การเชื่อมต่อพอร์ต USB นั้นเป็นการเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์ภายนอกที่สามารถใช้งานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ laptop Notebook แท็บเล็ตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆให้ใช้งานกับอุปกรณ์ต่อพ่วงตื่นได้ไม่ว่าจะเป็นเมาส์คีย์บอร์ด External Hard disk ปริ้นเตอร์สแกนเนอร์ต่างๆพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB ในการโอนถ่ายข้อมูล
ซึ่งก่อนหน้านี้พอร์ตการเชื่อมต่อนั้นส่วนมากแล้วจะใช้พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB a ซึ่งเป็นช่องการเชื่อมต่อ USB ที่เราคุ้นเคยกันดีในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่จะสามารถเสียดายที่ทางเดียวเท่านั้นซึ่งลักษณะของพอร์ตนั้นจะมีพอร์ตที่มีขนาดใหญ่มากและไม่สามารถกลับด้านในการเสียบได้รวมถึงความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ตังค์อีกด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง USB 2.0 นั้นที่จะมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลเพียงแค่ 480 Mbps เท่านั้น ซึ่งทำให้การโอนถ่ายข้อมูลจำนวนมากหรือไฟล์ที่มีขนาดใหญ่นั้นค่อนข้างที่จะช้าและทำให้เสียเวลาอย่างมากในการจัดการไฟล์นั่นเองและหลังจากนั้นได้มีการอัพเดทการเชื่อมต่อ USB เป็น USB Version 3.0 ซึ่งมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ที่ 4800 Mbps ซึ่งมากกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่าซึ่งจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะทำการโอนถ่ายข้อมูลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ส่วน USB Type C นั้นเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อรูปแบบใหม่ที่มีอัตราการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้นโดยอัตราการโอนย้ายไฟล์ของพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB Type C นั้นจะสามารถโอนไฟล์ได้ความเร็วสูงสุดถึง10 Gbps ซึ่งมากกว่าความเร็วในการเชื่อมต่อของ USB 2.0 และ 3.0 อยู่พอสมควร
ซึ่งจะเห็นได้ว่าความแตกต่างของพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type A และพอร์ต USB Type C นั้นจะมีความแตกต่างกันในทางด้านของรูปทรงขนาดอัตราการโอนถ่ายข้อมูลและการรองรับกระแสไฟฟ้า output ของสายเคเบิล
ข้อแตกต่างระหว่างพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type A และ USB Type C
1. ความเร็วในการรับส่งข้อมูล
พอร์ตการเชื่อมต่อ USB Type C นั้นจะสามารถ โอนถ่ายข้อมูลได้สูงสุดถึง 10 gbps ในขณะที่พอร์ต USB type A จะสามารถทำการรับส่งข้อมูลได้สูงสุดเพียง 4.8 Gbps เท่านั้น ซึ่งความเร็วในการรับส่งข้อมูลนั้นจะสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญสำหรับการใช้งานสายเคเบิลแต่ละประเภทโดยการโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็วที่สุดนั้นจะทำให้คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด
2.ลักษณะการเชื่อมต่อ
พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type a นั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมต่อให้ถูกทิศทางจึงจะสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อได้ในขณะที่พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ USB type-c นั้นคุณสามารถที่จะทำการสลับข้างในการเชื่อมต่อได้โดยที่ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเสียบสายเชื่อมต่อให้ถูกทิศทางซึ่งในการใช้งานจริงนั้นการเชื่อมต่อแบบ USB Type C จะมีความสะดวกกว่ามากและช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB type-c นั้นยังมีขนาดที่เล็กกว่าจึงทำให้สามารถสร้างอุปกรณ์ให้มีขนาดที่บางกว่าได้
3. ความสามารถในการส่งกระแสไฟฟ้า
พอร์ตการเชื่อมต่อ USB type-c นั้นสามารถที่จะทำการส่งกระแสไฟฟ้าผ่านสายเคเบิลของ USB Type C และรองรับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 100 วัตต์ที่ 20 โวลต์ 5 แอมป์ซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้กระแสไฟฟ้าจากพอร์ตการเชื่อมต่อ USB type-c ในการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ต่างๆได้ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตหรือ Notebook ได้อย่างเพียงพอในขณะที่บอร์ดการเชื่อมต่อแบบ USB type a นั้นจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้เพียง 10-15 วัตต์เท่านั้น
โดยในอนาคตนั้นอุปกรณ์เชื่อมต่อแบบ USB type A อาจจะถูกลดความสำคัญลงซึ่งจะมีการเปลี่ยนไปใช้มาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ USB Type C การเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะทำให้เรานั้นสามารถที่จะทำการใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆได้ดีขึ้นและมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้นและสามารถที่จะใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆได้หลากหลายมากยิ่งขึ้นในอนาคต