ถ้วยร้อน ได้รับความนิยมในการใช้งานเพื่อบริโภคมากขึ้นในปัจจุบันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เราเริ่มได้เห็นเมนูแบบถ้วยร้อนซึ่งเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รสชาติต่างๆ ที่ไม่ต้องมีการต้มน้ำร้อนเพียงเติมน้ำธรรมดาลงบนถ้วยที่มาพร้อมกับกล่องของบะหมี่ถ้วยร้อน ความร้อนของสารเคมีที่อยู่ภายในก็จะทำให้น้ำที่เติมลงไปภายในถ้วยนั้นสามารถที่จะสร้างความร้อนได้ด้วยตัวของมันเอง โดยความร้อนที่ได้นั้นก็จะสามารถทำให้น้ำซุบของอาหารนั้นร้อนขึ้นและสามารถใช้ในการปรุงอาหารเมนูต่างๆที่อยู่ในภาชนะด้านบนได้
ถ้วยร้อนคืออะไร ?
ถ้วยร้อนคือ เมนูอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานที่มาพร้อมกับภาชนะใส่อาหารที่สามารถสร้างความร้อนได้ด้วยตัวเองเพียงเติมน้ำและเป็นรูปแบบของการสร้างความร้อนโดยที่ไม่เกิดเปลวไฟ ซึ่งจะทำให้อาหารนั้นเกิดความร้อนขึ้นและเกิดการ ปรุงรสจนสามารถที่จะรับประทานได้
โดยตัวสารเคมีนั้นเมื่อทำปฏิกิริยากันแล้วก็จะทำให้เกิดอุณหภูมิและความร้อนออกมารอบๆตัวถ้วยร้อนนั้นซึ่งจะทำให้น้ำซุบที่อยู่ด้านบนของตัวถ้วยร้อนที่อยู่ในภาชนะแยกนั้นเกิดความร้อนขึ้นจนถึงจุดเดือดได้โดยคุณภูมิที่ได้จากแหล่งความร้อนดังกล่าวนั้นอาจจะสูงถึง 100 องศาซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงเพียงพอที่จะทำให้น้ำซุบภายในภาชนะที่ใส่บะหมี่นั้นสามารถที่จะร้อนได้นั่นเอง
การทำงานของถ้วยร้อน
โดยสารที่ทำให้เกิดความร้อนภายในถ้วยร้อนนั้นจะเป็น แมกนีเซียม Mg แบบผงที่เมื่อเติมน้ำลงไปก็จะทำปฏิกิริยากันทีกับน้ำทำให้เกิดความร้อนออกมาและจะมีแก๊สไฮโดรเจนออกมาในระหว่างที่เกิดปฏิกิริยาด้วยตามสมการเคมี Mg + 2 H2O → Mg(OH)2 + H2 [+ heat (q)] ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปฏิกิริยาเคมีนั้น จะเกิดแก๊สไฮโดรเจนขึ้นมาถึง 2 โมเลกุลระหว่างที่เกิดปฏิกิริยาโดยมีการคาดการณ์ว่า อ้างอิงจากรายงานของเว็บไซต์ https://www.shine.cn/news/metro/1903121067/ ในช่วงที่ทำให้เกิดความร้อนของถ้วยร้อนนั้นมีการสร้างหรือปล่อยเอาก๊าซไฮโดรเจนออกมาขณะที่ตัวถ้วยร้อนนั้นเริ่มทำความร้อนมากถึง 40 ลิตร และเป็นที่ทราบกันดีว่าก๊าซไฮโดรเจนนั้นสามารถที่จะระเบิดและติดไฟได้ถ้ามีความเข้มข้นเพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานช่วยร้อนในพื้นที่ปิดนั้นในบริเวณที่มีพื้นที่แคบ ตัวอย่างเช่นภายในรถยนต์ที่ไม่มีการเปิดระบายอากาศนั้นจะเป็นการสะสมก๊าซไฮโดรเจนให้ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศภายในรถยนต์ และเมื่อมีประกายไฟเกิดขึ้นหรือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟภายในรถยนต์นั้นอย่างเช่นการจุดบุหรี่สูบ หรือการอาร์คกันของสายไฟก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้ก๊าซไฮโดรเจนนั้นติดไฟได้นั่นเองโดยก๊าซไฮโดรเจนจำนวนมากนั้นสามารถที่จะติดไฟและสามารถที่จะระเบิดได้อย่างง่ายดายโดยก๊าซไฮโดรเจนนั้นมีความสามารถในการติดไฟที่รวดเร็วมากกว่าก๊าซทุกชนิดบนโลกและความรุนแรงที่เกิดจากการระเบิดของแก๊สไฮโดรเจนนั้นอันตรายอย่างยิ่ง
ถ้าคุณเริ่มสงสัยว่าเมื่อก๊าซไฮโดรเจนระเบิดจะเกิดอะไรขึ้น คุณสามารถที่จะดูคลิปวีดีโอการทดลองเกี่ยวกับการระเบิดและติดไฟของก๊าซไฮโดรเจนได้ที่คลิปวีดีโอนี้ https://www.youtube.com/watch?v=XlmtcsSJr7Q ซึ่งได้ทำการทดลองเกี่ยวกับการลุกไหม้ของก๊าซไฮโดรเจนที่ถูกบรรจุภายในลูกโป่งธรรมดาและจะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าภายในลูกโป่งนั้นจะไปจุกไปด้วยก๊าซไฮโดรเจนจำนวนน้อยแต่ก็เห็นได้ถึงประกายไฟที่เกิดขึ้นจากการระเบิดนั้นมีความรุนแรงอยู่พอสมควรและแน่นอนเมื่อเกิดระเบิดภายในพื้นที่ปิดและมีปริมาณความเข้มข้นของแก๊สไฮโดรเจน มากเท่าใดก็จะทำให้แรงระเบิดหรือความอันตรายที่เกิดจากการระเบิดนั้นมีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ถ้วยร้อน ร้อนได้ไง? ปลอดภัยไหม ?
โดยเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังถ้วยร้อนนั้น เป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นและใช้งานโดยกองทัพสหรัฐ ซึ่งมีชื่อว่า Flameless Ration Heater (FRH) https://en.wikipedia.org/wiki/Flameless_ration_heater โดยได้มีการพัฒนาในช่วงปี 1990s ซึ่งเราจะคุ้นเคยเกี่ยวกับอาหาร Meals, ready-to-eat (MREs) ของทหารสหรัฐก็ใช้เทคโนโลยีนี้ในการทำให้อาหารอุ่นร้อนเช่นเดียวกัน และจะเห็นได้ว่ามาตรฐานดังกล่าวนั้นได้มีการนำไปใช้กับอาหารของทหารสหรัฐจึงทำให้เทคโนโลยีนี้มีความปลอดภัยในการใช้งานพอสมควรและสารเคมีที่เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาของสารที่อยู่ภายในการให้ความร้อนนั้นก็จะ ทำให้เกิดสารสุดท้ายเป็นก๊าซไฮโดรเจนและแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งมีการใช้งานในการผสมในอาหารด้วยในบางครั้งโดยสารดังกล่าวนั้นก็ยังถือว่าเป็นสารที่มีความปลอดภัยอยู่พอสมควรถ้าได้รับในปริมาณที่น้อย คุณสามารถที่จะดูรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับสาร ประเภทนี้ได้ที่ Link นี้ https://en.wikipedia.org/wiki/Magnesium_hydroxide
สำหรับวิธีการทำถ้วยร้อนนั้นสามารถที่จะทำได้ง่ายๆ
1.การแช่อาหารที่อยู่ภายในภาชนะด้วยน้ำก่อน 8 ถึง 10 นาทีเพื่อให้อาหารนะทำการดูดน้ำเข้าไปภายในส่วนประกอบของอาหารและให้อาหารมีความนุ่ม และทำการปิดฝาให้สนิท
2. หลังจากนั้นได้ทำการเติมน้ำในปริมาณที่เหมาะสมเล็กน้อยก็ไปยังแผ่นความร้อนและให้วางภาชนะใส่อาหารทับลงบนแผ่นความร้อนรอจนกว่าจะเกิดปฏิกิริยาเคมี และเกิดความร้อนขึ้นในแผ่นทำความร้อน
3. รอให้ปฏิกิริยาทำความร้อนนะปล่อยความร้อนออกมาจนหมดโดยจะใช้เวลาประมาณ 3-5 นาทีเมื่อความร้อนและปฏิกิริยาการทำความร้อนทั้งสิ้นสุดลงน้ำที่อยู่ภายในภาชนะอาหารนั้นก็จะเกิดความร้อนและทิ้งไว้สักตัวอาหารก็พร้อมที่จะรับประทานได้แล้ว
*** ข้อควรระวังขณะใช้งาน ในการใช้งานถ้วยร้อนนั้น สำคัญมากที่จะต้องใช้งานขณะที่ทำการเติมน้ำใส่แผ่นทำความร้อนนั้นจะต้องทำในพื้นที่เปิดที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกไม่ควรที่จะทำในพื้นที่ปิดที่ไม่มีอากาศหมุนเวียนหรือถ่ายเทอย่างเด็ดขาดเนื่องจากว่าจะเกิดก๊าซไฮโดรเจนขึ้นขณะที่ทำการใช้งานและเมื่อก๊าซไฮโดรเจนเกิดการสะสมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการระเบิดให้ถ้ามีเปลวไฟหรือประกายไฟเกิดขึ้น
แนะนำ ถ้วยร้อน แบบไหน รสไหนอร่อย
#1. มาม่าถ้วยร้อน [หมาล่า1 แจ่วฮ้อน1 ชาบูน้ำดำ1] แบบ3ถ้วย100.-
มาม่าถ้วยร้อน ไม่ต้องเวฟ ไม่ต้องต้ม เติมน้ำเปล่า ร้อนได้เลยวิธีการปรุงแยกถ้วยด้านในนอกฉีกถุงพลาสติกใส ที่หุ้มถุงความร้อนออกใส่ถุงทำความร้อน และเติมน้ำแค่ขอบถ้วยค้นล่างแกะถุงบะหมี่ เครื่องปรุง ผัก และเติมน้ำวางถ้วยค้นในบนถ้วยด้านนอก และปิดฝารอประมาณ 5-10 นาที ถ้วยร้อน ฮาลาล ด้วย
#2.หม่าล่าหม้อไฟ รสเนื้อหม่าล่า ชาบูหม่าล่า พร้อมทาน 15นาที
ชาบูหม่าล่าหม้อไฟ แบบพกพา ทำความร้อนได้เอง ไม่ต้องง้อไฟ เพียงแค่เทน้ำอุณหภูมิปกติ รอสักครู่ น้ำเดือดก็พร้อมทานได้เลย รสชาติจัดจ้าน หอมเครื่องเทศ เครื่องเยอะ จุใจ อร่อยแซ่บ มี 3 รสชาติให้เลือก
รสหมูหม่าล่า รสเนื้อหม่าล่า รสเนื้อติดมันหม่าล่า ดราม่าเก็บไว้ได้นาน 12เดือน (นับจากวันผลิต).
และในปัจจุบันนี้มีเมนูที่มีลักษณะในการเตรียมอาหารที่คล้ายกันได้ก็คือเมนู ข้าวร้อน ซึ่งหลักการทำงานนั้นจะมีหน่วยงานกับเมนูถ้วยร้อนแทบจะทุกประการแต่เปลี่ยนจากบะหมี่ถ้วยร้อนเป็นข้าวร้อนซึ่งจะมีส่วนผสมของเมนูอาหารต่างๆให้เลือกหลากหลายเมนู