วิธีใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ให้ถูกต้องนั้นผู้ใช้งานจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานของเครื่องแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อให้ดีเสียก่อนที่จะนำมาใช้งานโดยการใช้งานนั้นจะมีขั้นตอนและวิธีการในการใช้งานที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเครื่องแต่ละรุ่นและยี่ห้อที่จะมีขั้นตอนและวิธีการในการใช้งานที่ไม่เหมือนกันดังนั้นการอ่านคู่มือในการใช้งานที่แถมมากับตัวเครื่องนั้นจึงเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดที่ควรจะทำแต่โดยส่วนมากแล้วหลักการพื้นฐานในการใช้งานเครื่องเป่าแอลกอฮอล์นั้นจะมีหลักๆหรือการใช้งานหนักๆที่คล้ายคลึงกัน
ซึ่งในการใช้งานเครื่องเป่าแอลกอฮอล์นั้นมีข้อควรระวังหลายอย่างที่ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องรับทราบก่อนที่จะนำไปใช้งานในการใช้ในการวัดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ภายในเลือดเพื่อที่จะให้ได้ผลที่มีความเที่ยงตรงแม่นยำที่สุดและมีความคลาดเคลื่อนในการใช้งานในการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่น้อยที่สุดนั่นเอง
การเตรียมตัวก่อนที่จะใช้งานเครื่องเป่าแอลกอฮอล์
1.รออย่างน้อย 20 นาทีหลังจากที่ทำการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อทำการทดสอบ
2.หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีลมหรือพื้นที่ที่ปิดและมีการระบายอากาศที่ไม่ดี
3.ไม่ควรเป่ากันน้ำลายหรือของเหลวอื่นๆลงบนเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ซึ่งจะทำให้เซ็นเซอร์เสียหายได้
4.ไม่ใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในการประเมินก่อนการขับรถยนต์
5.ไม่เก็บเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในสภาวะสุดขีดและเก็บให้ห่างจากมือเด็ก
ขั้นตอนการใช้งานเครื่องเป่าแอลกอฮอล์เบื้องต้น
1.ต่อท่อเป่าไปยังเครื่องเป่าแอลกอฮอล์
2.กดเปิดเครื่อง
3.รอให้เครื่องทำการเปิดเครื่องขึ้นมาและอยู่ในสภาวะที่พร้อมใช้งาน
4.ให้ผู้ทำการทดสอบนั้นเป่าไปยังท่อเป่าของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ประมาณ 4 วินาทีจนได้ยินเสียง Beep 1 ครังจึงจะสามารถหยุดเปล่าได้
5.รอให้เครื่องทำการวิเคราะห์ข้อมูลและอ่านค่า
6.เครื่องจะทำการแสดงผลปริมาณแอลกอฮอล์ภายในเลือดผ่านทางหน้าจอ ภายใน 15 วินาที
ในการที่จะวัดระดับแอลกอฮอล์ภายในเลือดนั้นด้วยการใช้เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในการวัดนั้นจะต้องมีการรออย่างน้อย 15 นาทีหลังจากที่ทำการดื่มแอลกอฮอล์แล้วจึงจะให้ค่าในการวัดที่มีความเที่ยงตรงเพียงพอการกินอาหารที่มีส่วนผสมที่มีแอลกอฮอล์นั้นหรือการสูบบุหรี่ก็จะมีผลกระทบต่อค่าที่วัดได้เช่นเดียวกันอย่างเช่นผลไม้บางประเภทได้แก่ลำไยก็จะทำให้ผลในการวัดระดับแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องวัดแอลกอฮอล์นั้นมีความคลาดเคลื่อนได้ด้วยเช่นกันเนื่องจากว่าน้ำตาลที่อยู่ภายในเนื้อของผลลำไยนั้นสามารถที่จะทำการถูกหมักให้เป็นแอลกอฮอล์ได้ด้วยแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่อยู่ภายในซึ่งจะทำให้ผลที่ได้จากการวัดระดับแอลกอฮอล์ด้วยเครื่องวัดหรือเครื่องเป่าแอลกอฮอล์นั้นมีความคลาดเคลื่อนซึ่งผู้ใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทราบและเข้าใจในจุดนี้ด้วย
และการรอ ระยะเวลา 15 นาทีนั้นก็จะช่วยในการลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ถูกสะสมภายในปากของผู้ถูกวัดระดับแอลกอฮอล์ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อความคลาดเคลื่อนและความแม่นยำในการวัดของตัวอุปกรณ์ของคุณได้อีกด้วยเช่นกัน
ในการเป่าลมหายใจไปยังเครื่องนั้นการเป่าลมหายใจสั้นเกินไปหรือเปล่าน้อยเกินไปนั้นจะทำให้เครื่องไม่สามารถที่จะทำการวัดค่าระดับแอลกอฮอล์ภายในเลือดหรือลมหายใจได้อย่างถูกต้องซึ่งผู้ใช้งานในการวัดนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการตรวจสอบและดูแลในจุดนี้ให้ดีซึ่งอาจจะทำให้ค่าที่ได้จากการวัดผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนได้ค่อนข้างสูงนั่นเอง
ลักษณะการทางกายภาพของผู้ถูกวัดก็มีผลเช่นเดียวกัน
โดยผู้ที่ถูกวัดระดับแอลกอฮอล์ภายในเลือดด้วยเครื่องเป่าแอลกอฮอล์นั้นถ้ามีอัตราความเหนื่อยมากแอลกอฮอล์ในเลือดก็จะสามารถที่จะดูดซึมเข้าเส้นเลือดได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นจะทำให้การวัดค่าระดับแอลกอฮอล์ภายในลมหายใจหรือเลือดนั้นมีค่าสูงกว่าปกตินั่นเอง
สิ่งที่กินร่วมกับแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยที่ไม่มีการรับประทานอาหารอื่นร่วมด้วยนั้นจะทำให้การดูดซึมแอลกอฮอล์และสามารถที่จะทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นและส่งผลกระทบกับผู้ดื่มรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ร่วมกับอาหารซึ่งจะทำให้การดูดซึมนั้นช้าลงมากกว่าและทำให้ระยะเวลาในการที่จะตรวจระดับปริมาณแอลกอฮอล์ภายในเดือนนั้นจะต้องมีการรอนานขึ้น
ผู้ที่ดื่มหรือไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์นั้นจะมีอาการดูเสื้อแม็กยี่ห้อที่รวดเร็วกว่าดูดซึมแอลกอฮอล์ที่รวดเร็วกว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำและจะมีระดับแอลกอฮอล์ที่สูงได้เร็วกว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อยู่เป็นประจำดังนั้นในการวัดค่าผู้ทำการวัดจะต้องรู้ทราบและเข้าใจในส่วนนี้ด้วย
สรุปในการที่จะวัดเครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ให้ถูกต้องนั้นควรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอ่านและศึกษาวิธีการใช้งานจากคู่มือให้ละเอียดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวัดให้มีความแม่นยำในการใช้งานมากยิ่งขึ้นและช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการวัดระดับแอลกอฮอล์ภายในเลือดได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
Sources : http://mcwell.nd.edu/your-well-being/physical-well-being/alcohol/absorption-rate-factors/
http://www.nhs.uk/Tools/Documents/Alcohol%20myth%20buster.htm