ไมโครโฟนไร้สาย ในปัจจุบันนี้ได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างมากมาย เนื่องจากการเพิ่มความสามารถในการทำงานอย่างเช่นความเสถียรในการรับส่งสัญญาณ คุณภาพเสียง และ ความสะดวกในการใช้งาน การเลือกซื้อมาใช้งานนั้นก็หาซื้อได้ง่ายดาย และสามารถเลือกได้หลากหลายรุ่นหลายยี่ห้อตามงบประมาณที่คุณได้ตั้งไว้
ส่วนประกอบของระบบไมค์ลอย
ไมค์ลอยนั้นจะประกอบไปด้วยอุปกรณ์ในการทำงาน 2 ชิ้นด้วยกัน ซึ่งได้แก่ เครื่องส่งก็คืออยู่ในไมโครโฟนนั่นเอง และเครื่องรับ ซึ่งจะต่อเข้ากับระบบเสียงหลักเพื่อทำการขยายเสียงหรือบันทึกเสียง โดยเครื่องส่งที่อยู่ในไมโครโฟนนั้นจะทำการส่งสัญญาณเสียงที่ได้จากไมโครโฟนแล้วแปลงเป็นสัญญานวิทยุ และส่งไปยังเครื่องรับผ่านคลื่นความถี่ที่ตรงกันระหว่าง 2 อุปกรณ์ ซึ่งเครื่องรับก็จะทำการแปลงสัญญารวิทยุให้กลับมาเป็นสัญญานสียงอีกทีหนึ่งเพื่อนำเอาเสียงที่ได้ไปใช้งานต่อไปเครื่องส่งสัญญาน
เครื่องส่งสัญญานสำหรับ ไมโครโฟนไร้สายในปัจจุบันที่นิยมมีอยู่ 2 แบบ โดยขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ใช้งานได้แก่
- ไมโครโฟนไร้สายแบบมือถือ
ซึ่งเป็นระบบที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป และมีความนิยมมากในทุกเวทีโดยเครื่องส่งสัญญาณจะอยู่บนตัวไมโครโฟนที่เป็นลักษณะมือถือหรือไมโครโฟนแบบมือถือนี่เอง ซึ่งการใช้งานก็ไม่ได้แตกต่างจากไมค์แบบมีสายเลย แต่ดีกว่าตรงที่ไม่มีสายเกะกะเท่านั้น
- ไมโครโฟนไร้สายแบบพกพา แบบหนีบปกเสื้อ หรือคาดหัว
โดยการใช้งานไมโครโฟนแบบนี้จะมีไมค์ขนาดเล็กที่หนีบไว้กับเครื่องแต่งกายของผู้ใช้งาน หรือเป็นแบบคาดหัว และเครื่องส่งที่จะถูกแยกออกมาและซ่อนไว้ในที่ปลอดภัยในตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งข้อดีของไมโครโฟนแบบนี้คือผู้ใช้งานไม่ต้องถือไมโครโฟนเลย ทำให้การแสดงต่าง ๆที่ต้องใช้สองมือในการสื่อสารกับผู้ชม หรือ ออกท่าทางต่าง ๆ นั้นสามารถทำได้สะดวกและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแบบแรกซึ่งการเลือกใช้งานนั้นก็แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละงานที่มีความต้องการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นก่อนการที่จะเลือกซื้อ ไมโครโฟนไร้สายมาใช้งานนั้นอันดับแรกจะต้องพิจารณาถึงลักษณะการใช้งานของไมโครโฟนก่อน
ระบบส่งสัญญาณวิทยุไร้สาย แบบ VHF หรือ UHF
VHF และ UHF ความถี่ของสัญญานวิทยุที่มีใช้งานในการส่งสัญญานของไมค์ลอย โดยจะมีทั้งแบบที่ใช้คลื่นความถี่แบบ VHF หรือ very high frequency โดยจะใช้ความถี่สัญญาณวิทยุในย่านความถี่ 174 ถึง 216 เมกะเฮิรตซ์ ส่วนสัญญานวิทยุแบบ UHF หรือ ultrahigh frequency นั้นจะใช้ความถี่วิทยุในย่าน 470 ถึง 805 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมีความถี่สูงกว่า และระบบ UHF นั้นมีช่วงสัญญาณที่มากกว่าระบบ VHF โดยส่วนใหญ่แล้ว ไมโครโฟนไร้สายคุณภาพสูงนั้นจะใช้คลื่นความถี่ในย่าน UHF ที่มีช่วงความถี่ให้ใช้มากกว่าและมีสัญญาณรบกวนน้อยกว่าระบบแปลงสัญญาณ แบบ Analog หรือ Digital
ไมโครโฟนไร้สาย จำนวนมากจะมีระบบเข้ารหัสที่ใช้ในการบีบอัดสัญญานเสียง จากไมโครโฟน และไปขยายที่ตัวรับซึ่งจะแปลงเป็นสัญญาเสียงออกมาอีกที ซึ่งการทำงานของตัวส่งและตัวรับในแต่ละยี่ห้อ หรือกระทั่ง ยี่ห้อเดียวกันแต่คนละรุ่นนั้นอาจจะใช้ระบบการเข้ารหัสดังกล่าวที่แตกต่างกันดังนั้นไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะใช้อุปกรณ์คนละรุ่น หรือคนละยี่ห้อร่วมกัน เพราะถึงแม้ว่าจะใช้คลื่นความถี่เดียวกันได้ก็จริงแต่คุณภาพเสียงจะไม่ดีพอ และอาจจะมีเสียงรบกวนมากจนเกินที่จะจัดการได้ไมโครโฟนไร้สายที่ใช้ระบบดิจิตอลทำงานโดยการรับเสียงจากไมโครโฟน เข้ามาเป็นสัญญานดิจิตอล และส่งไปยังตัวรับสัญญานแบบดิจิตอล และทำการแปลงให้เป็นสัญญานเสียงที่ตัวรับ โดยที่ไม่ต้องมีการใช้การบีบอัดเสียงเลย และช่วยลดปัญหาการลดทอนสัญญาณเสียงลงไปได้
สิ่งที่ต้องมองหา เมื่อจะซื้อไมโครโฟนไร้สาย
การใช้งานระบบไร้สายนั้นหลักๆแล้วคุณควรต้องพิจารณาถึงคุณภาพของเสียงที่ได้ ความมีมิติของเสียง ไม่มีปัญหากับคลื่นรบกวนกันระหว่างอุปกรณ์ และ ระยะทางที่ใช้งาน ซึ่งหากคุณต้องการระบบเสียงที่ ใกล้เคียงระบบใช้สายนั้นคุณจะต้องมีการคัดเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพดีให้มากที่สุด โดยหลักๆแล้วในการเลือกซื้อไมค์ลอยนั้นต้องคำนึงถึงความถี่ที่ใช้งาน
คุณจะเลือกใช้ความถี่ไหน VHF ,UHF หรือ ระบบความถี่ขนาด 2.4 GHz ซึ่งเป็นช่วงสัญญาณเดียวกันกับสัญญาณ Wi-Fi ซึ่งความถี่แต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป ให้คุณพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน ไมโครโฟนทีสามารถปรับระดับควาถี่ได้นั้นจะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้ความถี่ที่มีสัญญานรบกวนน้อยที่สุด ได้ระยะทางที่ใช้งาน
หมายถึงระยะทางระหว่างไมโครโฟน และเครื่องรับนั้นสามารถใช้ได้ไกลขนาดไหน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกซื้อมาใช้งานให้เหมาะสม เช่นเวทีที่มีขนาดใหญ่นั้นอาจจะต้องเลือกซื้อรุ่นที่สามารถส่งสัญญานได้ระยะไกลกลว่าปกติ หรือพื้นที่ใช้งานแคบ ๆ แบบทั่วไปก็น่าจะพอคุณภาพเสียง
นั่นคือประเด็นสำคัญที่เลือกอย่างไรให้ไมค์ลอยนั้นมีเสียงที่มีคุณภาพดี ไม่มีปัญหาขณะต่าง ๆขณะใช้งาน ให้เสียงที่ใส มีมิติ และน่าฟัง เสียงมีลักษณะต่อเนื่องไม่มีอาการกระตุก หรือดีเล ของเสียงแนะนำ ไมโครโฟนไร้สายที่ดีที่สุด รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
ไมโครโฟนไร้สาย SHURE SVX188/CVL Dual Wireless Lavalier System ชุดไมค์ลอยหนีบปกเสื้อแบบคู่ 2 ตัว
คุณสมบัติเด่น
- สามารถเลือกช่องได้ถึง 8 ช่อง
- รองรับได้ถึง 4 ระบบ *
- การเปลี่ยนความหลากหลายของเสาอากาศ
- ระดับ Squelch ปรับได้
- 1/4 "และเอาต์พุต XLR
- ใช้ได้กับแพ็คเกจระบบมือถือและ Lavalier
รายละเอียดเพิ่มเติม
Sherman ชุดไมโครโฟนไร้สาย Wireless ความถี่ UHF รุ่น MIC-320
คุณสมบัติเด่น
- ชุดรับ-ส่งไมโครโฟนไร้สายคุณภาพสูง แบบไมค์คู่
- เครื่องส่ง พร้อมหัวไมโครโฟนแบบมือถือ มีมุมรับสัญญาณด้านหน้าอย่างเดียว
- ทำงานด้วยวงจร Phase Lock loop (PLL) เพื่อการรับ-ส่งสัญญาณที่คมชัด
- ย่านความถี่ UHF ครอบคลุมตั้งแต่ช่วงความถี่ 797-801.4 MHz
- หน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล LCD
- ตอบสนองความถี่ 50 Hz - 18 KHz
- ตัวไมโครโฟนทำงานด้วยแบตเตอรี่ ขนาด AA จำนวน 2 ก้อน
- มี Slot ชาร์จแบตเตอรี่แบบ USB 2 ช่อง เพื่อประหยัดการใช้ถ่าน AA
- ตัว Rechargeable Battery C8-800mAH สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 7-10 ชั่วโมง
- มีช่องต่อสัญญาณเสียง Output แบบ Mix Out (1/4” Unbalance Out) และแบบ XLR Balance Output A-B เพื่อขยายเสียงได้ (Unbalance Output)
- ปรับระดับเสียงไมโครโฟน A และ B ได้อย่างอิสระ
- ระยะการรับส่งสัญญาณ 50-80 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม
Sherman ชุดรับ-ส่งไมโครโฟนไร้สาย รุ่น MIC-130N
- เป็นไมโครโฟนแบบเดี่ยวขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้สะดวก มีจอแสดงผลแบบ LED ที่ใช้ในการแสดงผลค่าต่างของไมโครโฟนไร้สายรุ่นนี้ ตัวรับ และตัวส่งมีสายอากาศภายใน ระยะการส่งสูงถึง 50 เมตร เพียงพอและเหมาะสำหรับเวทีย่อย ๆ ราคาไม่แพงคุณภาพดี
- คุณสมบัติเด่น
- ไมโครโฟนไร้สายภาครับขนาดกะทัดรัด สะดวกต่อการใช้งาน
- ตัวไมโครโฟนหน้าจอแสดงผลแบบ LED Display
- ตัวรับสัญญาณความถี่มีเสาอากาศ Built In อยู่ภายใน
- ระยะการรับ-ส่งสัญญาณ 50 เมตร
รายละเอียดเพิ่มเติม