จักรยานไฟฟ้าก็เหมือนกันกับยานพาหนะอื่นที่จะต้องมีการดูแลรักษาอยู่เป็นประจำเพื่อช่วยให้ตัวจักรยานไฟฟ้านั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานรวมถึงมีความปลอดภัยในการใช้งานด้วยซึ่งจักรยานไฟฟ้านั้นเป็นยานพาหนะที่จะใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานร่วมกับการปั่นซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะเดินทางได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยรวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
จักรยานไฟฟ้าจะแตกต่างกันจากจักรยานปกติตรงที่จะมีส่วนอุปกรณ์ควบเพิ่มขึ้นมาได้แก่มอเตอร์ไฟฟ้าแบตเตอรี่และกล่องควบคุมซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลรักษาอยู่เป็นประจำโดยการดูแลรักษาทั่วไปนั้นก็เหมือนกับการดูแลจักรยานธรรมดานั่นก็ได้แก่
การดูแลรักษาจักรยานไฟฟ้า
1. ทำการเช็คลมยางทุกครั้งก่อนที่จะขับขี่
ยางของจักรยานนั้นมีความสำคัญมากเพื่อที่จะใช้ในการยึดเกาะถนนและรับน้ำหนักรวมถึงดูดซับแรงกระแทกให้กับตัวจักรยานเพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลโดยในการใช้งานจักรยานไฟฟ้านั้นลมยางของจักรยานไฟฟ้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไปซึ่งจะช่วยให้การ ยึดเกาะถนนสามารถที่จะทำ การยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและช่วยให้ผู้ขับขี่นั้นเกิดความปลอดภัยในการใช้งานโดยยางจักรยานไฟฟ้าแต่ละขนาดนั้นจะต้องการแรงดันลมยางที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขนาดวงล้อขนาดของยางโดยลมยางนั้นหรือระดับแรงดันของลมยางที่เหมาะสมจะอยู่ในคู่มือผู้ใช้งานซึ่งควรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเติมลมยางด้วยปั๊มลมให้ระดับของลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้คุณสามารถที่จะขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลปลอดภัยและช่วยยืดอายุการใช้งานของยาง, ขอบล้อ ของจักรยานไฟฟ้า
2.โซ่และจุดหมุนต่างๆ
ชุดโซ่ขับเคลื่อน และจุดหมุนต่างๆนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง จะต้องมีการหยอดน้ำมันหล่อลื่นอยู่เป็นประจำเพื่อช่วยให้จุดหมุนต่างๆนั้นสามารถที่จะหมุนได้อย่างคล่องตัวและช่วยยืดอายุการใช้งานของโซ่และจุดหมุนต่างๆเพื่อช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงช่วยให้การขับขี่นั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยในการดูแลเกี่ยวกับโซ่และจุดหมุนต่างๆนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยอดด้วยน้ำมันหล่อลื่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับหล่อลื่นจุดหมุนจักรยานโดยเฉพาะไม่ควรเลือกใช้น้ำมันหยอดโซ่ประเภทอื่นเนื่องจากว่าอาจจะไม่เหมาะสมต่อการใช้งานกับจักรยานได้ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของตัวน้ำมันนั้นไม่สามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. แบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้า
แบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้านะควรที่จะอยู่ในระดับความจุที่มากกว่า 80% อยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ไม่ได้ใช้จักรยานไฟฟ้านั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มหรืออยู่ในระดับ 80 เปอร์เซ็นต์เพื่อช่วยถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และถนอมเซลล์ของแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากยิ่งขึ้นไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 80% อย่างเด็ดขาดเนื่องจากว่าจะทำให้ตัวเซลล์ของแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วและมีการชาร์จแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำแม้ไม่ได้ใช้งานเนื่องจากว่าตัวแบตเตอรี่นั้นถึงแม้จะถูกวางไว้เฉยๆก็จะมีการคายประจุอยู่ตลอดเวลาดังนั้นเมื่อผ่านไป 3-4-5 วันระดับแบตเตอรี่นั้นก็จะเริ่มลดลงเรื่อยๆซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อช่วยถนอมแบตเตอรี่การปล่อยให้แบตเตอรี่ใครประจุจนหมดอยู่เป็นประจำจะทำให้ตัวแบตเตอรี่นะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
และเป็นที่ทราบกันดีว่าแบตเตอรี่นั้นมีราคาที่ค่อนข้างแพงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนที่ 1 แพ็คนั้นจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ของราคาจักรยานไฟฟ้านั้นและแบตเตอรี่ที่ความจุ 36 โวลต์ 10 แอมป์ขึ้นไปจะมีราคาที่แพงมากโดยจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทขึ้นไปนั่นจึงถือว่ามีราคาที่สูงมากผู้ใช้งานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอก็จะทำให้คุณสามารถที่จะใช้งานได้อย่างน้อย 3-5 ปี
การจัดเก็บแบตเตอรี่และใช้งานจักรยานไฟฟ้าควรที่จะจัดเก็บไว้ในที่อุณหภูมิเหมาะสมไม่ควรเก็บจักรยานไฟฟ้าไว้กลางแดดเด็ดขาดเนื่องจากว่าอุณหภูมิสูงของแดดนั้นจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแบตเตอรี่โดยถ้าแบตเตอรี่ได้รับคุณภูมิหรือถูกเก็บไว้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเกินกว่า 38 ถึง 45 องศานั้นจะทำให้ตัวแบตเตอรี่หรือเซลล์แบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันโดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการจัดเก็บแบตเตอรี่จักรยานไฟฟ้าและจะอยู่ที่อุณหภูมิตั้งแต่ในช่วงศูนย์ถึง 35 องศาโดยอุณหภูมิที่มากกว่านี้หรือต่ำกว่านี้จะทำให้เซลล์ของแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพและมีการคายประจุอย่างรวดเร็วจนทำให้แบตเตอรี่ทั้งแพ็คนั้นเสื่อมสภาพจนไม่สามารถที่จะใช้งานได้
4.กล่องควบคุมและวงจรไฟฟ้าต่างๆ
กล่องควบคุมและวงจรไฟฟ้าต่างๆนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลรักษาเช่นเดียวกันโดยกองควบคุมและวงจรไฟฟ้าน่าจะเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นที่ทราบกันดีว่ามีความอ่อนไหวต่อความชื้นและน้ำดังนั้นในการดูแลรักษาคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำโดยตรงการล้างด้วยปั๊มน้ำแรงดันสูงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับรถจักรยานไฟฟ้าซึ่งกล่องควบคุมจักรยานไฟฟ้านั้นจะมีการออกแบบมาให้สามารถป้องกันน้ำได้บางส่วนแต่สำหรับน้ำที่มีแรงดันสูงแล้วตัวกล่องอาจจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รับกลับแรงดันน้ำที่สูงขนาดนั้นนั่นเอง
โดยกล่องควบคุมและวงจรไฟฟ้าต่างๆของจักรยานไฟฟ้านั้นสามารถที่จะโดนน้ำได้บ้างนิดหน่อยแต่จะต้องไม่ถูกแช่ลงในน้ำซึ่งจะทำให้ตัวแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์นั้นมีการลัดวงจรเกิดขึ้นและเกิดความเสียหายอย่างแน่นอนดังนั้นการใช้งานจักรยานไฟฟ้าในช่วงที่ฝนตกหนักจึงเป็นสิ่งที่ควรที่จะหลีกเลี่ยง
สำหรับการดูแลรักษาที่ถูกวิธีนั้นเราแนะนำให้คุณเลือกอ่านคู่มือผู้ใช้งานจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการดูแลรักษาจักรยานของคุณได้อย่างถูกต้องการที่ผู้ผลิตแนะนำซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของจักรยานไฟฟ้าของคุณให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและเกิดความคุ้มค่าในการใช้งานมากที่สุดนั่นเอง