
ฝุ่น PM2.5 นั้นมาจากไหน เกิดจากอะไร ?
สาเหตุที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มาจากสองแหล่งกำเนิดใหญ่ๆ คือ
1. แหล่งกำเนิดโดยตรง เช่นการเผาเศษวัสดุ ขยะ หรืออะไรก็แล้วแต่ในที่โล่งที่มีการเผาไหม้ หรือเครื่องยนต์รถยนต์ที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ โรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีระบบบำบัด ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ทั่วๆไปในชุมชนของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัวว่ากิจกรรมดังกล่าวนั้นจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพกับคนในชุมชนตามมา2. การรวมตัวกันของก๊าซพิษอื่นๆในชั้นบรรยากาศโดยเฉพาะอย่างยิ่งซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) รวมทั้งสารพิษอื่นๆ เช่น สารปรอท (Hg), แคดเมียม (Cd), อาร์เซนิก (As) หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) ที่เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นพิษ และเป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์
เมื่อเราได้รับฝุ่น PM 2.5 จะเกิดอะไรขึ้น ?
ผลกระทบที่เราได้รับฝุ่น PM 2.5 นั้นถ้าเป็นปริมาณน้อยๆในช่วงแรกๆอาจจะไม่แสดงอาการอะไรมากนัก แต่ถ้าได้รับฝุ่นดังกล่าวสะสมและติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ หรือในกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่อ่อนไหวต่อฝุ่น PM 2.5 ได้แก่เด็ก ผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ หรือคนชรา นั้นก็จะเริ่มแสดงอาการผิดปกติของร่างกายเกิดขึ้น โดยจะสามารถสังเกตุความผิดปกติได้หลายๆอย่างได้แก่• มีผื่นคันตามตัว
• ปวดแสบปวดร้อน มีอาการระคายเคือง
• เป็นลมพิษ ถ้าเป็นหนักมากอาจเกิดลมพิษบริเวณใบหน้า ข้อพับ ขาหนีบ
• ทำร้ายเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวอ่อนแอ เหี่ยวย่นง่าย
• มีอาการไอ จาม หรือภูมิแพ้
• ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่นอยู่แล้ว จะยิ่งถูกกระตุ้นให้เกิดอาการมากขึ้น
• เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง
• เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง
• เกิดโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอด
ซึ่งดูจากลำดับของอาการของร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่มีผลกระทบต่อร่างกายของเราแล้วเรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างยิ่งโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงต่างๆ
การรับมือกับฝุ่นจิ๋ว PM2.5 อย่างไรถึงจะปลอดภัยที่สุด ?
สำหรับการรับมือกับเจ้าฝุ่น PM2.5 นั้นที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่คุณภาพอากาศบริเวณนั้นมีค่าฝุ่นเกินมาตราฐาน ซึ่งค่า PM2.5 ที่มีความเข้มข้นเกิน 51 - 90 (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งคุณสามารถตรวจเช็คได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือที่ชื่อว่า AirVisual ซึ่งอาจจะไม่มีข้อมูลในสถานที่ที่คุณอาศัยอยู่ ดังนั้นคุณจึงต้องการเครื่องวัดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งสามารถหาซื้อได้ ที่ลาซาดา เราแนะนำตัวนี้ Smartmi PM2.5 aerial detection เครื่องวัดฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็น เครื่องวัดคุณภาพอากาศ ที่เชื่อถือได้ในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ หรือมีความจำเป็นที่จะต้องออกไปกลางแจ้งในช่วงที่มีฝุ่น พีเอ็ม 2.5 เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยนั้นควรที่จะสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดีและมีประสิทธิภาพคือ หน้ากาก N95 ซึ่งสามรถป้องกันฝุ่นจิ๋วได้ดีกว่าหน้ากากแบบอื่นๆ ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้าออนไลน์ แนะนำที่นี่มีให้เลือกมากมายหลายแบบ และหลายราคา มีทั้ง หน้ากาก n95 มีวาล์ว หน้ากาก n95 ซักได้ หน้ากาก n95 พัดลม หรือรุ่นที่สามารถเปลี่ยน แผ่นกรองได้ ก็มี
สำหรับบ้านที่มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยอยู่เป็นประจำ และมีผู้อยู่อาศัยที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จำเป็นอย่างนิ่งที่จะต้องใช้เครื่องกรองฝุ่น PM 2.5 หรือ เครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้โดยปิดภายในบ้านที่ปิดประตูหน้าต่างเพื่อป้องกันฝุ่นเข้ามาจากภายนอก แล้วเปิดเครื่องฟอกอากาศให้ทำงานจนระดับฝุ่นอยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่น พีเอ็ม 2.5 ได้นั้นที่เราจะมาแนะนำกันวันนี้ได้มีราคคาตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่แต่ละรุ่นมีมาให้ นอกจากจะมีที่กรองฝุ่นในบ้านแล้ว แบบที่สามารถกรองฝุ่น หรือฟอกอากาศในรถยนต์ก็มีเช่นกัน
เครื่องฟอกอากาศสำหรับกรองฝุ่น PM2.5 รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี ที่ราคาถูก ?
DAIKIN รุ่น MCK55TVM6 เครื่องฟอกอากาศ พร้อมระบบควบคุมความชื้นในอากาศ (ขนาด 41 ตร.ม) ป้องกัน PM 2.5
เครื่องฟอกอากาศไดกิ้น ฟอกอากาศทั้งภายนอกและภายในเครื่องด้วยเทคโนโลยีปล่อยประจุ Active Plasma Ion และ Streamer ยับยั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย สารก่อภูมิแพ้ และกลิ่น สามารถเพิ่มระดับความชื้นในอากาศเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบนผิวหนัง ยับยั้งอาการระคายเคืองจากอากาศแห้ง พร้อมฟิลเตอร์ HEPA แบบไฟฟ้าสถิต ยับยั้งฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%• ระบบฟอกอากาศภายนอกเครื่อง Active Plasma Ion
• ระบบฟอกอากาศภายในเครื่อง Streamer
• ระบบเพิ่มความชื้น Humidifier
• ยับยั้งไวรัส แบคทีเรีย เชื้อโรค และกลิ่น พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้น
• ระบบฟอกอากาศภายนอกเครื่อง Active Plasma Ion
• ทำความสะอาดด้วยแผ่นกรองฝุ่นไฟฟ้าสถิตแบบ HEPA
• ฝุ่นเกาะติดง่ายไม่ทำให้แผ่นอุดตันเร็ว
• ฟอกอากาศได้เร็วขึ้น ยับยั้งฝุ่นขนาดเล็ก 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97%
• ระบบเพิ่มความชื้น Humidifier
• ตรวจวัดปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก 2.5 ไมครอนได้ถึง 6 ระดับ
• ฟิลเตอร์กรองกลิ่นที่ใช้ได้ตลอดอายุการใช้งาน
• ยับยั้งไวรัส H1N1 - H5N1 แบคทีเรีย เชื้อรา และกลิ่น
• ครอบคลุมพื้นที่ 41 ตรม\
• รับประกัน(ปี) : 1
#1.เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 2S (FJY4020GL) กรอง PM 2.5
สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้ถึง 310 ลบ.ม./ชั่วโมง ในเวลาเพียง 10 นาที สำหรับห้อง 21 ตารางเมตรมอเตอร์เดี่ยว Nidec จากญี่ปุ่น กับระบบ 2 ใบพัด (Classic Tower-Style) ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว กรองอากาศ 360 องศา ด้วยกรองคาร์บอนถึง 3 ชั้น คือ Primary Filter, Japan Toray H11-level Filter, Activated Carbon-Filter ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้มากถึง 99.99%
• รุ่นใหม่ล่าสุด ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่า Air purifier 2
• มีจอแสดงผล พร้อมเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอ OLED อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม
• ใช้ตัวเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์ สามารถตัวจับค่าอากาศอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ให้มีความแม่นยำสูงขึ้น และรวดเร็วขึ้น
• เซ็นเซอร์ตัวจับความชื้นและอุณหภูมิของอากาศของห้อง
• โหมดล็อค เพื่อป้องกันเด็กมากดเล่น
• ตั้งเวลาเปิด-ปิด ผ่านทางแอพบนสมาร์ทโฟนได้
• สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ใช้ตัวระบุไส้กรองอัจฉริยะ RFID ที่ค่อยระบุไส้กรองแต่ละตัว เพื่อป้องกันการใช้ซ้ำ
• แอพรองรับ ทั้ง Android และ iOS
#2. เครื่องฟอกอากาศ SHARP (40 ตร.ม.) รุ่น FP-GM50B-B กรอง PM 2.5 ถึง PM 0.3 พร้อมฟังก์ชั่นดักยุง
เครื่องฟอกอากาศ SHARP สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ถึง 40 ตารางเมตรตัวไส้กรองนั้นสามารถกรองฝุ่นเล็กได้ถึงขนาด PM 0.3 เลยทีเดียวเรียกได้ว่าดีมาก มีระบบระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาร์ป• ระบบทำงานแบบ ION SHOWER ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบพลาสม่าคลัสเตอร์
• ด้วยการพ่นอนุภาคไฟฟ้าบวก และลบ ในปริมาณที่สูงเป็นพิเศษเป็นเวลา 60 นาที ทำให้ห้องสะอาดปราศจาก
• เชื้อโรคต่างๆ อย่างรวดเร็ว
• สามารถเลือกปรับความแรงในการทำงานของเครื่องได้ 3 ระดับ
• สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ถึง PM 0.3
• สามารถเลือกเปิด / ปิด การทำงานของระบบพลาสม่าคลัสเตอร์ได้
• ใช้งานง่าย และสะดวกในการดูแลรักษาเครื่อง
• มาพร้อมกับแผ่นกาวดักยุง สะอาด ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย (1 แผ่นมีอายุการใช้งาน 2 เดือน)