ANC หรือ Active Noise Cancelling คืออะไร? ระบบการตัดเสียงรบกวนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นวิธีการตัดเสียงรบกวนโดยการใช้เสียงที่สร้างขึ้นจากวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ภายในเพื่อนำมากลบหรือลดเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการให้น้อยลงซึ่ง มีประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่าแบบที่ไม่ใช้พลังงานหรือที่เรียกว่าPassive noise Isolation โดยจะมีการใช้วงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการแยกเสียงที่เป็นเสียงที่ต้องการกับเสียงที่รบกวนออกจากกันด้วยการใช้งานไมโครโฟนซึ่งตัวไมโครโฟนนั้นจะทำการรับเสียงจากภายนอกเข้ามายังแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาให้วิเคราะห์เสียงรบกวนแล้วทำการส่งคลื่นออกไปเพื่อขจัดเสียงรบกวนที่ได้รับมาจากไมโครโฟนและหลังจากนั้นก็จะทำการปล่อยเสียงที่ไม่มีเสียงรบกวนออกมายังหูฟังจึงทำให้เสียงที่ได้นั้นแทบจะไม่มีเสียงรบกวนหรือมีเสียงรบกวนน้อยมากนั่นเอง
โดยระบบการตัดเสียงสมัยใหม่นั้นโดยทั่วไปแล้วจะใช้การทำงานของบอร์ดหรือวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบบอนาล็อกหรือดิจิตอลที่จะใช้ในการวิเคราะห์สัญญาณเสียงระหว่างเสียงที่เกิดขึ้นรอบๆตัวกับเสียงที่ ต้องการ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
โดยการพัฒนาเทคโนโลยีในการตัดเสียงรบกวนนี้ได้มีการจดสิทธิบัตรครั้งแรกในปี 1936 ซึ่งเป็นงานของนักประดิษฐ์ ที่ชื่อว่า Paul Lueg U.S. Patent 2,043,416 .ซึ่งสิทธิบัตรดังกล่าวนั้นได้ทำการอธิบายถึงการลดเสียงรบกวนของเสียงด้วยการใช้คลื่นเสียงลำโพงและในปี 1950 นั้นก็ได้มีการพัฒนาระบบป้องกันเสียงภายใน นั้นก็ได้มีการพัฒนาระบบป้องกันเสียงภายในฮ่องกงสารห้อง เฮลิคอปเตอร์และห้องบังคับเครื่องบิน และหลังจากนั้นไม่นานในปี 1957 นั้นก็ได้มีการออกแบบและพัฒนาหูฟังที่มาพร้อมกับความสามารถในการตัดเสียงรบกวนได้ และได้มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งความสามารถในการตัดเสียงรบกวนของหูฟังและประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนนั้นในหูฟังแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีความแตกต่างกันไปซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็นระบบการแปลงเสียงต่างๆนั้นที่วิธีการใช้งานแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แตกต่างกันรวมถึงชิปที่ใช้ในการประมวลผลที่แตกต่างกัน ที่จะให้ประสิทธิภาพในการทำงานในการตัดเสียงรบกวนที่แตกต่างกันอีกด้วย ไมโครโฟนซึ่งเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่จะใช้ในการรับเสียงจากภายนอกเพื่อที่จะนำมาตัดเสียงรบกวนนั้นจะต้องมีประสิทธิภาพดีโดยยิ่งไมโครโฟนนั้นสามารถที่จะรับเสียงได้ดีเท่าไหร่ก็จะสามารถที่จะทำการตัดเสียงรบกวนได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นและให้เสียงที่มีการรบกวนที่น้อยลงอีกด้วย
.
และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้มีการชูเทคโนโลยีต่างๆที่ต่างว่าสามารถที่จะนำมาใช้ในการตัดเสียงรบกวนให้กับหูฟังประเภทต่างๆที่มีวางขายอยู่ในท้องตลาดกันอย่างแพร่หลายซึ่งการนำเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้มาใช้ในหูฟังเพื่อใช้ในการตัดเสียงรบกวนนั้นจะทำให้ผู้บริโภคเองนั้นได้ประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาและวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เข้าถึงการฟังเพลงที่มีอรรถรสที่ดีมากยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนโดยเป็นที่ทราบกันดีว่าการฟังเพลงที่ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกนั้นจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงรายละเอียดต่างๆที่อยู่ภายในตัวเองได้อย่างชัดเจนและได้อรรถรสในการรับฟังที่ดีมากยิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าหูฟังที่มี Technology Active noise cancellation นั้นจะยังมีราคาแพงอยู่ในปัจจุบันซึ่งเราจะสามารถพบหูฟังที่มีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนคุณภาพดียังมีราคาที่สูงมากและเข้าถึงได้ยากแต่คงต้องรอให้เทคโนโลยีนี้เป็นที่แพร่หลายมากกว่านี้และหวังว่าอีกไม่นานนั้นหูฟังที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนแบบ Active นั้นจะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้นและจะมีราคาที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นภายในอนาคตอันใกล้นี้
แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณในการที่จะเลือกซื้อหูฟังที่มีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนประสิทธิภาพสูงแล้วก็ปัจจุบันนี้มีหูฟังประเภทนี้วางขายมากมายหลายรุ่นหลายยี่ห้อให้คุณได้เลือกมาใช้งานซึ่งแต่ละรุ่นก็มีทั้งข้อดีและข้อด้อยที่แตกต่างกันดังนั้นในการเลือกซื้อมาใช้งานนั้นควรที่จะศึกษารายละเอียดต่างๆของหูฟังแต่ละรุ่นให้ดีก่อนที่จะทำการเลือกซื้อเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะเลือกหูฟังตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมสำหรับการใช้งานของคุณมากที่สุด.
https://en.wikipedia.org/wiki/Active_noise_control