-->

คอมพิวเตอร์ใช้ไฟกี่วัตต์?





Laz Flash Sale ลดแรงกว่า 90%
ดีลจำกัดเวลา ให้คุณเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ทุกวัน สินค้าลดราคากับ Flash Sale
Lazada แฟลชเซล จัดเต็มดีลฮิตทุกวัน ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ☆ดีลจำกัดเวลาสุดฮอต ☆ลดราคาแรง ☆สินค้าหลากหลาย

ช้อปเลย





คอมพิวเตอร์ใช้ไฟกี่วัตต์?



เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ไฟกี่วัตต์ เป็นคำถามที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ PC Notebook หรือ Laptop อยู่ซึ่งเริ่มสงสัยว่าแล้วเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อยู่นั้นกินไฟกี่วัตต์กันแน่แล้วเราสามารถที่จะทำการตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์ของเรานั้นกินไฟกี่วัตต์ได้จากตรงไหนเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการตัดสินใจในการเลือกซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือการวางแผนการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุดและยังประหยัดค่ากระแสไฟฟ้ามากที่สุดนั่นเอง


คอมพิวเตอร์ใช้ไฟกี่วัตต์?


เครื่องคอมพิวเตอร์จะกินกระแสไฟฟ้าตั้งแต่ 350 วัตต์ไปจนถึง 1,000  วัตต์  ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนที่อยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยคุณสามารถที่จะทำการตรวจสอบกำลังวัตต์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้จากการดูที่ Power Supply ของเครื่องคอมพิวเตอร์ สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและ Adapter แปลงไฟสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook หรือ laptop ซึ่งจะมีการระบุรายละเอียดกำลังวัตต์ของ power supply  ของเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และ Adapter แปลงไฟของ Notebook. 


ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องนั้นจะมีการใช้งานพาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังวัตต์ที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในการทำงานของตัวเครื่องและชิ้นส่วนที่อยู่ภายในตัวเครื่องซึ่งจะมีอัตราการบริโภคพลังงานที่แตกต่างกันไปโดยในการที่จะประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อ Power Supply ที่เหมาะสมมีกำลังวัตต์ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ภายในเครื่องได้อย่างเพียงพออย่างเช่นเครื่อง Gaming PC จะมีการใช้งานพาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังวัตต์ที่สูงเนื่องจากว่าจะต้องมีการจ่ายไฟให้กับ CPU หรือโปรเซสเซอร์ที่มีความต้องการพลังงานสูงในการนำเอาไปใช้ในการประมวลผลในการเล่นเกมการ์ดจอ gpu เพื่อเอาไปใช้ในการประมวลผลกราฟฟิคประสิทธิภาพสูงที่ประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มมากยิ่งขึ้นก็จะต้องมาพร้อมกับการบริโภคพลังงานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเองจึงทำให้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ Power Supply ที่มีกำลังวัตต์สูงขึ้นให้สามารถจ่ายไฟได้เพียงพอต่อความต้องการของอุปกรณ์


ยิ่งมีอุปกรณ์ต่อพ่วงจำนวนมากยิ่งขึ้นเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องการกระแสไฟฟ้าเพื่อที่จะนำเอาไปจ่ายให้กับอุปกรณ์ต่างๆเพื่อที่จะทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้การจ่ายไฟที่น้อยกว่าความต้องการของอุปกรณ์นั้นจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆไม่สามารถที่จะทำงานได้และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นไม่สามารถที่จะทำการเปิดเครื่องหรือใช้งานได้นั่นเองดังนั้น Power Supply เป็นส่วนที่มีความสำคัญชิ้นหนึ่งสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์เช่นเดียวกัน


กำลังวัตต์ของ power supply


โดยเราสามารถที่จะนำเอากำลังวัตต์ของ power supply นำไปคำนวณเป็นค่าไฟที่ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์จะดึงเอาไปใช้งานต่อชั่วโมงได้และคุณสามารถที่จะทำการคำนวณค่าไฟหรือต้นทุนของการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อชั่วโมงได้ว่าภายใน 1 ชั่วโมงนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณจะกินไฟกี่บาทโดยคุณสามารถที่จะทำการศึกษาหรืออ่านบทความเกี่ยวกับการคำนวณอัตราการบริโภคกระแสไฟฟ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้ที่บทความนี้  “คอมพิวเตอร์ กินไฟเท่าไหร่?” ซึ่งจะมีรายละเอียดในการคำนวณ ค่ากระแสไฟฟ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์ว่ากินไฟกี่บาทต่อวันหรือกินไฟกี่บาทต่อชั่วโมงตามหลักสมการง่ายๆที่คุณสามารถทำการคำนวณได้ด้วยตัวเอง


และสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ Notebook หรือ laptop ก็เช่นเดียวกันเครื่องคอมพิวเตอร์เหล่านี้นั้นจะเป็นกระแสไฟฟ้าจาก Adapter แปลงไฟหรืออุปกรณ์จ่ายไฟซึ่งจะมีกำลังวัตต์ตั้งแต่ 60 วัตต์ไปจนถึง 250 วัตต์ตามความต้องการของตัวเครื่องโดย Adapter แปลงไฟนี้จะทำการจ่ายไฟในการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแล้วตัวเครื่องจะทำการดึงแบตเตอรี่จาก Notebook นำไปใช้หรือจะมีการบายพาสโดยการใช้กระแสไฟฟ้าจาก Adapter ชาร์จโดยตรงทดแทนการดึงไฟโดยตรงจากแบตเตอรี่ซึ่งเพื่อเป็นการถนอมสุขภาพแบตเตอรี่ของโน้ตบุ๊คให้มีอายุในการใช้งานอย่างยาวนานนั่นเอง


ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและ laptop นั้นจะกินกระแสไฟฟ้าน้อยกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเนื่องจากว่า Notebook และ laptop ถูกออกแบบมาให้ใช้ในการพกพาและเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวกกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแต่จะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่น้อยกว่าเนื่องจากว่าต้องการที่จะทำให้ตัวเครื่องนั้นประหยัดกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการที่จะนำเอาไปใช้งานนอกสถานที่ต่างๆที่ไม่มีปลั๊กเสียบนั่นเอง