เพราะปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟฟ้านั้นอันตรายถึงชีวิต และการปล่อยปละละเลยอาจจะนำหายนะมาสู่บ้านของคุณ และชีวิตของคุณได้ โดยเราจะสามารถเห็นได้ตามข่าวหน้าสื่อต่างๆที่เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้บ้าน จนสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมากนั้น ซึ่งสำเหตุหลักที่มักพบก็คือไฟฟ้าลัดวงจรจนทำให้เกิดไฟลุกไหม้ หรือเกิดประกายไฟ โดยอาจจะเกิดจากสภาพสายไฟฟ้าที่เก่า หนูกัดสายไฟ อุปกรณ์ในการเดินสายไฟไม่ได้มาตรฐาน และหลายๆสาเหตุที่สามารถเกิดขึ้นได้
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบไฟของบ้านเรามีปัญหา ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำวิธีในการสังเกตอาการของระบบไฟฟ้าในบ้านว่าเริ่มจะมีปัญหาแล้ว ให้รีบเรียกช่างไฟมาแก้ไขโดยด่วนได้แก่
พบว่าเบรกเกอร์เกิดการตัดไฟเองบ่อยๆ
หน้าที่ของเบรกเกอร์คือพวกมันจะทำการตัดกระแสไฟฟ้าเองโดยอัตโนมัติทันทีที่มีการใช้งานกระแสไฟฟ้าเกิน ซึ่งแตกต่างกับสวิตช์ที่มันจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ดังนั้นถ้าเกิดอยู่ดีๆแล้วเบรคเกอร์ตัวใดตัวหนึ่งทำการตัดไฟเอง นั้นเราควรตรวจเช็คว่ามีอุปกรณ์ใดที่ใช้ไฟฟ้าอยู่หรือไม่ให้ลองถอดออกแล้วสับเบรคเกอร์ใหม่ ถ้ามันยังตัดอยู่ก็อาจจะเกิดจาก มีไฟฟ้าลัดวงจรในระบบแล้วให้ทำการแจ้งช่างไฟฟ้าให้เข้ามาตรวจสอบได้เลย โดยสาเหตุอาจจะเกิดจากหนูกัดสายไฟ หรือสายไฟฟ้าเกิดความร้อนจนละลายแล้วสัมผัสกัน อาการแบบนี้อันตรายมาก ควรรีบแจ้งช่างไฟโดยด่วน
พบอาการไฟดูด เมือสัมผัสกับโลหะบางอย่างที่อยู่ในแนวสายไฟ
การพบไฟดูดนั้นบางทีอาจจะดูดเบา หรือแรงๆแต่ยังไม่ถึงชีวิตให้รับออกจากบริเวณนั้นทันทีแล้วหาทางเข้าถึงสวิตช์หลัก เพื่อทำการปิดสวิตช์ระบบไฟฟ้าทั้งบ้านทันทีเพื่อป้องกันอันตรายจากการโดนไฟดูด เพราะการเกิดไฟดูดนั้นอันตรายมาก เรามองไม่เห็นแน่นอนว่ามีกระแสไฟรั่วอยู่แถวนั้น ซึ่งสาเหตุของไฟดูดอาจจะเกิดจากหนูกัดสายไฟ หรือสายไฟเก่าจนเสื่อมสภาพแล้วทำให้ประแสไฟดังกล่าวรั่วออกสู่ภายนอก
โดยกระแสไฟฟ้าจะสามารถไหลไปตามวัสดุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ จำพวกโลหะ ต่างๆหรือน้ำเป็นของเหลว หรืออะไรก็ได้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบกระแสไฟฟ้าสามารถวิ่งผ่านได้ การรีบแจ้งช่างไฟให้เข้ามาทำการแก้ไขนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินของคุณได้
พบกลิ่นเหม็นไหม้ และได้ยินเสียง สปาร์ค แปลบๆ บริเวณสายไฟ หรือมีควันออกมา
หากคุณได้กลิ่นเหม็นไหม้ของพลาสติกที่ใช้ทำฉนวนสายไฟฟ้า ซึ่งกลิ่นนั้นจะมีเอกลักษณ์คือจะมีกลิ่นฉุนมากๆ หรือได้ยินเสียง เปาะแปะ เป็นช่วงๆแล้วมีควันสีขาวๆ หรือมีกลิ่นเหม็นไหม้ออกมาด้วย นั้นแสดงว่าสายไฟฟ้าของคุณเริ่มมีปัญหาแล้ว การแก้ไขเบื้องต้นให้รับสับเบรกเกอร์ลงให้เร็วที่สุด ในกรณีที่เบรกเกอร์ไม่ตัดเองอัตโนมัติ แล้วให้รับแจ้งช่างไฟฟ้าเข้ามาทำการซ่อมแซมให้เร็วที่สุด เพราะการปล่อยทิ้งไว้นั้นคุณอาจจะต้องสร้างบ้านใหม่กันแน่นอน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้บ้านได้ หากคุณพบสายไฟชำรุดในส่วนใดส่วนหนึ่งของบ้าน ก็แสดงว่าก็อาจจะมีสายไฟฟ้าในส่วนอื่นๆที่อาจจะมีปัญหาเช่นเดียวกันอยู่ การไล่ตรวจสอบสายไฟทั้งหมดนั้นจึงจำเป็นเช่นกัน การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานนั้นก็ช่วยให้คุณหมดกังวลเกี่ยวกับปัญหาไฟฟ้าภายในบ้านได้เช่นกัน อย่าซื้อเพราะว่าเอาราคาเป็นที่ตั้งควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย
สำหรับการเลือกช่างไฟฟ้าเพื่อที่จะให้เข้ามาแก้ไขระบบไฟฟ้าภายในบ้านนั้น คุณควรพิจารณาให้ดี โดยช่างดังกล่าวนั้นจะต้องมีใบอนุญาต ในการทำงานด้านไฟฟ้า ตามประกาศกระทรวงแรงงาน ในเรื่อง กำหนดสาขาอาชีพ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ
โดยกำหนดให้ สาขาอาชีพช่างไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร เป็นสาขาอาชีพที่อาจเป็นอันตรายต่อสาธารณะซึ่งต้องดำเนินการโดยผู้ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545
เพราะช่างที่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าวจะผ่านการทดสอบที่เข้มงวดและถูกต้องตามหลักความปลอดภัยจ่างๆ และผ่านการอบรมมา ดังนั้นคุณจึงสามารถมั่นใจได้ในการจ้างงานช่างกลุ่มนี้ และไม่ควรไปจ้างช่างที่ไม่มีใบอนุญาตเด็ดขาด เพราะว่าผิดกฎหมาย และอาจทำให้เกิดอันตรายมากกว่าเดิม ซึ่งตัวช่างเองถึงจะบอกว่ามีประสบการการทำงานมาเป็น 10 ๆปีก็ตาม เพราะพวกเขาอาจจะสามารถต่อไฟได้ แต่อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ดังนั้นงานที่ได้ออกมาจะใช้งานได้ก็ตาม แต่มันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดีนั่นเอง
การการไฟฟ้าก็เช่นกัน ควรมีการดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณให้สามารถใช้งานได้ดีอยู่เสมอ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆที่เริ่มเก่าจนเริ่มที่จะใช้งานไม่ได้นั้นก็ให้ทำการซ่อมแซม หรือเปลี่ยนใหม่ จะดีที่สุด และเราหวังเหลือเกินว่าบทความเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของเราจะเป็นประโยชน์กับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณไม่มากก็น้อย
