โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เริ่มได้มีการประมูลสัญญาโครงข่าย 5G ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นที่ทราบกันดีว่าเทคโนโลยี 5G นั้นเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีความเร็วมากกว่าสัญญาณแบบ 4G ถึง 10 เท่าและมีปริมาณในการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่าถึงพันเท่ามีความหน่วงเวลาหรือเรสซิเดนซี่ที่ต่ำมากจึงทำให้เครือข่าย 5G นั้นสามารถที่จะรองรับอุปกรณ์ต่างๆได้มากขึ้นรวมถึงอุปกรณ์จำพวกไอโอที พี่เริ่มจะมีความนิยมในช่วงหลังๆนี้โดยสามารถที่จะรองรับอุปกรณ์ได้มากมายที่สุดถึง 1 ล้านเครื่องต่อ 1 ตารางกิโลเมตรซึ่งนอกจากจะใช้ในการสื่อสารแล้วยังจะสามารถที่จะใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้อีกด้วย
โดย chipset Snapdragon 690 นั้นจะมาพร้อมกับโมเดล x51 ที่รองรับการใช้งานเครือข่ายแบบ 5G โดยมีโหมด S A และ SA ที่ใช้ความเร็วในการ Darling ได้สูงสุดถึง 2.5 กิกะไบต์ต่อวินาทีแต่ยังไม่สนับสนุน mmWave 5G ซึ่งเป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อแบบ 5G ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่านั่นเอง
ตัวชิป Snapdragon 660 นั้นจะมาพร้อมกับซีพียูแบบออคต้าคอร์ที่มีความเร็วถึง 2 ชิ้นโดยจะเป็น a77 ซึ่งมี 2 ก.พ และ cortex a55 ที่มี 6 Core โดยทางบริษัทข้อความนั้นได้บอกว่าประสิทธิภาพของ CPU นั้นจะมีประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเปรียบเทียบกับ chipset Snapdragon 675
ในส่วนของชิปกราฟิกนั้นจะใช้ชิปกราฟิก adreno 619 L ซึ่งได้มีการยืนยันว่าประสิทธิภาพในการแสดงผลของกราฟิกจะเพิ่มมากขึ้นถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับชิปเซ็ต Snapdragon 675 โดย Cheap ตัวใหม่นี้จะทำให้ตัวเครื่องนั้นสามารถที่จะรองรับการตั้งค่า Refresh Rate ได้มากถึง 120 เฮิร์ตที่ความละเอียดระดับ full hd Plus ซึ่งจะช่วยให้สมาร์ทโฟนที่ใช้ชิป Snapdragon 660 นั้นมีประสิทธิภาพที่มากยิ่งขึ้นนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้ว naproxen 660 นั้นยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพของการใช้งานระบบ Machine Learning ที่มากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 675 โดยชิตตัวใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงานเกี่ยวกับการจดจำใบหน้าและการใช้งาน Natural language ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
สำหรับในเรื่องของความสามารถเกี่ยวกับกล้องนั้น chipset Snapdragon 660 นั้นจะรองรับการใช้งานกล้องที่มีความละเอียดได้สูงสุดถึง 192 เมกะพิกเซล และกล้องความละเอียดขนาด 48 Mega Pixel ที่รองรับการใช้งานมัลติเฟรม processing และกล้องคู่ขนาด 32 + 16 เมกะพิกเซลอีกด้วยโดยตัวกล้องนั้นสามารถที่จะทำการถ่ายวีดีโอแบบ 4K HDR แต่นอกจากนั้นยังสามารถที่จะรองรับการใช้งานการบันทึกไฟล์ใน format HEIF และ HEVC ได้อีกด้วยซึ่งจะช่วยให้ไฟล์ที่ได้จากการบันทึกภาพและวีดีโอนั้นมีขนาดไฟล์ที่เล็กลงเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้น chipset Snapdragon 660 นั้นจะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อ WiFi Version 6 และ Bluetooth Version 5.1 จากนั้นยังรองรับการชาร์จไฟแบบ Quick Charge 4+ เทคโนโลยีอีกด้วย
โดย Smartphone กลุ่มที่ใช้ chipset Snapdragon 600 รุ่นแรกนั้นจะมีวางขายในท้องตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2020 โดยยี่ห้อต่างๆที่ได้รับการตอบรับว่าจะใช้งานชิปเซ็ตรุ่นนี้นั้นก็ได้แก่ HMD หรือบริษัท Nokia , LG, Sharp, ทีแอลซี และ วินเทค ซึ่งได้รับการยืนยันว่าจะมีการผลิตสมาร์ทโฟนที่มีการใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 600 นี้อย่างแน่นอนโดยทางผู้ผลิตนั้นยังไม่ได้มีแค่นี้แต่ยังมีผู้ผลิตเจ้าอื่นที่สนใจที่จะนำ chipset รุ่นนี้ไปใช้กับสมาร์ทโฟนของพวกเขาด้วยเช่นกัน
จะเห็นได้ว่ากระแสของ 5G นั้นมาแน่ๆภายในระยะเวลาไม่เกิน 1-2 ปีนั้นเราอาจจะได้เห็นหรือได้ใช้งานเครือข่าย 5G ซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความเร็วสูงเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วยสำหรับประเทศไทยนั้นคงอีกไม่นานหลังจากที่ทางผู้ให้บริการทางการประมูลสัญญาโครงข่าย 5G ไปเรียบร้อยแล้วคงจะมีการติดตั้งโครงข่ายเพื่อที่จะให้มีการใช้งานได้ทั่วประเทศภายในระยะเวลาเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
การมาของเครือข่าย 5G นั้นจะช่วยให้เราสามารถที่จะเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วมากยิ่งกว่าเดิมซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการใช้งานทางด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับการใช้งานขนส่งสาธารณะต่างๆการใช้งานในการค้นหาข้อมูล shopping online การใช้งาน Social Media ต่างๆที่มีความรวดเร็วทั้งในด้านการดาวน์โหลดและการอัพโหลดมากยิ่งขึ้นนั่นเอง