ลำโพงซาวด์บาร์ นั้นเป็นรูปแบบของลำโพงที่มีรูปทรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวที่จะมีการใส่เอาดอกลำโพงไว้ภายในเพื่อที่จะช่วยให้สามารถที่จะทำการรองรับ Channel ของเสียงจากด้านหลังได้ซึ่งจะทำให้ระบบเสียงภายในบ้านของคุณนั้นเป็นระบบเสียงแบบเซอร์ราวอย่างแท้จริงโดย ลำโพงซาวด์บาร์ นั้นเป็นลำโพงที่ถูกออกแบบมาให้สามารถที่จะติดตั้งเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพและเสียงคุณภาพสูงเหมาะสำหรับใช้ในการดูภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์ที่รองรับระบบเสียงรอบทิศทางนั้นการติดตั้งซาวด์บาร์ไว้ด้านหลังจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการแยก Channel ซ้ายขวาหน้าหลังได้ดีมากยิ่งขึ้น
ลำโพงซาวด์บาร์ คืออะไร? ลำโพงซาวด์บาร์นั้นเป็นลำโพงที่มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวและมีการติดตั้งดอกลำโพงไว้ภายในตัวซาวด์บาร์หลายตัวเพื่อช่วยให้อุปกรณ์นั้นสามารถที่จะทำการส่งสัญญาณเสียง Channel ซ้ายขวาหรือ Channel ด้านหลังเพื่อใช้ในระบบเสียงแบบ Surround Sound และช่วยขยายเสียงให้มีคุณภาพของเสียงขณะที่รับชมภาพยนตร์หรือฟังเพลงได้ดีมากยิ่งขึ้น
โดยลำโพงซาวด์บาร์น่าจะเหมาะสำหรับใช้ในการติดตั้งบนกำแพงหรือวางอยู่กับพื้นเพื่อปรับปรุงสาขาในการส่งเครื่องเสียงให้เหมาะสมหรือช่วยขยายสัญญาณเสียงของทีวีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นไฟล์มัลติมีเดียอื่นๆ ซึ่งเหมาะสำหรับติดตั้งเป็นอุปกรณ์เพื่อความบันเทิงภายในบ้านที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการได้อรรถรสในการรับชมทั้งภาพและเสียงคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น
ซาวด์บาร์ ยี่ห้อไหนดี
ในการเลือกซื้อซาวด์บาร์นั้นเพื่อที่จะทำให้คุณนั้นมั่นใจได้ถึงคุณภาพของเสียงที่ได้และประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์คุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อ ซาวด์บาร์จากผู้ผลิตที่เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในท้องตลาดว่าผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการทำงานโดยยี่ห้อของชาวบาที่เราแนะนำนั้นได้แก่ซาวด์บาร์ยี่ห้อ Samsung, JBL, เสียวหมี่, creative, Sony, Bose, และ Klipsch
และในปัจจุบันนี้จะเห็นได้ว่ามีลำโพงซาวด์บาร์วางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งอาจจะทำให้คนนั้นสงสัยว่าแล้วควรที่จะเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์รุ่นไหนแบบไหนยี่ห้อไหนดีหรือจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้ดีที่สุดดังนั้นวันนี้เรา จึงได้ทำการรวบรวมเอาลำโพงซาวด์บาร์มาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อไปใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์ที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด
แนะนำ ซาวด์บาร์ รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1.SAMSUNG ซาวด์บาร์
เป็นลำโพงซาวด์บาร์ที่มีกำลังสูงสุดถึง 150 วัตต์และมาพร้อมกับซับวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้วที่ช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการรับฟังเสียงคุณภาพสูงและความคมชัดสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยตัวลำโพงนั้นรองรับระบบเสียงรอบทิศทางเสา expansion และดอกเบี้ยดิจิตอล 2 channel รองรับการติดตั้งเข้ากับผนังได้อย่างสะดวกและง่ายดายรองรับการเล่นเกมเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ต่างๆผ่านคลื่นสัญญาณบลูทูธแบบไร้สายซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการเชื่อมต่อได้อย่างสะดวกและง่ายดายรองรับการเชื่อมต่อด้วย พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Optical 1 Port เชื่อมต่อเข้ากับ USB และสาย aux ได้ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างหลากหลาย
จุดเด่นของซาวด์บาร์รุ่นนี้
1.Subwoffer ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว
2.Surround Sound Expension, Game,Standard, Smart
3.Dolby Digital 2ch
4.ในกล่องมาพร้อม Wall Mount สำหรับยึดกับผนัง
#2.Xiaomi TV Speaker Theater Edition ลำโพงบลูทูธ 5.0 ลำโพงซาวด์บาร์
เป็นลำโพง Sound Bar ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสร้างระบบเสียงเพื่อดูภาพยนตร์ภายในบ้านโดยตัวลำโพงนั้นรองรับการ เปิดโหมดโรงภาพยนต์เสียงเบสที่หนักแน่นและเป็นจริงเสียงแหลมชัดเจน ละเอียดอ่อนเสมือนเสียงในโรงภาพยนต์
ซาวด์บาร์รุ่นนี้นั้นมาพร้อมกับพอร์ตการเชื่อมต่อ เชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลายได้อย่างง่ายดายด้วยวิธีการเข้าถึงบลูทูธ 5.0 Coaxial,AUX ที่สามารถเชื่อมต่อกับทีวีกล่องอุปกรณ์อื่นๆ ใช้คลื่นสัญญาณ Bluetooth 5.0 มีเสถียรภาพ มากขึ้นประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อที่สะดวก
มาพร้อมกับการออกแบบที่เรียบง่าย การออกแบบซาวด์บาร์นั้นเรียบง่ายและราบรื่น ตาข่ายผ้าสีดำหรูหราจับคู่กับแถบตกแต่งอลูมิเนียมอัลลอยด์ ให้กำลังขับสูง 100W ระดับเสียงเบสสูงและกลางมีความแตกต่างกับคุณภาพเสียงชัดเจน
จุดเด่นของซาวด์บาร์รุ่นนี้
1.Bluetooth 5.0 มีเสถียรภาพ มากขึ้นประสิทธิภาพและการเชื่อมต่อที่สะดวก
2.รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นมือถือ Smartphone Tablet
3.การออกแบบที่เรียบง่าย การออกแบบซาวด์บาร์นั้นเรียบง่ายและราบรื่น ตาข่ายผ้าสีดำหรูหราจับคู่กับแถบตกแต่งอลูมิเนียมอัลลอยด์ ทำให้มีความสวยงาม
#3.Sony Soundbar | HT-Z9F
Sony Soundbar รุ่น HT-Z9F ซาวด์บาร์ ที่รองรับระบบเสียงรูปแบบ 3.1 Channel พร้อมซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ DTS:X มี Vertical Surround Engine ช่วยจำลองให้เสียงให้ใกล้เคียงระบบเสียง 7.1.2 Channel
มาพร้อมกับ S-Force Pro Front Surround เทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มความสมจริงของเสียงของลำโพงคู่หน้าที่จะช่วยให้เสียงดูมีมิติโอบล้อมและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น•รองรับการเล่นไฟล์เสียงระดับ มีระบบ Hi-Res•Chromecast Built-in รองรับใช้งานบริการสตรีมมิ่งเพลง
ซาวด์บาร์รุ่นนี้ เพิ่มรายละเอียดด้วย DSEE HX ยกระดับเพลงที่มีอยู่แล้วให้มีคุณภาพเสียงใกล้เสียงระดับเสียงความละเอียดสูง และมี ห้าโหมดเสียงเพื่อเสริมภาพยนตร์ เพลง เกม ข่าว และกีฬา•การเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi และ LAN•4K HDR Pass-Through ส่งภาพ 4K HDR ได้.
1.รองรับระบบเสียงรูปแบบ 3.1 Channel
2.พร้อมซับวูฟเฟอร์แบบไร้สาย
3. รองรับระบบเสียง Dolby Atmos
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อซาวด์บาร์มาใช้งาน
1.การเชื่อมต่อของซาวด์บาร์
ซาวด์บาร์ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ของคุณไม่ว่าจะเป็นทีวีมือถือสมาร์ทโฟนผ่านทางช่องสัญญาณต่างๆที่อุปกรณ์ของคุณมีไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อด้วยช่อง Optical การเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านคลื่นสัญญาณบลูทูธหรือการเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านพอร์ตการเชื่อมต่อแบบ aux หรือ USB ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำมาติดตั้งได้อย่างสะดวกและสบายซึ่งคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมั่นใจว่าซาวด์บาร์ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นสามารถที่จะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ของคุณได้อย่างไม่มีปัญหา
และนอกจากนั้นแล้วตัวซาวด์บาร์นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมต่อหรือรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นมือถือ Smartphone หรือ Tablet ผ่านทางการเชื่อมต่อแบบไร้สายซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างหลากหลายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
2. พื้นที่ในการติดตั้ง
ในการเลือกซื้อ Sound Bar มาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพิจารณาพื้นที่ที่จะใช้ในการติดตั้งซาวด์บาร์ของคุณไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งบนกำแพงหรือแขวนบนกำแพงหรือวางอยู่บนโต๊ะวางทีวีหรือการติดตั้งด้านหลังนั้นจะต้องทำการติดตั้งด้วยการแขวนบนกำแพงทีวีซึ่งคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อซาวด์บาร์ที่มีความเหมาะสมและสามารถที่จะเข้ากันได้กับบ้านของคุณที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานได้อย่างลงตัว
3. จำนวนช่องสัญญาณของซาวด์บาร์
ซาวด์บาร์ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับช่องสัญญาณที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณโดยซาวด์บาร์นั้นจะมีระบบช่องสัญญาณที่แตกต่างกันไปให้คุณได้เลือกใช้งานอยู่หลายแบบได้แก่ ช่องสัญญาณ 2 channel ช่องสัญญาณ 3 Channel 5 Channel หรือ 7 Channel ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาร่วมกับอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงด้วยว่ารองรับการใช้งานช่องสัญญาณแบบไหนและเลือกซาวด์บาร์ที่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของคุณให้ได้มากที่สุดซึ่งจะทำให้คุณภาพของเสียงที่ได้และประสิทธิภาพในการทำงานนั้นเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด
อย่างเช่นการใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นบลูเรย์หรือทีวีที่รองรับระบบเสียงแบบ Dolby atmos หรือระบบเสียง 7 Channel นั้นควรที่จะเลือกซื้อซาวด์บาร์ที่มีการรองรับระบบเสียง 7 Channel ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
4.การใช้งานและการควบคุมซาวด์บาร์
Sound Bar ส่วนใหญ่นั้นจะมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการตั้งค่าการใช้งานหรือควบคุมการใช้งานต่างๆได้อย่างสะดวกและง่ายดายซึ่งการเลือกซื้อซาวด์บาร์ที่รองรับรีโมทคอนโทรลน่าจะช่วยให้คุณสามารถที่จะนำการควบคุมสั่งการใช้งานต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการที่ไม่มีรีโมทคอนโทรลที่ใช้ในการควบคุม
5. คุณภาพเสียงของซาวด์บาร์
สิ่งที่เราต้องการจะได้จากซาวด์บาร์นั่นก็คือคุณภาพเสียงที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการฟังเพลงหรือรับชมภาพยนตร์ได้อย่างมีอรรถรสมากยิ่งขึ้นดังนั้นคุณภาพเสียงของชาวบ้านจึงมีความสำคัญมากซึ่งในการเลือกซื้อมาใช้งานนั้นถ้าคุณได้ทำการทดลองหรือทดสอบการทำงานของตัวเครื่องเพื่อที่จะทำการเปรียบเทียบคุณภาพเสียงต่างๆที่ได้จากซาวด์บาร์นั้นจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงซาวด์บาร์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณได้ดีที่สุดแต่ถ้าคุณไม่สามารถที่จะทำการทดสอบระบบเสียงได้การอ่านรีวิวจากผู้ซื้ออื่นๆก็มีประโยชน์ต่อการใช้งานเช่นเดียวกัน
6. มีระดับราคาที่เหมาะสม
ซาวด์บาร์ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระดับราคาที่เหมาะสมโดยพิจารณาจากคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวซาวด์บาร์รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำใหม่ควรเลือกซื้อ ซาวด์บาร์ที่มีราคาถูกหรือแพงมากจนเกินไปเนื่องจากว่าอาจจะเป็นสินค้าที่ทำให้คุณไม่สามารถที่จะทำการใช้งานได้อย่างคุ้มค่านั่นเอง
7.การรับประกันและการบริการหลังการขาย
สำหรับการเลือกซื้อ Sound Bar มาใช้งานนั้นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้นั่นก็คือการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 1 ถึง 3 เดือนเพื่อช่วยให้คุณนั้นมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องในกรณีที่เกิดปัญหาในการใช้งานคุณสามารถที่จะเรียกร้องขอความรับผิดชอบจากผู้ขายหรือผู้ผลิตได้ในกรณีที่ สินค้ามีปัญหาซึ่งเกิดจากการประกอบที่ผิดพลาดของผู้ผลิต