เนื่องจากการพบปากของปลาหมึกยักษ์ถูกค้นพบภายในก้อน อ้วกวาฬ ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงตั้งทฤษฎีว่าสารนี้ผลิตจากระบบทางเดินอาหารของปลาวาฬ วาฬสเปิร์ม มักจะอาเจียนออกมา แต่ถ้าพวกมันถูกลำเลียงไปตามทางเดินอาหารมันจะถูกปกคลุมไปด้วยสีเหลืองอำพัน ซึ่งอ้วกวาฬที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะผ่านทางลำไส้จะถูกขับออกทางปากซึ่งเป็นที่มาของคำว่าอ้วกวาฬ
อ้วกวาฬ ใช้เวลาในการแปลงสภาพหลายปี ซึ่งผู้เชี่ยวชาญนาย Christopher Kemp ผู้แต่งหนังสือ Floating Gold: A Natural (and Unnatural) History of Ambergris ได้กล่าวไว้ว่าพวกมันจะถูกสร้างโดยวาฬ sperm whales เท่านั้นและจะมีโอกาสเกิดขึ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงทำให้มันค่อนข้างที่จะหายาก และหลังจากที่ถูกขับออกจากตัวของวาฬนั้นมันจะใช้เวลาในการเดินทางด้วยการล่องลอยอยู่กลางทะเลเป็นปีๆ ก่อนที่จะถูกซัดเข้ายังชายฝั่ง และเนื่องจากโอกาสพบพวกมันนั้นน้อยนิดมาก และราคาที่ค่อนข้างสูงจึงทำให้ผู้ผลิตน้ำหอมนั้นหลีกเลี่ยงที่จะใช้งานพวกมัน โดยพวกเขาหาทางเลือกไปใช้สารอื่นทดแทน
สถานที่ที่พบอำพันทะเลมากที่สุด
อ้วกวาฬ ส่วนมากจะถูกพบในมหาสมุทรแอตแลนติก และแถบชายฝั่ง แอฟริกาใต้,บราซิล, มาดากัสการ์, หมู่เกาะอินเดียตะวันออก, มัลดีฟส์, จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์และหมู่เกาะโมลูกา อ้วกวาฬที่ใช้ในเชิงธุรกิจส่วนมากนั้นจะถูกส่งมาจาก หมู่เกาะ บาฮามาส ในมหาสมุทรแอตแลนติก และนอกจากนั้นยังมีการค้นพบฟอสซิลของอำพันทะเล อายุมากถึง 1.75 ล้านปีลักษณะทางกายภาพของ อ้วกวาฬ
อ้วกวาฬ นั้นจะสามารถพบได้ในขนาดที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ขนาดเล็กๆตั้งแต่ 15 กรัมจนถึง 50 กิโลกรัมหรือบางทีมากกว่านั้น เมื่อถูกขับออกจากวาฬในตอนแรกนั้นจะมีลักษณะเป็นสีขาวซีด เนื้อนุ่มมีกลิ่นอุจาระรุนแรงมาก แต่หลังจากที่ลอยอยู่ในน้ำทะเลเป็นเวลานานนั้นจะเกิดการสลายตัวด้วยแสงแดดและการเกิดปฏิกิริยาของการออกซิเดชั่นจนตัวอำพันทะเลจะมีสีดำ มีเนื้อที่หยาบและเริ่มมีกลิ่นแปลกๆ ซึ่งเกิดจากสารในกลุ่ม isopropanolอ้วกวาฬ จะเริ่มมีความถ่วงจำเพาะตั้งแต่ 0.780 ถึง 0.926 และสามารถละลายที่ประมาณ 62 ° องศาเซลเซียส และอุณหภูมิที่ 100 ° องศาเซลเซียส มันจะระเหยเป็นไอสีขาว สามารถละลายได้ใน อีเธอร์ และในน้ำมันหอมระเหย
คุณสมบัติทางเคมีของ อ้วกวาฬ
อ้วกวาฬจะไม่เกิดปฏิกิริยากับกรด เราสามารถแยก ambrein ออกจาก อำพันทะเลดิบได้ด้วยการให้ความร้อน อำพันทะเล ในแอลกอฮอล์ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเกิดเป็นสารที่ไม่มีกลิ่นที่ชื่อว่า ambrein และเมือผ่านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นก็จะได้สารสองตัวคือ ambroxan และ ambrinol ซึ่งเป็นสารที่ให้กลิ่นหลักของ อ้วกวาฬ ซึ่งในปัจจุบันนี้ สาร Ambroxan ในปัจจุบันนี้สามารถสังเคราะห์ได้แล้วและได้มีการใช้อย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมน้ำหอมการใช้งานอ้วกวาฬ
เป็นที่รู้จักกันดีว่าอ้วกวาฬนั้นได้ถูกใช้ในการผลิตน้ำหอมและเครื่องหอม เหมือนกับสัตว์พวกชะมด น้ำหอมที่ทำจากอ้วกวาฬนั้นสามารถพบได้ทั่วโลก ซึ่งได้เก็บมาจากชายทะเลทั่วโลก ซึ่งจะมีการสร้างโดยวาฬสเปิร์มเท่านั้น ซึ่งวาฬชนิดนี้ได้ถูกจัดให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อ้วกวาฬนั้นได้ถูกใช้ในการผสมในอาหารเละเครื่องดื่ม โดยได้มีบันทึกว่า พระเจ้า Charles ที่ 2 ของอังกฤษได้ชื่นชอบเมนูไข่ที่ใส่อ้วกวาฬเป็นพิเศษ และยังมีการนำเอาอ้วกวาฬไปใส่ในเหล้ารัม ที่ใช้ในตำราการทำ ค๊อกเทลใน อังกฤษและ ออสเตรเลีย และได้มีการใส่ในกาแฟของชาวตุรกี ชาวอียิปต์โบราณนั้นได้ใช้อ้วกวาฬเป็นกำยาน ในขณะที่อียิปต์ สมัยใหม่ได้ใช้ในบุหรี่
กฎหมายเกี่ยวกับ อ้วกวาฬ
ออสเตรเลีย ได้มีการห้ามค้า อ้วกวาฬเพื่อการค้าทุกชนิดเนื่องจากกฎหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมในปี 1999สหรัฐอเมริกา การซื้อขายแลกเปลี่ยนอำพันทะเลได้ถูกแบนโดยการออกกฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ในปี 1973
อ้างอิง https://en.wikipedia.org/wiki/Ambergris