โดยข้อดีของจักรยานออกกำลังกายนั้นมีมากมายเมื่อเปรียบเทียบกับการปั่นจักรยานจริงออกกำลังกายได้แก่
- ความปลอดภัย จักรยานออกกำลังกายอยู่ในบ้านซึ่งไม่ต้องไปเสี่ยงบนท้องถนน ซึ่งประเทศไทยนั้นนับว่ามีอัตราการเกิดอุบัติเหตุเป็นอันดับต้นๆของโลก
- ไม่ต้องติดปัญหาเรื่องสภาพอากาศ สามารถออกกำลังกายได้ทุกวันแม้ในวันที่ฝนตก แดดร้อน หรือ มีพายุ
- ออกกำลังกายได้ทุกเวลาที่ต้องการ แม้ในตอนค่ำ 1 -4 ทุ่มหลังเลิกงาน หรือตอนเช้าๆ ตี 4- ตี 5 ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา
- สามารถทำอย่างอื่นไปด้วยสร้างความเพลิดเพลินเช่นฟังเพลง ดูทีวี หรือคุยกับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งทำให้คุณสามารถใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า
- ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในบางรุ่น และ สามารถวัดค่าต่าง ๆได้ในเครื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นการเผาผลาญแคลอรี่ อัตราการเต้นของหัวใจ หรือ ระยะเวลาที่ออกกำลังกาย
- ลดอาการบาดเจ็บต่าง ๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้มากกว่าการปั่นจักรยานจริง
การปั่นจักรยานทำให้คุณได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ก็จริง แต่ไม่ทั้งหมด เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าอากาศในปัจจุบันนี้มีคุณภาพแย่ลงเรื่อย ๆโดยเฉพาะมลพิษที่อยู่ตามท้องถนน ควันพิษ ไอเสียต่าง ๆที่คอยบั่นทอนสุขภาพของคุณ และก็ยังมีฝุ่นพิษ PM 2.5 อีกซึ่งถือว่ามีผลทำให้สุขภาพเสียด้วยนั่นเอง แต่การปั่นจักรยานออกกำลังกายแบบอยู่กับที่นั้นคุณปั่นในบ้านของคุณที่มีการควบคุมฝุ่นให้ลดลงได้ด้วยการติดตั้งเครื่องกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นพิษระดับ PM 2.5 ได้ถ้าในบ้านร้อนก็เปิดเครื่องปรับอาการ ซึ่งทำให้คุณสามารถออกกำลังกายได้อย่างสะดวก และสบาย
การปั่นจักรยานออกกำลังกายอยู่กับที่นั้นเหมือนกันกับการปั่นจักรยานจริงทุกอย่างจะต่างกันเพียงแต่ว่าจักรยานออกกำลังกายนั้นไม่ได้เคลื่อนที่เท่านั้น ซึ่งโอกาสที่คุณจะเกิดอุบัติเหตุนั้นน้อยมากเลยทีเดียว โดยการปั่นจักรยานแบบอยู่กับที่นั้นก็มีการบริหารในส่วนเดียวกันกับจักรยานจริงคือส่วนร่างกายท่อนล่างได้แก่ ขา สะโพก น่อง quadriceps, hamstrings, flexors สะโพก, glutes และกล้ามเนื้อขาอื่น ๆ ซึ่งการมีจักรยานออกกำลังกายที่บ้านจะช่วยให้คุณสามารถออกกำลังกายลดไขมันส่วนเกิน ได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ
การออกกำลังกายด้วยจักรยานนั้นเป็นการออกกำลังกาย ที่มีแรงกระแทกต่ำเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อเข่าที่ไม่สามารถเดิน หรือ วิ่งได้สะดวกรวมทั้งผู้มีอาการปวดหลัง ซึ่งการใช้จักรยานออกกำลังกายแบบเอนนอนปั่นนั้นจะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้ โดยมีแรงกระแทกที่ต่ำที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับคนกลุ่มนี้
ชนิดของจักรยานออกกำลังกาย
Spinner Bikes สปินไบค์
Upright Bikes จักรยานออกกำลังกายแบบตั้งตรง
Recumbent Bikes จักรยานแบบนอนปั่น
อย่างไรก็ตามการปั่นจักรยานนั้นเป็นการออกกำลังกายที่ขึ้นอยู่กับบุคคล สำหรับคนที่ชอบการออกำลังกายเท่านั้น แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบการออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานไม่แนะนำให้ซื้อจักรยาน ถ้าชอบวิ่งให้ซื้อลู่วิ่งจะดีกว่าจักรยาน เพราะคุณจะได้ไม่ฝืนใจในการออกกำลังกายมาก ก็คือคนที่ชอบจักรยานก็ชอบไปเลย ส่วนคนที่ไม่ชอบก็ไม่ยอมปั่นไปเลย ประมาณนี้
แนะนำจักรยานออกกำลังกาย แบบไหน รุ่นไหนดีที่สุด
#1.จักรยานออกกำลังกาย Exercise Spin Bike
มีหน้าจอ LCD พร้อมฟังก์ชั่นครบ บอก ความเร็ว, ระยะทาง, เวลา, แคลอรี่ สามารถปรับระดับความฝืดได้หลายระดับ
น้ำหนักล้อช่วยแรง 8 กิโลกรัม ทำให้คุณสามารถปั่นได้ด้วยแรงคงที่ และเหมาะสมกับการใช้งาน มีระบบการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ไม่เปลืองพื้นที่ในบ้านราคาไม่แพง ดูรายละเอียดได้ที่นี่
#2.จักรยานออกกำลังกาย Exercise Bike จักรยานบริหาร Fitness จักรยานปั่นในบ้าน
เป็นจักรยานออกกำลังกายแบบ Upright ช่วยให้คุณสามารถใช้งานได้ในท่านั่งที่หลังตรง ตัวจักรยานทำจากโลหะ แข็งแรงสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัม สามารถปรับแรงต้านได้หลายระดับ ตามความต้องการของผู้ปั่นแป้นเหยียบมีความกระชับ แข็งแรง เบาะนั่งสามารถปรับระดับขึ้นลงได้ให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ใช้งาน และที่จับสามารถปรับระดับได้เช่นกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานอยู่ในท่าที่สบายมากที่สุด ที่จับนั้นมีที่จับให้สามารถจับได้หลายท่าทาง มีฟองน้ำหุ้มซึ่งช่วยให้ไม่ลื่น และนุ่มสบายมือ ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผลข้อมูลต่าง ๆในระหว่างออกกำลังกาย ได้แก่ ความเร็ว ในการปั่น ระยะเวลาที่ปั่น แคลอรี่ที่เผาผลาญไป ราคาไม่แพงมาก ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน ดูราคาที่นี่#3.จักรยานเอนปั่น จักรยานออกกำลังกาย จักรยานฟิตเนส จักรยานนั่งปั่น
เป็นจักรยานเอนปั่น ที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาปวดหลังหรือผู้สูงอายุที่มีความยืดหยุ่นน้อย และเป็นแบบที่มีแรงกระแทกน้อยที่สุดในบรรดาจักรยานปั่นออกกำลังกาย มีพนักพิงหลังขนาดใหญ่นุ่มสบายแข็งแรง เบาะขนาดใหญ่ นั่งสบาย ปั่นนุ่ม เบาะปรับเข้า-ออกได้ แฮนด์จับทำจากวัสดุอย่างดี จับง่าย สบาย นิ่มมือ ตัวเครื่องสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 120 กิโลกรัม ล้อช่วยแรงนั้นขนาดใหญ่มากถึง 5 กิโลกรัม บันไดปั่น ขนาดใหญ่ ปั่นสบาย มีที่รัดหลังเท้า พื้นออกกแบบให้กันลื่น มีระบบวัดอัตราการเต้นของชีพจรที่มือจับมีการายงานค่าผ่านทางแอปมือถือได้ แบบนี้เหมาะมากสำหรับซื้อเป็นของขวัญให้ผู้สูงอายุ เพื่อใช้ออกำลังกาย ราคาไม่แพงมากเกินไป ซื้อได้ที่นี่สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนที่จะเลือกซื้อจักรยาน ออกกำลังกายมาใช้งาน
1.แผงควบคุมหรือคอนโซล
แผงควบคุมหรือคอนโซลของจักรยานออกกำลังกายนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างง่ายดายซึ่งแผงควบคุมนี้จะเป็นแหล่งที่ใช้ในการรวบรวมเอาเครื่องมือต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดระยะทางเวลาและความหนักเบาของตัวเครื่องรวมถึงวัดปริมาณแคลอรี่แล้วทำการคำนวณค่าต่างๆเพื่อที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะนำการใช้งานและติดตามการข้อมูลการใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายดายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่นที่เป็นจักรยานออกกำลังกายที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายไม่ว่าจะเป็นมือถือสมาร์ทโฟนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้นั้นจะช่วยให้คุณสามารถที่จะนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ในการวิเคราะห์การออกกำลังกายของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.อุปกรณ์เสริมต่างๆ
Spin Bike spinbike นั้นก็มีความจำเป็นเช่นเดียวกันซึ่ง นั้นก็มีความจำเป็นเช่นเดียวกันซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นที่วางขวดน้ำที่วางมือถือแท็บเล็ตหรือเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลที่แขวนผ้าเช็ดเหงื่อหรืออุปกรณ์เสริมต่างๆที่จะช่วยให้คุณสามารถที่นำการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและเต็มประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
3.ฟลายวิวล์ Flywheel หรือ ล้อช่วยแรง
ล้อช่วยแรงเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้คุณและสามารถที่จะทำการปั่นจักรยานออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องและลื่นไหลรวมถึงที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะทำการทดแรงในการปั่นจักรยานให้ต่อเนื่องได้ซึ้งล้อช่วยแรงที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีขนาดน้ำหนักที่เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณโดยล้อช่วยแรงยิ่งมีน้ำหนักมากก็จะมีโมเมนตัมในการหมุนมากช่วยให้คุณสามารถที่จะนำการปั่นจักรยานออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้คุณสามารถที่ทำการปั่นจักรยานออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่องระบบส่งกำลังของล้อช่วยแรงหรือ Flywheel และควรที่จะมีประสิทธิภาพดีสามารถติดส่งกำลังได้อย่างต่อเนื่องและมีเสียงที่เบาซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะรู้การใช้งานได้อย่างสะดวกไม่รบกวนการอยู่อาศัยหรือการใช้เงินของผู้อื่นโดยขนาดของไฟล์บิลนั้นจะมีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 5 กิโลกรัมมาจนถึง 15 กิโลกรัมขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความต้องการในการใช้งานของคุณ
4.ระบบแรงต้านของจักรยาน
ระบบแรงต้านของจักรยานปั่นออกกำลังกายนั้นจะเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้เราได้ทำการปรับระดับความหนักเบาของการออกกำลังกายให้มีความเหมาะสมกับความต้องการในการออกกำลังกายในแต่ละระดับของคุณซึ่งการออกกำลังกายที่มีแรงต้านมากยิ่งขึ้นจะช่วยให้ร่างกายของคุณนัทมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นตามระดับความแข็งแรงของร่างกายของคุณซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่ต้องการออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งระบบแรงต้านของจักรยานออกกำลังกายนะจะมีทั้งแบบที่ใช้ระบบแรงเสียดสีธรรมดาซึ่งเป็นรูปแบบที่มีราคาถูกจะพบเห็นได้ในจักรยานออกกำลังกายรุ่นราคาถูกเท่านั้นซึ่งข้อดีหลักๆก็คือทำให้จักรยานออกกำลังกายมีราคาถูกแต่ข้อเสียนั่นก็คืออายุการใช้งานและเสียงในการใช้งานที่ค่อนข้างดัง อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการใช้งานเพิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นก็คือระบบแรงเสียดทานแบบแม่เหล็กที่จะถูกออกแบบมาให้ใช้แม่เหล็กในการเป็นแรงต้านสำหรับการออกกำลังกายซึ่งจะให้เสียงที่เงียบและสามารถที่จะทำการปรับระดับแรงต่างๆได้ดีมากกว่าและมีอายุในการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า
5.การปรับตั้งค่าต่างๆของจักรยานออกกำลังกาย
จักรยานออกกำลังกายที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสามารถที่จะปรับระดับต่างๆได้ตามความเหมาะสมและความต้องการในการใช้งานของคุณไม่ว่าจะเป็นความสูงของเบาะนั่งองศาของแฮนด์หรือระยะของแทนที่จะต้องมีระยะที่เหมาะสมเพื่อที่จะช่วยให้ลดปัญหาปวดหลังหรือลดปัญหาอาการบาดเจ็บต่างๆที่จะเกิดขึ้นจากการออกกำลังกายที่ไม่ถูกท่าทาง
6.การติดตั้งและใช้งาน
จักรยานออกกำลังกายที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการติดตั้งและใช้งานที่ง่ายใดสามารถที่จะทำการเคลื่อนย้ายและเก็บในกรณีที่ไม่ได้ใช้งานได้อย่างง่ายดายที่จะช่วยคุณนั้นสามารถที่จะทำการจะเก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยจักรยานออกกำลังกายนะจะกินพื้นที่ในการติดตั้งและใช้งานตั้งแต่ 1-2 ตารางเมตรขึ้นไปซึ่งคุณจะต้องมั่นใจได้ว่าคุณมีพื้นที่เพียงพอที่จะทำการติดตั้งและใช้งานจักรยานออกกำลังกาย
7.มีระดับราคาที่เหมาะสม
จักรยานออกกำลังกายที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้กันนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระดับราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานรวมถึงวัสดุและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำใบควรเลือกซื้อจักรยานออกกำลังกายที่มีราคาถูกหรือแพงมากจนเกินไปเนื่องจากว่าจะทำให้คุณไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งานของคุณนั่นเอง
8.การรับประกันและการบริการหลังการขาย
จักรยานออกกำลังกายที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนะจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือนเพื่อช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานของตัวอุปกรณ์ไม่ควรเลือกซื้อจักรยานออกกำลังกายที่มีราคาถูกหรือแพงมากจนเกินไปเนื่องจากว่าจะทำให้คุณลดไม่สามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและเพียงพอต่อการใช้งาน