แนะนำ หน้ากากเชื่อมที่ดีที่สุด รุ่นไหน ยี่ห้อไหนดี
#1.WELPROหน้ากากเชื่อม ออโต้ รุ่น Welpro WP818E
คุณสมบัติเด่น
- หน้ากากเชื่อม ออโต้
- ใช้พลังงานแสงอาทิตย์
- เหมาะสำหรับงานเชื่อมทุกชนิดหุ้มลายcarbon Fiber
#2.หน้ากากปรับแสงเชื่อมอัตโนมัติ รุ่น YMD6500 YAMADA
คุณสมบัติเด่น
- หน้ากากปรับแสงเชื่อมอัตโนมัติ มีหน้าจอขนาดใหญ่
- เลือกโหมดการใช้งานทั้งงานเชื่อม/งานเจียร
- ปรับระดับความเข้มกระจกได้ 5 ระดับ
- ฟิลเตอร์ปรับ Sensitivity และ Delay ได้
#3.LONGWELL หน้ากากเชื่อม ออโต้ รุ่น 350S MG
คุณสมบัติเด่น
- ขนาดของกระจกปรับแสง(Viewing Area) : 90x35 mm
- ปุ่มปรับระดับความเข้มกระจก : ปรับได้ด้านข้าง
- สวิตช์เปิดปิด : อัตโนมัติ
- จำนวนจุดรับแสง : 2
- เปลี่ยนถ่านได้ง่าย
- มีโหมดแจ้งเตือนเมื่อแบตต่ำ
- ปรับ delay / sensitivity ได้
- งานเชื่อม : MMA , TIG, MIG/MAG, CUT
- งานเจียร : สามารถใช้ได้
- อุณหภูมิที่ทำงานได้ปกติ : -5°C ~ +55°C
- อุณหภูมิที่จัดเก็บไว้ได้ : -20°C ~ +70°C
- วัสดุที่ผลิต : Polypropylene
- น้ำหนัก : 480g
#4.InnTech หน้ากากเชื่อม ปรับแสงอัตโนมัติ Auto Darkening รุ่น WH-24
คุณสมบัติเด่น
- หน้ากากเชื่อมออโต้ มีให้เลือกมากถึง 50แบบ
- ใช้ได้ทั้งงานเจียรและงานเชื่อม
- ปรับความไวแสงได้ทั้งก่อนและหลังการเชื่อม ผู้ใช้ไม่มีการเคืองตา
- ตัวหน้ากาก มีน้ำหนักเบา เหนียว ไม่กรอบหรือแตกง่าย ทนแรงกระแทกได้ดี
- มาพร้อมสายคาดปรับให้สวมใส่สบาย พอดีกับศีรษะได้
- ทนอุณหภูมิสำหรับการใช้งานได้ตั้ง -5 องศาเซลเซียส ถึง 55 องศาเซลเซียส
- สามารถปรับเฉดสีใช้กับงานเชื่อมได้ทุกประเภท TIG, MIG/MAG, PLASMA, CUT
- มีปุ่มปรับระดับความเข้มกระจก : ปรับได้ด้านข้างหน้ากาก
- มีปุ่มปรับความไวต่อแสง : สามารถปรับได้ข้างซ้าย ด้านในหน้ากาก
- มีปุ่มปรับการหน่วงเวลา : สามารถปรับได้ข้างขวา ด้านในหน้ากาก
หน้ากากเชื่อม ที่ดีที่สุดแบบไหนยี่ห้อไหนดี
ก่อนอื่นเรามารู้จักกับหน้ากากเชื่อมที่มีอยู่ในท้องตลาดกันก่อน ซึ่งในปัจจุบันนั้นแบ่งออกได้เป็น 2 ชิดที่มีการพบเห็นการใช้งานอยู่ทั่วไปอย่างแพร่หลาย ได้แก่หน้ากากเชื่อมแบบธรรมดา ที่เป็นกระจกแก้วสีดำทึบที่ทำหน้าที่ในการกรองแสงที่ได้จากการอาร์คของกระแสไฟฟ้าที่ปล วิธีเลือกซื้อหน้ากากเชื่อมที่ดีที่สุดที่จะช่วยคุณให้ได้รับ สินค้าที่ดีที่สุดว่าจะต้องมีการเลือกซื้ออย่างไร ยี่ห้อไหนดี ายลวดเชื่อมหรือหัวเชื่อม และหน้ากากเชื่อมแบบออโต้ ที่ใช้วงจรอิเลคทรอนิคส์ในการเปิดปิดกระจกกรองแสงเพื่อป้องกันสายตาของผู้เชื่อมซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นที่นิยมใช้งานมาก โดยทั้งสองชนิดนั้นมีข้อดี และข้อด้อยที่ต่างกันหลายประการได้แก่
ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมที่มีการใช้ในสมัยก่อนและตอนนี้ที่ไม่มีความซับซ้อนใดๆ โดยจะประกอบไปด้วยบานกระจกที่สามารถดึงลงมาคลุมหน้าได้ด้วยการสะบัดหน้าเพื่อให้หน้ากากเชื่อมมาปกปิดใบหน้าในขณะที่เริ่มการเชื่อมซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิมและไม่ค่อยที่จะสะดวกเท่าไรเพราะว่าต้องมีการยกหน้ากากเชื่อมขึ้นยกลงให้น่ารำคาญ บางทีงานเชื่อมมากๆอาจจะทำให้ถึงขั้นคอเคล็ดได้
เป็นหน้ากากเชื่อมที่มีความสะดวกในการใช้งาน และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยอาศัยวงจร อิเลคโทรนิคส์และกระแสไฟฟ้าในการทำให้เลนส์เชื่อมนั้นมืดหรือสว่าง โดยจะมีเลนส์เชื่อมที่จะปรับระดับความสว่างตามความเข้มของแสงและความร้อนที่ได้อัตโนมัติ โดยในตอนที่ไม่ดีมีการเชื่อมหรือยังไม่มีการอาร์ก นั้น เลนส์เชื่อมจะมีความสว่างปกติที่ระดับ 3 หรือ 4 เท่านั้น ซึ่งเทียบได้กับการใส่แว่นตากันแดดทั่วไปเท่านั้น แต่หลังจากที่เซ็นเซอร์แสงได้รับแสงที่เกิดจากการเชื่อมจะมีความสว่างลดลงหรือเลนส์มีความมืดเพิ่มขึ้นถึงระดับ 10 -13 เลยทีเดียวซึ่งจะมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับความร้อนและความเข้มแสงที่ได้จากการอาร์ค เมื่อแสงมากก็จะทำให้เลนส์เชื่อมมีความเข้มมาก เพื่อกรองแสงที่เป็นอันตรายต่อสายตาให้มากที่สุด ซึ่งข้อดีของหน้ากากเชื่อมแบบนี้ได้แก่
การเลือกซื้อต้องมีการพิจารณาสิ่งใดบ้างโดยจะเน้นเฉพาะหน้ากากเชื่อมแบบออโต้เพราะว่าหน้ากากเชื่อมแบบธรรมดานั้นไม่เป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบันนี้และหน้ากากเชื่อมแบบออโต้ นั้นมีปัจจัยหลายอย่างมากกว่าให้พิจารณาก่อนทที่จะเลือกซื้อ
1.หน้ากากเชื่อมแบบธรรมดา
ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมที่มีการใช้ในสมัยก่อนและตอนนี้ที่ไม่มีความซับซ้อนใดๆ โดยจะประกอบไปด้วยบานกระจกที่สามารถดึงลงมาคลุมหน้าได้ด้วยการสะบัดหน้าเพื่อให้หน้ากากเชื่อมมาปกปิดใบหน้าในขณะที่เริ่มการเชื่อมซึ่งเป็นวิธีแบบดั้งเดิมและไม่ค่อยที่จะสะดวกเท่าไรเพราะว่าต้องมีการยกหน้ากากเชื่อมขึ้นยกลงให้น่ารำคาญ บางทีงานเชื่อมมากๆอาจจะทำให้ถึงขั้นคอเคล็ดได้
ข้อดีของหน้ากากเชื่อมแบบธรรมดาคือ
- ราคาถูก และ สามารถหาซื้อได้ง่ายมาก
- ตัวกระจกก็มีเปลี่ยนในราคาที่ไม่แพง
ข้อด้อย
- สำหรับคนที่ไม่เชื่อมบ่อยๆ อาจจะมีปัญหาในการใช้งานเพราะขนาดใหญ่ ไม่ถนัด
- การสะบัดเพื่อปิดหน้ากากนั้นบ่อยๆจะทำให้คอเคล็ดได้
- แนวเชื่อมอาจจะไม่สวย และไม่ต่อเนื่องเพราะต้องเปิดๆปิดๆหน้ากากบ่อยๆ
- บางทีวางลวดเชื่อมพลาดบ่อยครั้งจนทำให้เกิดการอาร์ก ก่อนปิดหน้ากาก ซึ่งอาจจะพบบ่อย และทำให้ตาพร่าชั่วขณะ
2.หน้ากากเชื่อมแบบออโต้
เป็นหน้ากากเชื่อมที่มีความสะดวกในการใช้งาน และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยอาศัยวงจร อิเลคโทรนิคส์และกระแสไฟฟ้าในการทำให้เลนส์เชื่อมนั้นมืดหรือสว่าง โดยจะมีเลนส์เชื่อมที่จะปรับระดับความสว่างตามความเข้มของแสงและความร้อนที่ได้อัตโนมัติ โดยในตอนที่ไม่ดีมีการเชื่อมหรือยังไม่มีการอาร์ก นั้น เลนส์เชื่อมจะมีความสว่างปกติที่ระดับ 3 หรือ 4 เท่านั้น ซึ่งเทียบได้กับการใส่แว่นตากันแดดทั่วไปเท่านั้น แต่หลังจากที่เซ็นเซอร์แสงได้รับแสงที่เกิดจากการเชื่อมจะมีความสว่างลดลงหรือเลนส์มีความมืดเพิ่มขึ้นถึงระดับ 10 -13 เลยทีเดียวซึ่งจะมากหรือน้อยก็จะขึ้นอยู่กับความร้อนและความเข้มแสงที่ได้จากการอาร์ค เมื่อแสงมากก็จะทำให้เลนส์เชื่อมมีความเข้มมาก เพื่อกรองแสงที่เป็นอันตรายต่อสายตาให้มากที่สุด ซึ่งข้อดีของหน้ากากเชื่อมแบบนี้ได้แก่
ข้อดีของหน้ากากเชื่อมแบบออโต้
- ไม่ต้องพลิกเลนส์เชื่อมเปิด และปิดบ่อยๆ โดยเลนส์เชื่อมจะทำงานอัตโนมัติเมื่อมีแสงที่เกิดขึ้นจากการเชื่อม
- สะดวกไม่ทำให้เกิดอาการคอเคล็ดจากการใช้งาน
- การเชื่อมในแนวตะเข็บสั้นนั้นสามารถทำได้ดี ต่อเนื่อง
- ข้อด้อยข้องหน้ากากเชื่อมแบบออโต้
- ราคาค่อนข้างแพง
- ระบบกรองแสงของเลนส์มีความเปราะบางหากเกิดตกลงกับพื้นอาจจะเสียหายและใช้อะไหล่ซ่อมราคาแพง
- อาจจีมีบางรุ่นที่จะต้องใช้แบตเตอรี่ในการใช้งาน
การเลือกซื้อต้องมีการพิจารณาสิ่งใดบ้างโดยจะเน้นเฉพาะหน้ากากเชื่อมแบบออโต้เพราะว่าหน้ากากเชื่อมแบบธรรมดานั้นไม่เป็นที่นิยมแล้วในปัจจุบันนี้และหน้ากากเชื่อมแบบออโต้ นั้นมีปัจจัยหลายอย่างมากกว่าให้พิจารณาก่อนทที่จะเลือกซื้อ
สิ่งที่ควรพิจารณาหน้ากากเชื่อมแบบออโต้
1.ความเข้มของเลนส์เชื่อม
2.ขนาดพื้นที่สำหรับการมองเห็น
3.ความเร็วในการตอบสนองการทำงานของเลนส์
4.เซ็นเซอร์สำหรับรับแสง
5.ระบบควบคุมความไวในการทำงานของเลนส์เชื่อม
ระบบหน่วงเวลาในการทำงานของเลนส์เชื่อม
หมายถึงระยะเวลาที่เลนส์เชื่อมจะมืดหลังจากที่แสงจากการเชื่อมหมดไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานหรือช่างเชื่อมสามารถปรับใช้งานให้หน่วงเวลาให้เหมาะสม เพราะว่าชิ่นงานในแต่ละอันอาจจะไม่ลดความเข้มแสงลงทันทีแต่จะค่อยๆลดดังนั้นการปรับความหน่วงเวลาให้เหมาะสมนั้นก็จะเป็นประโยชน์กับผู้เชื่อมด้วย
6.แหล่งพลังงาน แบตเตอรี่ หรือแผงโซลาร์เซลล์
7.น้ำหนัก และ การปรับแต่ง
สรุป หน้ากากเชื่อมเป็นอุปกรณ์สำคัญในการทำงานเชื่อมเพื่อป้องกันคุณจากแสงจ้า ความร้อน การเผาไหม้ ฝุ่นและควันที่เกิดจากการเชื่อมโลหะต่างๆ ดังนั้นการเลือกหน้ากากเชื่อมที่ดีนั้นจึงสำคัญสำหรับช่างเชื่อมผู้ที่เป็นมืออาชีพเพราะนอกจากจะช่วยป้องกันร่างกายแล้ว ยังช่วยให้งานเชื่อมออกมาดีอีกด้วย การเลือกซื้อตามงบประมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณสามารถใช้หน้ากากเชื่อมดังกล่าวได้ทนนาน และเหมาะสม