่าคู่มือผู้ใช้งาน
4.ตู้เย็นกินไฟเกิดจากอะไร
ตู้เย็นกินไฟนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ตู้เย็นนั้นมีอัตราการกินไฟที่ค่อนข้างมากด้วยไม่ว่าจะเป็นการที่เปิดตู้เย็นบ่อยครั้งจนทำให้ตู้เย็นสูญเสียคุณภูมิการแช่ของมากจนเกินไปการที่ยางรองตู้เย็นเสื่อมสภาพทำให้ความเย็นนั้นรั่วไหลออกมาการติดตั้งตู้เย็นที่ไม่ถูกต้องโดยทำการติดตั้งตู้เย็นไว้ในพื้นที่ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีพอซึ่งจะทำให้ Compressor ของตู้เย็นนะทำงานหนักและกินไฟมากขึ้นซึ่งปัจจัยเหล่านี้นั้นเป็นปัจจัยหลักๆที่ทำให้ตู้เย็นกินไฟนั่นเองโดยวิธีการแก้ไขนั่นก็คือการแก้ไขปัญหาในจุดที่ทำให้เกิดปัญหาอย่างเช่นการเปลี่ยนยางรองประตูตู้เย็นหรือการติดตั้งหรือย้ายตำแหน่งของตู้เย็นให้มีความเหมาะสมสามารถที่จะถ่ายเทอากาศได้ดีระบายความร้อนได้ดีหรือการแช่อาหารในปริมาณที่พอเหมาะและไม่เปิดตู้เย็นบ่อยจนเกินไป ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
5.ตู้เย็น คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน
Compressor ของตู้เย็นนั้นเป็นส่วนที่ใช้ในการทำความเย็นของตู้เย็นซึ่งถ้าคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานนั่นแสดงว่าคอมเพรสเซอร์เสียหรือไม่มีกระแสไฟฟ้าจ่ายให้กับตัวคอมเพรสเซอร์ให้สามารถที่จะทำงานได้ซื้อให้คุณทำการตรวจสอบการทำงานของสายไฟว่ามีการเชื่อมต่อที่ถูกต้องหรือไม่หรือค่ากระแสไฟฟ้าสามารถที่จะทำงานได้เป็นปกติแต่คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานนั่นก็แสดงว่าตัวคอมพิวเตอร์นั้นเกิดอาการเสื่อมสภาพหรือเสียแล้วได้ทำการนำไปซ่อมกับช่างผู้ชำนาญงานโดยเร่งด่วน
6.ตู้เย็นคอมเพรสเซอร์ร้อน
โดยปกติแล้วการทำงานของคอมเพรสเซอร์ของตู้เย็นนั้นจะมีความร้อนหรือเกิดความร้อนขึ้นมาเป็นปกติอยู่แล้วนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมว่าคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเหลือพื้นที่ด้านหลังและด้านข้างของตู้เย็นเพื่อที่จะทำให้มีการระบายอากาศและถ่ายเทอากาศบริเวณนั้นเพื่อใช้ในการลดความร้อนและระบายความร้อนของตู้เย็นขณะที่ทำการทำงานการติดตั้งตู้เย็นโดยเว้นระยะห่างด้านหลังและด้านข้างของตู้เย็นที่ไม่เพียงพอนั้นจะทำให้ตู้เย็นเกิดความร้อนสะสมมากกว่าปกติจนทำให้ตู้เย็นเกิดอาการร้อนผิดปกติและอาจจะทำให้คอมเพรสเซอร์เสียหายได้นั่นเองดังนั้นปัญหานี้จึงควรรีบแก้ไขโดยด่วน
7. ตู้เย็นช่องฟรีซไม่เป็นน้ำแข็ง
โดยปกติแล้วในส่วนของช่องฟรีซของตู้เย็นนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความเย็นและจะต้องมีน้ำแข็งเกาะอยู่ซึ่งมีความหนาต้องไม่เกิน 1 นิ้วถ้าน้ำแข็งมีความหนาเกิน 1 นิ้วแสดงว่าคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรีบทำการละลายน้ำแข็งเพื่อทำให้การทำความเย็นของตู้เย็นนั้นสามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทางช่องฟิตของคุณไม่มีความเย็นแสดงว่าเกิดปัญหาในการทำความเย็นของตู้เย็นของคุณซึ่งควรรีบทำการนำเอาไปแก้ไขโดยช่างผู้ชำนาญงานทันทีโดยปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นปัญหาจากคอมเพรสเซอร์ระบบไฟหรือปัญหาอื่น
8.ตู้เย็นด้านข้างร้อน
ด้านข้างของตู้เย็นอาจจะมีความร้อนเป็นเรื่องปกติโดย ตู้เย็นจะใช้พื้นที่บริเวณด้านหลังและด้านข้างในการระบายความร้อนของแผงคอยล์ร้อนซึ่งจะใช้ในการทำความเย็นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วโดยในการติดตั้งตู้เย็นนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องติดตั้งในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและห่างจากสิ่งกีดขวางผนังหรือกำแพงอย่างน้อย 50 เซนติเมตร
9.ตู้เย็นต้องต่อสายดินไหม
ตู้เย็นนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการต่อสายดินเพื่อช่วยป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและกระแสไฟฟ้าช็อตผู้ใช้งานไม่เฉพาะตู้เย็นเท่านั้นอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกประเภทที่มีอยู่ภายในบ้านนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการต่อสายดินหรือมีการติดตั้งสายดิน ช่วยป้องกันในกรณีที่เกิดปัญหากระแสไฟฟ้าลัดวงจรนั้นจะไม่ทำให้ผู้ที่ใช้งานอยู่ภายในบ้านเกิดอันตรายได้นั่นเองดังนั้นก่อนที่จะทำการสร้างบ้านควรที่จะทำการติดตั้งระบบสายดินให้เรียบร้อยเสียก่อน
10.ตู้เย็นต้องเปิดเบอร์อะไร
ตู้เย็นแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อนั้นจะมีการทำงานที่แตกต่างกันโดยในการที่จะใช้งานตู้เย็นให้ถูกต้องนั้นเราแนะนำให้คุณอ่านคู่มือผู้ใช้งานให้ดีเสียก่อนก่อนที่จะทำการเปิดเครื่องใช้งานเพื่อให้คุณนั้นสามารถที่จะเข้าใจและศึกษาวิธีการใช้งานตู้เย็นได้อย่างถูกต้องแต่โดยปกติแล้วตู้เย็นจะนิยมเปิดระดับความเย็นให้อยู่ตรงกลางระหว่างความเย็นมากและความเย็นน้อยซึ่งจะเป็นระดับที่มีความเหมาะสมที่สุด
11.ตู้เย็นถอดปลั๊กได้ไหม
ตู้เย็นสามารถที่จะทำการถอดปลั๊กได้ในกรณีที่จะทำความสะอาดหรือล้างทำความสะอาดเพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและเมื่อทำการทำความสะอาดหรือล้างเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณสามารถที่จะทำการเสียบปลั๊กเพื่อเริ่มต้นการใช้งานของตู้เย็นได้ใหม่แต่เมื่อใช้งานไปและเสียบปลั๊กตู้เย็นไปแล้วเมื่อตู้เย็นๆคุณไม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการถอดปลั๊กเนื่องจากว่าตู้เย็นนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการคงอุ่นนะภูมิให้คงที่การถอดปลั๊กตู้เย็นจะทำให้ตู้เย็นสูญเสียคุณภูมิลงไปเรื่อยๆตามระยะเวลาในการถอดและในการที่จะสร้างความเย็นให้กลับขึ้นมาอยู่ในระดับเดิมที่ได้ตั้งเอาไว้นั้นจะใช้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากกว่าการที่จะเสียบปลั๊กไฟไว้ตลอดเวลาซึ่งจะมีอัตราการกินกระแสไฟฟ้าที่น้อยกว่าการถอดปลั๊กตู้เย็นเมื่อตู้เย็นแล้วไม่ได้ทำให้ประหยัดไฟมากขึ้นแต่อย่างใดกลับอาจจะทำให้ตู้เย็นเสื่อมสภาพและเสียได้เร็วขึ้นอีกด้วย
12.ตู้เย็นธรรมดากับตู้เย็น Inverter ต่างกันอย่างไร
ตู้เย็นธรรมดาและตู้เย็น Inverter นั้นจะมีความแตกต่างกันในวิธีการทำงานของตัวคอมเพรสเซอร์ซึ่งตู้เย็นธรรมดานั้นเครื่องคอมเพรสเซอร์จะทำงานเมื่อต้องการสร้างความเย็นและเมื่อความเย็นถึงระดับที่ได้ตั้งเอาไว้ตัวคอมเพรสเซอร์จะหยุดการทำงานในขณะที่ตู้เย็นแบบ Inverter นั้นคอมเพรสเซอร์จะทำงานอยู่ตลอดเวลาในความเร็วที่แตกต่างกันตามความต้องการในการทำความเย็นของระบบเปรียบได้กับตู้เย็นธรรมดาเหมือนกับการวิ่งแล้วหยุดกับตู้เย็นแบบ Inverter นั้นจะเหมือนกับการเดินช้าๆอยู่ตลอดเวลาจึงทำให้มีอัตราการบริโภคพลังงานที่แตกต่างกันรวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่แตกต่างกันโดยตู้เย็นแบบ Inverter นั้นจะมีอัตราการบริโภคพลังงานไฟฟ้าที่น้อยกว่าตู้เย็นธรรมดาถึง 50%