ขับรถเท้าเปล่าผิดกฎหมายหรือไม่ ?

ขับรถเท้าเปล่าผิดกฎหมายหรือไม่ ? การถอดรองเท้าขับรถนั้นไม่ผิดกฎหมาย ยกเว้นว่าถ้าคุณขับรถถโดยสารสาธารณะ ซึ่งมีข้อกำหนดให้ผู้ขับรถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร และรถจักรยานยนต์ รับจ้าง

พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 บัญญัติไว้ว่า “ผู้ประจำรถหรือผู้ขับรถต้องแต่งกายให้เรียบร้อยตามที่กำหนดในกฏกระทรวง ต้องปฏิบัติติตัวดังต่อไปนี้คือ 1.จะต้องสวมเสื้อเชิ้ตคอพับแขนยาวหรือแขนสั้น ชายเสื้ออยู่ในกางเกง 2.เสื้อคอแบะปล่อยเอว แขนสั้น 3.กางเกงขายาวแบบสุภาพ 4. ต้องสวมรองเท้าหุ้มส้นหรือหุ้มข้อ” หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ตามมาตรา 127

แต่การขับรถยนต์ส่วนบุคคลนั้นไม่ได้มีข้อกำหนดที่เข้มงวดขนาดนั้น คุณสามารถที่จะไม่สวมร้องเท้าได้เพื่อความถนัดของแต่ละคน โดยข้อดีของการขับรถยนต์ โดยการถอดรองเท้าก็คือ การได้รับการสัมผัสที่ครบถ้วนกับแป้นเบรก คันเร่ง หรือคลัช ที่จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวกว่าการที่มีรองเท่ามาปิดบัง ซึ่งบางทีก็ทำให้กะระยะของเบรก และคันเร่งผิด ซึ่งความถนัดก็ขึ้นอยู่กับการฝึกตอนขับรถ
แต่ข้อเสียก็มี เช่นในรถยนต์ที่มีคลัชแข็งนั้นถ้าคุณใช้เท้าเปล่าอาจจะทำให้เจ็บเท้าได้ ซึ่งแน่นอนรถที่คลัชแข็งคือคลัชที่น่าจะมีปัญหา



 ดังนั้นควรเอาไปซ่อมบำรุงแก้ไขให้สามารถใช้งานปกติ  ในส่วนของการยึดเกาะระหว่างเท้ากับแป้นเบรก หรือแป้นคลัช เท้าเปล่าจะทำให้สามารถยึดเกาะได้น้อยกว่ารองเท่าซึ่งมีแรงเสียดทานมากกว่า เท้าแต่ว่ารองเท้านั้นสำหรับคนที่ถนัดขับด้วยเท้าเปล่ามันจะดูเทอะทะมากกว่าเท้าเปล่า ซึ่งก็จริง และก็ที่สำคัญคุณจะไม่มีอะไรปกป้องเท้าของคุณเมื่อเกิดอุบัติเหตุ


ถึงแม้ว่าคุณจะใส่รองเท้านั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่ว่าการถอดรองเท้าวางไว้ด้านล่าง รองเท้าอาจจะเลื่อนไปขัดกันคลัช หรือเบรกทำให้เบรกไม่ได้ หรือเหยียบคลัชไม่ได้ นั่นคือปัญหาหลักจริง ๆของการถอดรองเท้าขับรถ ในส่วนอื่น ๆนั้นไม่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนมากกว่านั่นเอง

รองเท้าส้นสูงขับรถได้ไหม ?

การใส่รองเท้าก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะปลอดภัยบนท้องถนนเพราะว่ารองเท้าที่ใช้นั้นการขับรถยนต์นั้นจะต้องมีความเหมาะสมสำหรับขับรถ รองเท้าส้นสูง หรือรองเท้าแฟชั่นนั้นไม่เหมาะอย่างยิ่งด้วยประการทั้งปวงที่จะใส่ขับรถเพราะว่าจุดหมุนของรองเท้าส้นสูงนั้นมีส้นรองเท้ามาบังเอาไว้ซึ่งอาจจะทำให้คุณเหยียบคลัชไม่สุด เหยียบเบรกได้ไม่ถนัด นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการใส่รองเท้าไม่ถูกประเภทในการขับรถ หรืออาจจะกะแรงในการเหยียบคันเร่งผิดจนทำให้รถพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ตั้งใจได้ ดังนั้นเราไม่แนะนำอย่างยิ่ง

รองเท้าแตะใส่ขับรถได้ไหม ?

รองเท้าแตะเองก็ไม่เหมาะที่จะนำมาใส่ขับรถยนต์เพราะว่าพวกมันค่อนข้างที่จะลื่น และหลวม ซึ่งอาจจะหลุดระหว่างใช้งานจรอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่มันเปียกน้ำ หรือมีโคลนมาเกาะบางส่วนของรองเท้า ซึ่งจะทำให้พวกมันนั้นเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้

รองเท้าอะไรที่เหมาะกับการใส่ขับรถยนต์ ?

รองเท้าที่มีความกระชับ พอเหมาะมีขนาดกะทัดรัด และ ไม่หลวมจนเกินไปพื้นรองเท้าไม่หนาเกิน 4 มิลลิเมตรขึ้นไป ไม่นุ่มมากจนกะแรงที่เหยียบคันเร่งไม่ได้ หรือ ไม่แข็งจนทำให้ลื่น หรือกระด้างเกินไป ซึ่งรองเท้าในกลุ่มนี้ก็ได้แก่รองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนังสำหรับใส่ทำงาน ซึ่งคุณสามารถขยับขาได้อย่างอิสระเมื่ออยู่ในที่นั่งคนขับรถยนต์


สำหรับสาวๆที่จะขับรถยนต์แต่ยังอยากสวย และต้องการใช้งานรองเท้าส้นสูง แนะนำให้เตรียมรองเท้าสำหรับใช้ขับรถยนต์ไว้บนรถยนต์ และถอดเปลี่ยนกลับมาใส่รองเท้าส้นสูงได้ทันทีเมื่อจอดรถและถึงจุดหมายแล้ว ไม่นะนำให้ใส่รองเท้าส้นสูงขับรถยนต์เด็ดขาด เนื่องจากว่าไม่ปลอดภัย และอาจจะทำให้รองเท้าสวย ราคาแพงเป็นรอยได้นั่นเอง เสียใจมากแน่นอน

สรุปอย่ามองข้ามความปลอดภัย ! 

อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็ก โปรดระวัง ! ห้าม.. นำรองเท้า หรือสิ่งของต่าง ๆ ไว้บริเวณใต้เบาะคนขับหรือเบาะหลังที่นั่งคนขับเป็นอันขาด เพราะหากเบรคหรือหยุดรถกะทันหัน รองเท้า หรือสิ่งของอาจกลิ้งเข้าไปติดใต้แป้นเบรค หรือคันเร่ง ทำให้ไม่สามารถหยุดรถได้ทัน หรือพุ่งชน ก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ดังที่เคยเป็นข่าวมาแล้วมากมาย ฉะนั้นควรจัดเก็บสิ่งของดังกล่าวไว้ด้านฝั่งผู้โดยสาร หรือกระโปรงท้ายรถจะปลอดภัยกว่า