บัตรเครดิตคืออะไร ? บัตรเครดิตนั้นเป็นบัตรที่ทำให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการจ่ายเงินล่วงหน้าในการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายโดยเป็นบัตรที่ถูกออกให้จากสถาบันการเงินต่างๆให้กับผู้ถือบัตรทำการใช้เครดิตที่มีอยู่ในการใช้จ่ายทดแทนเงินสด โดยทางผู้ใช้งานหรือผู้ถือบัตรนั้นจะต้องทำการจ่ายเงินคืนให้กับสถาบันการเงินเจ้าของบัตรในภายหลังด้วยการจ่ายเงินแบบเต็มจำนวนหรือการผ่อนได้ด้วยซึ่งการผ่อนจ่ายนั้นก็จะมีดอกเบี้ยรวมเข้ามาด้วย โดยบัตรเครดิตจะแตกต่างกันกับบัตรเดบิตตรงที่บัตรเครดิตนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องมีจำนวนเงินภายในบัตรก่อน จะมีแค่วงเงินภายในบัตรเท่านั้นซึ่งจะทำให้คุณสามารถที่จะใช้จ่ายได้ในจำนวนวงเงินที่กำหนดเท่านั้นแต่สำหรับบัตรเดบิตนั้นจะเป็นบัตรที่คุณจำเป็นจะต้องมีเงินอยู่ในบัญชีของบัตรเดบิตหรือบัญชีธนาคารนั้นเสียก่อนจึงจะสามารถทำการจ่ายผ่านบัตรเดบิตได้นั่นเอง.
โดยบัตรเครดิตนั้นจะมีขนาดเดียวกันกับบัตรเดบิตหรือบัตร ATM ที่เรามีความนิยมในการใช้งานในปัจจุบันซึ่งมีขนาดมาตรฐาน 85.60 X 53.98 mm. หรือ (3 3⁄8 in × 2 1⁄8 in) และมีขอบที่มนที่มีวงรอบอยู่ที่ 2.88–3.48 mm โดยบนบัตรเครดิตนั้นจะมีหมายเลขที่เรียกว่า Bank Identification Number หรือ BIN ซึ่งจะเป็นลำดับของตัวเลขของธนาคารที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตนั้นๆ และตัวเลข 6 หลักถัดไปนั้นจะเป็นตัวเลขที่ระบุว่าเป็น MasterCard และ Visa cards และตัวเลข 9 หลักสุดท้ายนั้นจะเป็นเลขประจำตัวของบัตรของผู้ใช้งาน โดยบัตรเครดิตนั้นจะเป็นบัตรที่มาพร้อมกับแถบแม่เหล็กเพื่อใช้ในการบันทึกข้อมูลและสำหรับบัตรเครดิตรุ่นใหม่ๆนั้นจะมาพร้อมกับSmart Card เทคโนโลยีที่ใช้ ชิปคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กฝังเอาไว้ข้างในเพื่อใช้ในการปกป้องความปลอดภัยต่างๆของข้อมูลผู้ใช้บัตร และนอกจากนั้นแล้วบนบัตรเครดิตก็จะมีวันหมดอายุที่ถูกระบุไว้บนบัตรด้วย เพื่อใช้ในการแสดงอายุการใช้งานของปัดร่วมถึงจะมีตัวเลข พิเศษอยู่หลังบัตรเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานบัตรเครดิตต่างๆด้วย
บัตรเครดิตกับบัตร ATM เหมือนกันหรือไม่ ?
บัตรเครดิตและบัตร ATM ของธนาคารจะมีความเหมือนกันตรงที่มีขนาดของบัตรขนาดเดียวกันและมีลักษณะคล้ายคลึงกันอย่างมากแต่สำหรับการใช้งานนั้นจะมีความแตกต่างกัน โดยบัตรเอทีเอ็มจะใช้ในการกดเงินสดได้เท่านั้นแต่สำหรับบัตรเครดิตแล้วคุณสามารถที่จะใช้ในการจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าโดยไม่ใช้เงินสดผ่าเครื่องอ่านบัตรเครดิตได้เลยทันทีแต่บัตร ATM นั้นไม่สามารถที่จะใช้งานดังกล่าวได้
บัตรเครดิต คิดดอกเบี้ยยังไง ?
ดอกเบี้ยบัตรเครดิตนั้นเกิดจากที่คุณนำเอาเงินภายในบัตรเครดิตไปใช้แล้วไม่จ่ายยอดเงินทั้งหมดที่นำไปใช้ในตอนสิ้นเดือนหรือตามรอบการชำระเงิน ซึ่งยอดเงินที่ค้างชำระทั้งหมดจะถูกนำไปคิดเป็นดอกเบี้ยบัตรเครดิต จะกี่เปอร์เซ็นต์ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารว่าจะมีการคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่ดังนั้นรายการใช้บัตรเครดิตจะต้องใช้ด้วยความระมัดระวังก่อนที่จะทำการชำระค่าสินค้าและบริการต่างๆนั้นคุณจะต้องมั่นใจว่าคุณมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายหนี้ก้อนนั้นตอนสิ้นเดือนหรือไม่ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้เต็มจำนวนก็จะเกิดเป็นดอกเบี้ยนั่นเอง โดยการทำบัตรเครดิตออกมานะเพื่อที่จะต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถใจค่าสินค้าหรือบริการโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องทำการพกเงินสดไปจำนวนมากเท่านั้นไม่ใช่การใช้เพื่อเป็นการกู้เงินในอนาคตมาใช้แล้วทำการผ่อนในปีหลังการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการใช้บัตรเครดิตที่ผิดวิธีนั่นเอง
บัตรเครดิต ธนาคารไหนดี?
บัตรเครดิตนั้นในปัจจุบันนี้เรียกได้ว่าแทบจะมีให้บริการทุกธนาคารซึ่งผู้ที่จะสามารถทำการขอทำบัตรเครดิตได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีรายได้หรือเงินเดือนที่แน่นอนและมีความน่าเชื่อถือว่าจะสามารถที่จะจ่ายเงินคืนให้กับธนาคารได้ในระยะเวลาที่กำหนดโดยในปัจจุบันนี้มีธนาคารต่างๆที่ให้บริการบัตรเครดิตมากมายในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นธนาคารกรุงเทพธนาคารกรุงไทยธนาคารธนชาตธนาคารไทยพาณิชย์หรือ SCB หรือธนาคารกสิกรไทย โดยบัตรเครดิตของแต่ละธนาคารนั้นก็จะมีเงื่อนไขต่างๆที่แตกต่างกันและอัตราการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดของบัตรเครดิต รวมถึงวงเงินที่อยู่ในบัตรเครดิตนั้นก็จะมีความแตกต่างกันด้วยดังนั้นในการที่จะขอทำบัตรเครดิตกับธนาคารไหนดีนะเราแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลให้ถ้วนถี่ก่อนที่จะทำการสมัครเพื่อช่วยรักษาผลประโยชน์ในการใช้งานสูงสุดของคุณ
บัตรเครดิตมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง?
ในการทำบัตรเครดิตนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียในการใช้งานซึ่งผู้ใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาทั้งข้อดีและข้อเสียเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานบัตรเครดิตได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับข้อดีข้อเสียของบัตรเครดิตนั้นได้แก่
ข้อดีของบัตรเครดิต
1.บัตรเครดิตนั้นสามารถที่จะพกพาได้ง่ายทดแทนการถือเงินสดจำนวนมากทำให้คุณปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น
2.สามารถที่จะช่วยให้คุณจ่ายค่าสินค้าหรือบริการได้ทันทีถึงแม้ว่าเราไม่มีเงินสดเพียงพอในตอนนั้นซึ่งเราสามารถใช้บัตรเครดิตในการจ่ายค่าสินค้าไปก่อนได้แล้วจึงทำการจ่ายเงินคืนให้กับธนาคารในภายหลัง
3.สามารถสะสมคะแนนจากการใช้งานบัตรเครดิตได้นอนก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบาทแต่ละธนาคารที่จะมีรูปแบบของการสะสมแต้มที่แตกต่างกันไปซึ่งเราสามารถที่จะนำแต้มกันกล่าวนั้นไปใช้งานในการร่วมกิจกรรมต่างๆของทางธนาคารได้
4. ช่วยให้คุณผ่อนจ่ายค่าสินค้าได้และมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำถ้าทำตามเงื่อนไขที่ทางธนาคารกำหนด
ข้อด้อยของบัตรเครดิต
1.ถ้าชำระเงินขอวงเงินบัตรเครดิตไม่เต็มจำนวนนั้นจะมีดอกเบี้ยและค่าปรับต่างๆเพิ่มขึ้นมาซึ่งเมื่อสะสมไปนานๆแล้วอาจจะมากจนเกินที่จะจ่ายไหวได้นั่นเอง
2.ทำให้วินัยในการเงินและการใช้งานเสียไปเนื่องจากว่าเราสามารถที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งของต่างๆได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีการยั้งคิดหรือใช้เงินจนเกินตัว
สรุป สำหรับผู้ที่จะใช้บัตรเครดิตนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบัตรเครดิตให้ดีเสียก่อนและรู้จักใช้ประโยชน์ที่ได้จากการใช้งานบัตรเครดิตและใช้ให้เกิดประโยชน์ก็จะทำให้การใช้งานบัตรเครดิตนั้นมีความเหมาะสมแต่ถ้าการใช้บัตรเครดิตโดยที่ไม่รู้จักวิธีการจัดการและการบริหารเงินที่มีเพียงพอนั้นจะทำให้คุณมีหนี้ก้อนโตได้นั่นเอง