ที่มาของคำพังเพย “ เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน “
คำว่า“เบี้ย” หมายถึงพวกหอยกาบเดี่ยว ชนิดหนึ่ง เปลือกหอยเบี้ยที่ใช้เป็นเงินตราในสมัยก่อนมี ๒ ชนิด ได้แก่ ชนิด Cypraea moneta Linn. เรียก เบี้ยจั่นหรือเบี้ยจักจั่น ชนิด C. annulus Linn. เรียก เบี้ยแก้วหรือเบี้ยนาง มีอัตรา ๑๐๐ เบี้ย เป็น ๑ อัฐ คำว่า เบี้ย จึงเป็นคำเรียกแทนเงินติดมาจนทุกวันนี้ ใช้เป็นเงินแลกเปลี่ยนซื้อของได้ แต่มีราคาต่ำ ตามสำนวนคำพังเพยนี้ เป็นการเก็บเบี้ยที่ตกอยู่ตามใต้ถุนร้าน หรือแผงลอยวางของขายซึ่งมีเบี้ยตกหล่นอยู่บ้าง เพราะมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนเบี้ยกับของโดยไม่เห็นว่าจะเป็นเบี้ยมีราคาต่ำ ถึงแม้ว่าเบี้ยจะมีค่าไม่มากแต่หากเก็บไว้เยอะๆก็มีค่าที่สูงได้ เป็นคำที่ใช้เปรียบเทียบการเก็บออมเงินตราว่า เริ่มจกเงินจำนวนน้อย ๆก่อน แล้วจะค่อยๆเพิ่มพูนไปทีละน้อยจนมีจำนวนมาก นั่นเองเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ภาษาอังกฤษ
สำนวนที่ปรากฏในบทกลอน การละเล่น บทร้องประกอบการเล่นมีว่า รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกท้อง ใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน คดข้าวใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้
สำนวนที่มีความหมายใกล้เคียง เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
เก็บเล็กผสมน้อย
หมายถึง เก็บไว้ทีละเล็กละน้อยขยายความ – สำนวนไทย “เก็บเล็กผสมน้อย” นิยมใช้เพื่ออธบายนิสัยการรู้จักออม รู้จักเก็บเงินเก็บทอง ทีละเล็กทีละน้อย จนพอกพูนมากขึ้น สำนวน เก็บเล็กผสมน้อย มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า เก็บหอมรอมริบ
เก็บหอมรอมริบ
หมายถึง เก็บรวบรวมไว้ทีละเล็กทีละน้อยขยายความ – สำนวน “เก็บหอมรอมริบ” ใช้อธิบายลักษณะของความประหยัด ความพยายามในการเก็บหรือออมสิ่งของเงินทองทีละเล็กทีละน้อย ค่อยๆเก็บสะสมจนพอกพูนมากขึ้นในที่สุด
- เก็บ หมายถึง ก. เอาไปหรือเอามาจากที่ เช่น เก็บผ้า เก็บผลไม้, เอาเข้าที่ เช่น เอาหนังสือไปเก็บ เอารถไปเก็บ, เอาสิ่งของที่ตกหล่นอยู่ขึ้นมา เช่น เก็บของตก, รวบรวมไว้ เช่น เก็บคะแนน, เรียกเอา เช่น เก็บค่าเช่า เก็บค่านํ้า, รักษาไว้ เช่น ห้องเก็บของ.
- เบี้ย หมายถึง น. ชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยวหลายชนิดในวงศ์ Cypraeidae เปลือกแข็ง ผิวเป็นมัน หลังโค้งนูน ด้านท้องแบน ช่องเปลือกยาวและแคบ เป็นลำราง ตามขอบทั้ง ๒ ข้างเป็นรอยหยัก เรียกรวม ๆ ว่า หอยเบี้ย, เปลือกหอยเบี้ยที่ใช้เป็นเงินตราในสมัยก่อนมี ๒ ชนิด ได้แก่ ชนิด Cypraea moneta Linn. เรียก เบี้ยจั่นหรือเบี้ยจักจั่น ชนิด C. annulus Linn. เรียก เบี้ยแก้วหรือเบี้ยนาง มีอัตรา ๑๐๐ เบี้ย เป็น ๑ อัฐ คำว่า เบี้ย จึงเป็นคำเรียกแทนเงินติดมาจนทุกวันนี้ เช่น เบี้ยประชุม เบี้ยประกัน เบี้ยเลี้ยงชีพ.
- ใต้ถุน หมายถึง น. ที่ใต้พื้นเรือนซึ่งยกพื้นสูง. (ไทใหญ่ ถุนเฮิ้น ว่า พื้นเรือน).
- ร้าน หมายถึง น. ที่ที่ปลูกยกพื้นขึ้นสำหรับนั่งหรือขายของเป็นต้น, สถานที่ขายของ, เรียกสิ่งที่ปักเสามีไม้พาดข้างบนให้ต้นไม้เลื้อย ว่า ร้าน เช่น ร้านบวบ ร้านองุ่น.
ตัวอย่างการใช้งาน สำนวน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน
การใช้งานสำนวน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน ที่พบว่ามีการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ในประโยค และในหน้าสื่อต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวอย่างการใช้งานจากแหล่งที่ใช้งานสำนวนดังกล่าวจริง ๆ- ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย ในฐานะพรรคที่ได้เสียงอันดับสอง รวมแต้มเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านกับ. พรรคที่ประกาศหนุน
- พฤติกรรมของชาวบ้านเปรียบเหมือนคำพังเพยว่า “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” คือ “การออม” หรือความพอเพียง หรือ “สิบเบี้ยใกล้มือ” คือ ถ้าได้ให้รับเอาไว้ก่อน
- ความขยัน และเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ทุ่มเทลงไปในการงานของวันนี้ จะนำผลดีทั้งทางความรักและทางการเงินมาให้ เหมือนเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านไปฝากธนาคารสะสมไว้
- บริษัทนี้มีการเพิ่มทุนทุกปี (ยกเว้นปี 2559) เหตุก็เพราะเงินสดในบริษัทมีไม่มากสำหรับทำโครงการลงทุนด้านพลังงานแบบ “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ทั่วประเทศ
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส “ธุรกิจเก็บเศษเงิน” มูลค่ามหาศาล อรรถาธิบายทิ้งท้ายของวีรเดช สะท้อนภาพธุรกิจเคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่หลายคนเรียกว่าเป็นธุรกิจแห่ง “การเก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ได้เป็นอย่างดี.
- กรณ์กำภูเก็บเงินค่าขนามที่เหลือแต่ละวันหยอดกระปุกไว้ซื้อ ของที่อยากได้ เข้าข่าย “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน”
- ประวิตร เป็นคนประหยัด “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ทีละเล็ก ที่ละน้อย จนสามารถซื้อนาฬิกา ริชาร์ดมิลล์ได้
- ประยุทธเป็นคนขยันประหยัด “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” จนสามารถสร้างร้านขายยาได้ เก่งจริง ๆ
- สุวิทย์ ในตอนที่บวชพระรู้จัก“เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” จนสึกออกมาสามารถตั้งตัวได้ ซื้อบ้านได้หลายล้าน
- การเป็นคนรู้จัก “เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน” ทำให้ วิษณุ มีเงินสร้างร้านใหญ่โตได้ ซึ่งน่าภาคภูมิใจยิ่งนัก