จักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมในการใช้งานกันอย่างแพร่หลายเนื่องจากว่าความสะดวกสบายและความประหยัดรวมถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจึงทำผู้คนหันมาใช้งานจักรยานไฟฟ้ากันมากขึ้น.
โดยสิ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับจักรยานไฟฟ้านั่นก็คือแบตเตอรี่ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักที่ใช้ในการขับเคลื่อนจักรยานไฟฟ้าให้วิ่งไปข้างหน้าโดยแบตเตอรี่นั้นจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกักเก็บไฟฟ้าและคอยจ่ายให้กับตัวมอเตอร์ไฟฟ้าของจักรยานไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนซึ่งในปัจจุบันนี้จะมีแบตเตอรี่สำหรับใช้ในการขับเคลื่อนจักรยานไฟฟ้าอยู่ 2 ประเภทได้แก่แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดและแบตเตอรี่แบบลิเทียม โดยแบตเตอรี่ทั้งสองแบบนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปขึ้น ตามประสิทธิภาพในการทำงานในการใช้งานราคาและอายุการใช้งาน
แบตเตอรี่แบบตะกั่วกรด
เป็นแบตเตอรี่ที่เราจะพบว่ามาพร้อมกับจักรยานในตอนแรกที่เราทำการซื้อจักรยานไฟฟ้าราคาถูกซึ่งแบตเตอรี่แบบตะกั่วคนนั้นเป็นแบตเตอรี่แบบดั้งเดิมที่มีราคาถูกแต่ประสิทธิภาพในการทำงานต่ำโดยมีอายุการใช้งานที่สั้นด้วยซึ่งการใช้งานนั้น อาจจะมีข้อจำกัดหลายๆอย่างที่ทำให้ผู้ใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาให้ดีก่อนที่จะใช้งานแบตเตอรี่ประเภทนี้กับจักรยานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยหลักๆนั่นก็คือตัวแบตเตอรี่ของจักรยานไฟฟ้าแบบที่เป็นแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั้นจะมีรอบในการชาร์จที่น้อยโดยจะสามารถชาร์จได้เพียง 200-300 ครั้งเท่านั้นและตัวแบตเตอรี่นั้นจะเกิดอาการเสื่อมหรือไม่เก็บไฟได้อย่างรวดเร็วมากกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่นจึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆอย่างน้อยทุก 1 ปีหรือ 2 ปีขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของผู้ใช้งานและแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนี้สามารถที่จะใช้กระแสไฟฟ้าที่ถูกเก็บอยู่ในแบตเตอรี่ได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของความจุของแบตเตอรี่ทั้งหมด
ยกตัวอย่างเช่นแบตเตอรี่ที่มีความจุ 100 Ah นั้นคุณจะสามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้เพียง 30 เปอร์เซ็นต์ของความจุเท่านั้นนั่นก็คือคุณสามารถใช้กระแสไฟฟ้าได้เพียง 30 แอมป์โดยกระแสไฟฟ้าที่เหลือนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ในการรักษาสมดุลของแบตเตอรี่เพื่อที่จะช่วยให้แบตเตอรี่นั้นมีรอบในการชาร์จและมีอายุในการใช้งานที่ยาวนานการใช้งานแบตเตอรี่เกินความจุนั้นจะทำให้รอบในการชาร์จของแบตเตอรี่ของคุณนั้นสั้นลงและทำให้แบตเตอรี่ของคุณนั้นเสื่อมสภาพและไม่สามารถเก็บไฟได้เร็วขึ้นนั่นเอง
และในการชาร์จแบตเตอรี่นั้นแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดยังสามารถที่จะชาร์จประจุได้ช้ากว่าแบตเตอรี่แบบอื่นซึ่งในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มแล้วจะใช้เวลานานกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่นและเมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่งตัวแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั้นจะมีอาการบวมและเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็วด้วยนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วแบตเตอรี่แบบตะกั่วกลมนั้นยังมีขนาดที่ใหญ่น้ำหนักที่มากกว่าแบตเตอรี่แบบอื่นจึงทำให้เป็นภาระกับตัวโครงและตัวโครงสร้างรวมถึงการรับน้ำหนักของจักรยานไฟฟ้าด้วยซึ่งนั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้การทำงานของจักรยานไฟฟ้านั้นมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากว่ามีน้ำหนักในการบรรทุกที่เพิ่มมากขึ้นจากตัวของแบตเตอรี่โดยแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั้นที่ความจุ 48 โวลต์อาจจะมีน้ำหนักสูงได้ถึง 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว
แบตเตอรี่แบบลิเธียม
แบตเตอรี่แบบลิเทียมนั้นเป็นแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่เหมาะสำหรับใช้ในจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามากที่สุดเนื่องจากว่าแบตเตอรี่แบบลิเธียมนั้นสามารถที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าได้สูงและมีรอบในการชาร์จที่มากกว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดรวมถึงมีขนาดที่เล็กกะทัดรัดน้ำหนักที่เบากว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดหลายเท่าโดยที่ความจุขนาดเดียวกันนั้นแบตเตอรี่แบบลิเทียมจะมีขนาดน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของขนาดของแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดและมีน้ำหนักที่เบากว่า 1-2 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกันกับแบตเตอรี่ของแบตตะกั่วกรดและความจุของแบตเตอรี่แบบลิเทียมนั้น ในการใช้งานคุณยังสามารถที่จะดึงความจุไฟฟ้าจากแบตเตอรี่แบบลิเทียมมาใช้งานได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์และควรที่จะเหลือกระแสไฟฟ้าเพื่อไว้ใช้ในการยืดอายุของเซลล์ 20% ซึ่งเป็นความจุของแบตเตอรี่ที่มีการใช้งานกระแสไฟฟ้าและความจุได้มากกว่านั้นจึงทำให้การใช้งานแบตเตอรี่แบตลิเธียมนั้นจะให้ระยะทางในการใช้งานต่อการชาร์จที่มากกว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดนั่นเองดังนั้นจึงทำให้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นเป็นแบตเตอรี่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำมาใช้ในการเป็นแหล่งพลังงานให้กับจักรยานไฟฟ้านั่นเอง
โดยแบตเตอรี่แบบลิเธียมนั้นยังสามารถแบ่งออกได้เป็นอีกหลายประเภทขึ้นอยู่กับสารอิเล็กโทรไลต์และส่วนประกอบของแบตเตอรี่แบบแบบลิเทียมตัวอย่างเช่น แบตเตอรีลิเธียมไอออน, แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต, และ แบตเตอรี่ลิเธียมแบบ nmc ให้คุณเลือกใช้งานซึ่งแต่ละแบบงั้นก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันโดยแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนนั้นเป็นแบตเตอรี่ที่มีราคาที่ถูกที่สุดในกลุ่มของแบตเตอรี่แบบลิเทียมแต่จะมีข้อเสียตรงที่แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนนั้นสามารถที่จะระเบิดได้ซึ่งในการใช้งานนั้นถ้ามีการดูแลไม่ดีอาจจะทำให้ตัวเซลล์รั่วถ้ามีการรั่วไหลเพียง 1 เซลล์นั้นอาจจะทำให้เกิดการระเบิดได้ดังนั้นแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนจึงต้องมีการประกอบและป้องกันตัวเซลล์ให้มีความแข็งแรงเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเซลล์จนทำให้เกิดการระเบิดได้นั่นเอง
แต่แบตเตอรี่แบตลิเธียมไอออนฟอสเฟตนั้นออกแบบมาให้เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่เกิดการระเบิดถึงแม้ว่าตัวเซลล์นั้นจะถูกทำลายก็ตามนั่นจึงทำให้ตัวแบตเตอรี่นั้นมีความปลอดภัยในการใช้งานสูงกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่นนั่นเองส่วนแบตเตอรี่แบบลิเทียม nmc นั้นยังไม่มีความแน่ชัดว่ามีการระเบิดหรือไม่แต่จากการทดสอบและจากการศึกษาจากหลายๆแหล่งแล้วพบว่าแบตเตอรี่ nmc นั้นเป็นแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยอยู่พอสมควรและเป็นแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงที่มีอัตราการจ่ายไฟที่ค่อนข้างนี่ให้การจ่ายไฟที่แรงแต่จะมีราคาที่แพงที่สุดในกลุ่มของแบตเตอรี่สำหรับจักรยานไฟฟ้า
ในส่วนของราคานั้นแบตเตอรี่แบบลิเทียมจะมีราคาที่ใกล้เคียงกันกับแบตเตอรี่แบบตะกั่วกรดโดยจะมีราคาแพงกว่านิดหน่อยเท่านั้นเองในระดับความสูงเดียวกันนั่นจึงทำให้แบตเตอรี่ลิเธียมนั้นเป็นแบตเตอรี่แบบที่เหมาะสมที่สุดที่จะใช้งานกับจักรยานไฟฟ้ามากที่สุด
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาแบตเตอรี่เพื่อที่จะนำมาเปลี่ยนไปใช้งานให้กับจักรยานไฟฟ้าของคุณเราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเลือกซื้อแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานกับจักรยานไฟฟ้าของคุณได้ระยะทางที่มากขึ้นมีอายุการใช้งานที่มากกว่า 1-2 ปีอย่างแน่นอน