USB-C คืออะไร?
USB-C รู้จักกันในชื่อของ USB Type-C มาตรฐานการเชื่อมต่อล่าสุดที่ได้รับการออกแบบโดย องค์กรมาตรฐานยูเอสบีโลก USB Implementers' Forum (USB-IF) usb.org ซึ่งเป็นกลุ่มที่คอยดูแลเกี่ยวกับมาตรฐานการเชื่อมต่อของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต่างๆ โดยมีบริษัทต่างๆอาทิเช่น Apple, Intel, Dell, และ Belkin เข้าเป็นสมาชิกเพื่อที่จะกำหนดแนวทางการเชื่อมต่อต่างๆของอุปกรณ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และยังมีการศึกษาและวิจัยในการที่จะสร้างมาตรฐานในการเชื่อมต่อใหม่ออกมาใช้งานในอนาคตด้วย
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้เริ่มมีการใช้มาตรฐาน USB-C กันมากขึ้นโดย USB-C อาจจะมีการเข้ามาทดแทนมาตรฐานยูเอสบีแบบเก่าอื่นๆในไม่ช้านี้ โดยอุปกรณ์ที่ออกใหม่ส่วนมากในปัจจุบันนี้เริ่มหันมาใช้มาตรฐาน USB-C กันทั้งนั้น
ข้อดีของ USB-C
- ใช้งานได้ดีกว่ามาตรฐาน ยูเอสบีแบบอื่นๆ
- ใช้งานง่าย สลับทางการเชื่อมต่อได้
- รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อในอนาคต
- เอนกประสงค์ สามารถใช้สายเคเบิล USB-C ร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้มาตรฐานเดียวกันได้เลยทำให้สะดวกเวลาหาซื่อ และใช้งาน
USB-C มีขนาดเล็กและบางทำให้อุปกรณ์ที่ใช้งาน USB-C นั้นสามารถสำให้มีขนาดเล็กลงได้มาก
ทำไม USB-C ถึงดีที่สุด
USB-C ใช้งานง่ายสามารถเชื่อมต่อสลับหน้าหลังได้โดยที่ไม่เสียเวลาในการสลับ เสียบได้เลย ไม่ว่าเข้าในระนาบไหนก็ไม่แตกต่างกัน ไม่เหมือนกับมาตรฐานอื่นๆที่พอเสียบแล้วถ้าผิดทางตั้งสลับทิศทางจึงจะเสียบได้นั่นเองจึงทำให้ USB-C สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ต่างๆที่รองรับเช่น สมาร์ตโฟน โน้ตบุค กล้องดิจิตอล และอื่นๆที่กำลังจะมาในอนาคต
ประสิทธิภาพในการโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็ว โดย USB-C นี้สามารถรองรับ Bandwidth หรือปริมาณการรับและการส่งข้อมูล (Data-Transfer) ในการโอนถ่านข้อมูลสูงถึง 10Gbps หรือ 1 กิกาไบต์ต่อวินาทีเลยทีเดียวหรือจะเทียบได้ง่ายๆก็คือสามารถโอนไฟล์หนังเต็มเรื่องจากแผ่นดีวีดี ได้ภายในระยะเวลาที่ต่ำกว่า 30 วินาทีซึ่งนับว่าเร็วมาก และมีความเร็ว 20 เท่าของความเร็วระบบ USB2.0 แบบเดิม สามารถจ่ายไฟได้ถึง 100 วัตต์ หรือ 3 แอมป์ซึ่งความจุขนาดนี้คุณสามารถที่จะส่งกระแสไฟไปยังอุปกรณ์ต่างๆได้เกือบ ทุกอุปกรณ์ และสามารถส่งไฟล์ความละเอียดระดับ 4K ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
Smartphone ในปัจจุบันเริ่มมีการใช้งาน USB-C
Samsung Galaxy S7,OnePlus, ไดเริ่มมีการใช้งานมาตรฐาน USB-C ในโทรศัพท์สมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงกันแล้วโดยรายชื่อสมาร์ตโฟนทีใช้มาตรฐาน USB-C นี้ได้แก่
Samsung Galaxy M20,Redmi Note 7, Xiaomi Mi A2 ,Honor Play, Nokia 6.1 Plus, Nokia 5.1 Plus และ Moto G6 Plus Moto G6
และยังมีข่าวเกี่ยวกับโทรศัพท์ iPhone ที่จะมาการเปลี่ยนมาใช้มาตรฐาน USB-C ทั้งหมดในรุ่นใหม่ที่จะทำการเปิดตัวใหม่ในเร็วๆนี้ ถ้าไอโฟนเริ่มนำมาใช้แบรนด์อื่นก็ต้องใช้
ราคาสายเคเบิ้ล USB-C และ เครื่องชาร์จที่รองรับ
ราคาสายเคเบิ้ล USB-C ในท้องตลาดในปัจจุบันนี้ถือว่าไม่ได้แพงไปกว่าสายเคเบิ้ล หรือสายชาร์จแบบอื่นๆมากเท่าไรนัก โดย ราคาอย่างดีๆก็ประมาณไม่เกิน 200 -250 บาทและเครื่องชาร์จที่รองรับก็ราคาประมาณใกล้เคียงกัน โดยท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าออนไลน์ อย่าง Lazada ได้ทั่วไปและสามารถเลือกรุ่นเลือกสีได้ โดยข้อดีของการซื้อผ่านทางร้านค้าออนไลน์ก็คือคุณจะสามารถอ่านคอมเม้นต์จากผู้ใช้งานจริงๆทำให้มั่นใจในการเลือกซื้อสินค้าดังกล่าวว่าสามารถใช้ได้ปลอดภัยนั่นเอง
การเลือซื้อสาย เคเบิ้ล USB-C
เนื่องจากว่าการใช้งานในแต่ละอุปกรณืต้องการแรงดันไฟที่ต่างกัน สมาย เคเบิ้ล USB-C สำหรับคอมพิวเตอร์นั้นต้องการเอมป์ในการใช้งานสูงกว่าอุปกรณ์พวกสมาร์ตโฟน ดังนั้นควรเลือกเฉพาะสายสำหรับ คอมพิวเตอร์เท่านั้น การนำเอาสายเคเบิลสำหรับสมาร์ตโฟนไปใช้มนคอมพิวเตอร์อาจจะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้ และสาย เคเบิ้ล USB-C ที่ดีจะต้องมีวงวรในการป้องกันการลัดวงจร
1.ความยาวของสาย USB Type C to Type C
สาย USB Type C ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความยาวที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณและความต้องการในการใช้งานของคุณโดยพิจารณาจากลักษณะการใช้งานของคุณเป็นหลักโดยทั่วไปแล้วในท้องตลาดนั้นสาย USB Type C to Type C จะมีขนาดความยาวตั้งแต่ 50 cm ไปจนถึง 2 เมตรให้คุณได้เลือกใช้งานซึ่งคุณควรที่จะเลือกซื้อสายที่มีความยาวเหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานของคุณอย่างเช่นการใช้งานในการชาร์จปกตินะสาย USB Type C ที่มีความยาว 50 cm ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว และความยาวของสายที่แตกต่างกันนั้นก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการชาร์จแตกต่างกันอีกด้วยโดยสายที่มีความยาวน้อยจะสามารถทำการชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วกว่าสายที่มีความยาวที่มากกว่าเนื่องจากว่ากระแสไฟฟ้าใช้เวลาในการเดินทางที่สั้นกว่า
2.การรองรับมาตรฐานต่างๆ
สาย USB Type C to Type C ที่คุณจะเลือกซื้อมาใช้งานนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรองรับมาตรฐานต่างๆไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานในการชาร์จเร็วซึ่งจะมีมาตรฐานแบบ Power delivery หรือ PD ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถที่จะทำการชาร์จไฟหรือจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ให้เต็มได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะมีเวลาในการชาร์จที่สั้นลงและช่วยให้คุณสามารถที่จะใช้อุปกรณ์ได้นานขึ้นนั่นเอง
3.ความสามารถในการทำงาน
สาย USB Type C to Type C นั้นนอกจากที่จะใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่แล้วรวมอุปกรณ์นั้นยังจำเป็นป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถใช้ในการโอนถ่ายข้อมูลได้ด้วยซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นสามารถที่จะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อสาย Data เพิ่มเติมซึ่งจะช่วยให้คุณนั้นใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
สายเคเบิลราคาถูกจะไม่คำนึงถึงจุดนี้ดีงนั้นควรหลีกเลี่ยงซื้อสาย เคเบิ้ล USB-C ที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะคุณอาจจะต้องจ่ายแพงกกว่าในการที่จะต้องไปซ่อมอุปกรณ์ที่เสียหายจายจากการใช้งานสายเคเบิลที่ไม่ได้คุณภาพ ดังนั้นควรเลือกสายเคเบิลจากแบรนด์ที่ไว้ใจได้
สายชาร์จ USB Type-C แนะนำ สายชาร์จ samsung usb type c 1.2m ซัมซุง แท้100% Samsung Fastcharger Original. รับประกัน1ปี S8 S8+ S9 S9+ Note8 9 / A5 7 8 2017+ / C9