WiFi Smart Socket หรือ ปลั๊กไฟอัจฉริยะ เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เปิดปิดผ่านการควบคุมระยะไกลไร้สายด้วยเครือข่าย WiFi หรือเครือข่ายอินเทอร์เน็ตซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะควบคุมอุปกรณ์เหล่านั้นร่วมกับมือถือสมาร์ทโฟนโดยการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในการควบคุมหรือจะใช้งานร่วมกันกับลำโพงอัจฉริยะที่สั่งงานด้วยเสียงอย่าง Google Assistant SIRI หรือ Amazon Alexa ได้อย่างง่ายดาย โดยคุณจะสามารถสั่งเปิดปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆผ่านทางรถไฟอัจฉริยะตัวนี้ได้โดยจากเป็นการสั่งให้เปิดให้ปิดสามารถที่จะตั้งเวลาในการทำงานได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลาให้ทำงานล่วงหน้าหรือตั้งเวลาให้ทำงานในระยะเวลาที่กำหนดได้ด้วยนั่นเอง
Smart socket ปลั๊กไฟอัจฉริยะ หรือ Smart Plug คืออะไร? Smart socket นั้นเป็นปลั๊กไฟอัจฉริยะที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่าย WiFi ได้โดยคุณสามารถที่จะทำการควบคุมการทำงานของระบบไฟดังกล่าวผ่านทางเครือข่าย WiFi หรือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้โดยการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นในการควบคุมการทำงานเปิดและปิดโดยจะนิยมใช้ในการเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสั่งให้เครื่องใช้ไฟฟ้านั้นอยู่ในสถานะเปิดหรือปิดได้จากระยะไกลหรือใช้งานร่วมกับการควบคุมด้วยคำสั่งเสียงจากลำโพงอัจฉริยะต่างๆรวมถึงรองรับการใช้งานร่วมกับฮาร์ดแวร์อื่นๆที่ใช้ในการควบคุมตั้งค่าเพื่อความสะดวกในการใช้งาน แบบไร้สายโดยจะนิยมใช้ในระบบของ Smart Home หรือ Smart Office เป็นหลัก
และจะเห็นว่าในปัจจุบันนี้มีอุปกรณ์ Smart Plug หรือ Smart socket ให้เลือกใช้มากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อซึ่งอาจจะทำให้คุณนั้นสับสนและสงสัยว่าควรที่จะเลือกซื้อ Smart ละแบบไหนรุ่นไหนยี่ห้อไหนดีถึงจะช่วยให้คุณนั้นสามารถ ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุดดังนั้นวันนี้เราจึงได้รวบรวมเอาสิ่งที่คุณควรจะพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อ Smart รักมาใช้งานเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์ Smart socket ที่ดีที่สุดเหมาะสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุดนั่นเอง
แนะนำ Smart Plug ปลั๊กไฟอัจฉริยะ หรือ Smart socket รุ่นไหนยี่ห้อไหนดี
#1.Sonoff S31 Watt WIFI Smart Socket 16A สมาร์ทปลั๊ก วัดการใช้พลังงานได้
เป็น smart รับรองรับการ เปิดปิดผ่านสมาร์ทโฟนจากทุกที ทุกเวลา สามารถแสดงค่า กำลังไฟฟ้า กระแสไฟฟ้า และแรงดันไฟฟ้าแบบ Real-Time ดูค่ากำลังไฟ้าย้อนหลัง 100 วัน ผ่าน Application ได้ ตั้งให้ปลั๊กปิดการทำงานตามค่ากำลัง, แรงดัน, กระแสไฟฟ้าที่ต้องการ แสดงสถานะเปิดปิดปลั๊กบนหน้าแอพ ตั้งเวลาได้สูงสุด 8 เซตเวลา แชร์ให้คนในครอบครัวสั่งงานได้ ใช้งานได้กับ Amazon Echo, Echo Dot, Amazon Tap ใช้งานได้กับ Google Home, Google Nest IFTTT กระแสรองรับสูงสุด: 16 แอมป์
#2.TP-Link Tapo P100 Smart Plug สั่งเปิด-ปิด อุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านแอพ
เป็นอุปกรณ์ Smart Plugที่ใช้ในการจัดการ สั่งเปิด -ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าบนสมาร์ทโฟนผ่าน Tapo APP
สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าเพื่อจัดการอุปกรณ์อัตโนมัติ สามารถตั้งเวลานับถอยหลังสำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของคุณ รับรองการจัดการสมาร์ทปลั๊กของคุณผ่านคำสั่งเสียงบน Amazon Alexa หรือ Google Assistant สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดอุปกรณ์อัตโนมัติเสมือนว่ามีคนอยู่ที่บ้าน ขนาดกระทัดรัด สามารถที่จะติดตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์สูงสุดถึง 1200 วัตต์และรองรับกระแสสูงสุดถึง 10 แอมป์
#3.Broad link MP1 ปลั๊กพ่วง smart Plug WIFI strip socket
เป็นปลั๊กพ่วงแบบ Smart Plug ที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ผ่าน Alexa ทำงานได้ 3 โหมด คือ
1.โหมด ON/OFF สั่งเปิด-ปิดได้ทั้งแบบแยกอิสะต่อกัน4ช่อง หรือเปิดปิดพร้อมๆกันทุกช่อง
2.โหมด Timer ตั้งเปิดปิดตามเวลาที่กำหนด
3.โหมด Delay ตั้งเวลานับถอยหลังให้เปิด หรือให้ปิดได้
สามารถสั่งงานเปิด-ปิดพร้อมกัน 4 ช่อง หรือแยกอิสระช่องใดช่องหนึ่งได้ มีไฟแสดงสถานะทั้ง4ช่อง เพิ่มอิสระในการควบคุม ที่ตัวปลั๊กมีปุ่มกดเปิดปิดแบบ Manual 1ตัว ใช้สั่งเปิด/ปิดพร้อมกันทั้ง 4ช่อง ตัวปลั๊กนั้นทำจากวัสดุป้องกันการลามไฟ 750C ทนกำลังไฟสูงถึง 2200W 10A สามารถสั่งการทำงานเปิด-ปิดผ่านมือถือสมาร์ทโฟนเพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต รองรับiOS และ Android App ชื่อ Broad link e-control เสียบอุปกรณ์ได้มากถึง 4 ช่องตั้งเวลาการทำงานเปิด-ปิดได้มากถึง 16 กลุ่มการทำงาน ตั้งหน่วงเวลาดีเลย์ให้เปิด-ปิดได้ มีไฟสถานะ LED บอกสถานะเปิด-ปิดของแต่ละปลั๊ก รองรับ WiFi 802.11 b/g/n 2.4GHz เท่านั้น.
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อ Smart socket หรือปลั๊กไฟอัจฉริยะมาใช้งาน
1.การใช้งานภายนอกหรือภายใน
Smart Plug นั้นจะถูกออกแบบมาให้มีความสามารถในการใช้ได้ภายในเป็นหลักซึ่งจะใช้ในการควบคุมการทำงานอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในร่มซื้อภายในบ้านเป็นหลักซึ่งการนำเอาไปใช้งานนอกบ้านหรือภายนอกนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับการทำงานภายนอกโดยจะต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำกันฝุ่นเพื่อช่วยให้ตรวจอุปกรณ์นะสามารถที่จะใช้งานได้อย่างยาวนานซึ่งในการเลือกซื้อมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อ Smart Plus หรือปลั๊กไฟอัจฉริยะให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
2.การใช้งานร่วมกับระบบ HUB หรือระบบเชื่อมต่อ
ในการที่จะควบคุมการทำงานต่างๆของ Smart socket หรือปลั๊กไฟอัจฉริยะนั้นมีบางรุ่นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้งานร่วมกับ hub เพื่อช่วยให้อุปกรณ์สามารถที่จะทำการรองรับการควบคุมได้จากการทำงานที่หลากหลายซึ่งจะมีผู้ผลิต Smart Plug บางรุ่นที่ออกแบบมาให้ตัวอุปกรณ์นั้นสามารถที่จะใช้งานร่วมกับ HUB ของตัวเองเท่านั้น จึงจะสามารถใช้งานได้โดยส่วนมากแล้วจะเป็นระบบที่มีข้อจำกัดสูง
3. มาตรฐานเครือข่ายไร้สายที่รองรับ
โดยในการใช้งานร่วมกับเครือข่ายไร้สายของคุณนั้นตัวอุปกรณ์นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับการทำงานร่วมกับระบบเครือข่าย WiFi ของคุณอย่างเช่นเครือข่าย WiFi ของคุณนั้นเป็นระบบ 5 Ghz แต่ตัว Smart รักนั้นใช้คลื่นความถี่ที่ 2.4 Ghz ซึ่งอาจจะทำให้การทำงานร่วมกันนั้นไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันได้นั่นเองดังนั้นในการเลือกซื้อมาใช้งานคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาในจุดนี้ให้ดีด้วยเพื่อช่วยให้ตัวอุปกรณ์นั้นสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การรองรับการทำงานร่วมกับ Apple Home Kit
ในกรณีที่คุณต้องการนำมาใช้งานร่วมกับ Apple Home Kit ด้วยการใช้คำสั่ง SIRI ให้ทำการเปิดอุปกรณ์ต่างๆนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้ออุปกรณ์ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นตัดปัญหาความยุ่งยากในการเชื่อมต่อ เข้ากับอุปกรณ์ Apple Home Kit ที่คุณมีอยู่
5. การทำงานร่วมกันกับผู้ช่วยอัจฉริยะผ่านทางลำโพงอัจฉริยะหรือ Smart Speaker
โดยทั่วไปแล้ว Smart ละหรือ Smart socket นะจะสามารถทำงานร่วมกันกับลำโพงอัจฉริยะได้เป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Amazon Alexa, Google Assistant หรือ Apple Siri ตัวใดตัวหนึ่งซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เหล่านั้นในการสั่งงานการเปิดปิดด้วยเสียงได้
6.ข้อจำกัดในกำลังไฟใช้งาน
โดยทั่วไปแล้วตัว Smart Plug มันจะรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์น้อยๆอย่างเช่นหลอดไฟโคมไฟลำโพง Bluetooth เครื่องชาร์จมือถือสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆที่มีกำลังวัตต์น้อยตั้งแต่ 100 จนถึง 500 บาทเท่านั้นแต่การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์มากๆกินกระแสไฟมากๆอย่างเช่นกาต้มน้ำร้อนมอเตอร์ไฟฟ้าปั๊มน้ำพัดลมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาเลือกให้ดีเพราะว่าการใช้งานที่เกินกำลังที่สมาร์ทปลั๊กจะรับได้นั้นจะทำให้ตัวรีเลย์ของ Smart Plug นั้นทำงานหนักเกินไป และอาจจะเสียหายได้นั่นเอง โดยในการเลือกซื้อมาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูข้อจำกัดของตัว Smart ลักว่าใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์ได้สูงสุดเท่าไหร่สำหรับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์สูงนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีกำลังวัตต์สูงและกินกระแสไฟฟ้ามากน่าจะเหมาะสมในการใช้งานมากกว่า
7.จำนวนช่องเสียบของปลั๊ก
โดยทั่วไปแล้วตัว Smart Plug หรือ Smart socket นั้นจะถูกออกแบบมาให้มีช่องเสียบเพียงช่องเดียวเพื่อช่วยให้มีขนาดที่เล็กกะทัดรัดและสามารถที่จะแยกในการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆแยกชิ้นกันสำหรับการที่จะใช้งานร่วมกับอุปกรณ์จำนวนหลากหลายนั้นเราแนะนำให้คุณใช้งานร่วมกับ Smart Plug ที่มีช่องเสียบแยกหลายช่องโดยคุณสามารถที่จะทำการควบคุมการเปิดปิดแยกได้ซึ่งจะทำให้การใช้งานนะมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
8.แบบมีสายดินหรือแบบไม่มีสายดิน
โดยทั่วไปแล้ว Smart Plug หรือ Smart socket นั้นจะมีมาให้เพียง 2 สายเท่านั้นโดยจะไม่มีสายดินมาให้ในทุกรุ่นดังนั้นในกรณีที่คุณต้องการความปลอดภัยสูงและต้องการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีการต้องการใช้งานสายดินนั้นคุณจะเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเลือกซื้อ Smart Plug หรือ Smart socket ที่รองรับการต่อสายดินด้วย
9.ความสามารถในการติดตามการใช้งานกระแสไฟ
การวัดปริมาณการใช้กระแสไฟของตัว Smart Plug หรือ Smart socket นั้นจะสามารถใช้งานได้ในบางรุ่นที่คุณต้องการจะวัดปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าเพื่อหาอุปกรณ์ที่มีอัตราการบริโภคกระแสไฟฟ้าสูงสุดหรือตรวจสอบปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าในอุปกรณ์แต่ละชิ้นซึ่งจะมีการรายงานผลผ่านทางการเชื่อมต่อเข้ากับแอพพลิเคชั่นให้คุณได้รับรู้และตรวจสอบเมื่อต้องการซึ่งจะทำให้คุณนั้นสามารถที่จะนำข้อมูลนะกลับไปใช้ในการวางแผนการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆได้อย่างเหมาะสมนั้นเอง
สรุป ในการจะเลือกซื้อ Smart Plug หรือ Smart socket มาใช้งานนะคุณจำเป็นที่จะต้องพิจารณามากมายหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบ้านแจ้งหรือในบ้านมาตรฐานในการเชื่อมต่อความเข้ากันได้กับการใช้งานต่างๆไม่ว่าจะเป็น Apple Home kit Google Assistant หรือ Amazon Alexa ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะที่ใช้ในการสั่งงานเปิดปิดอุปกรณ์ Smart รักหรือ Smart socket เหล่านี้ได้ ข้อจำกัดในเรื่องของกระแสไฟฟ้าจำนวนช่องเสียบของปลั๊กและคุณสมบัติในการที่สามารถต่อสายดินหรือไม่ต่อสายดิน