และหลังจากนั้นเพียง 8 ปีคือในปี 1972 นาย Bill English ได้นำมาปรับปรุงใหม่โดยการใช้ลูกบอลแทนล้อเหล็ก จึงเป็นที่มาของ "Ball Mouse" และในปัจจุบันนี้ก็ได้มีการพัฒนาขึ้นมาโดยการใช้แสงเลเซอร์ในการทำงานแทนแล้ว ซึ่งทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวสามารถทำงานได้อย่างดี มาตลอด 30 ปี
การเลือกซื้อเมาส์นั้นมีความสำคัญมากเพราะคุณต้องอยู่กับมันอย่างน้อย 1 ปีซึ่งหากเลือกซื้อเมาส์ผิดคุณก็จะทรมานจากการต้องทนใช้เมาส์ดังกล่าวไปตลอดจนกว่ามันจะเสีย เพราะเมาส์เป็นอุปกรณ์ที่เสียยากมากการเลือกซื้อเมาส์นั้นต้องพิจารณาหลายๆอย่าง
และต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยในการพิจารณา โดยในเบื้องต้นแนะนำให้คำนึงถึงความสบายในการใช้งานก่อนเป็นหลัก โดยการลองจับเลือกเอาที่จับสบายมากที่สุด เหมาะมือ และคุ้นเคยจะทำให้คุณได้เมาส์ที่เหมาะมือ ไม่ต้องทนปวดมือหรือบาดเจ็บจากการใช้งาน ส่วนปัจจัยอื่นๆที่คุณควรพิจารณานั้น ลองใช้คำแนะนำง่ายๆสำหรับการเลือกซื้อเมาส์คอมพิวเตอร์ของคุณ ตามคำแนะนำของเราได้เลย
การเลือกซื้อเมาส์คอมพิวเตอร์
การเลือกซื้อเมาส์สำหรับคอมพิวเตอร์นั้นต้องมีการคำนึงถึงสิ่งต่างๆมากมายวันนี้เราได้รวบรวมเอาเทคนิคการเลือกซื้อเมาส์โดยแยกออกมาเป็นข้อๆให้คุณได้อ่านดังนี้
1.จุดประสงค์การใช้งานของเมาส์
การเลือกตามความต้องการใช้งาน คือการเลือกว่าคุณจะนำเมาส์ไปใช้ในงานประเภทใดเช่นเมาส์สำหรับเล่นเกม เมาส์สำหรับ ใช้ในการพกพาหรือเดินทา เมาส์สำหรับงานกราฟฟิค หรืออื่นๆตามความเหมาะสมของแต่ละงาน ก็เพราะว่าเมาส์แต่ละรุ่นแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกันมากพอสมควรในแง่ของการใช้งาน และประสิทธิภาพ
เมาส์สำหรับเล่นเกม
เมาส์สำหรับเล่นเกมนั้นจะต้องมีประสิทธิภาพสูงมากในทุกๆด้านเพราะการใช้งานนั้นต้องมีการเอาชนะคู่แข่งความล้าช้า หรือความผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวนั้นอาจทำให้คุณพ่ายแพ้ในเกมได้ โดยในเกมที่มีอัตราการรีเฟรชสูงๆนั้นความล่าช้าแม้เพียงเสี้ยววินาทีนั้นคุณอาจจะต้องออกจากการแข่งขันไป การเลือกเมาส์สำหรับสายเกมมิ่งควรเลือกเมาส์ที่มีประสิทธิภาพสูงไว้ก่อน ปัจจุบันนี้มีบริษัทมากมายได้ผลิตเมาส์สำหรับเล่นเกมออกมาวางขายในท้องตลาด โดยส่วนมากจะมีการนำเสนอเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับเกมเมอร์ เช่น มีการใช้เซ็นเซอร์แสงความเร็วสูง ความแม่นยำสูง หรือบางรุ่นสามารถใส่มาโครได้เป็นต้น และส่วนมากนิยมใช้เมาส์เล่นเกมในการทำงานอื่นๆที่ต้องการประสิทธิภาพสูงด้วยเช่น งานกราฟฟิค ออกแบบ งาน 3มิติ เป็นต้นเมาส์สำหรับใช้งานอเนกประสงค์
เป็นเมาส์ที่เอาไว้ใช้ในงานเอกสารทั่วไป ใช้ในการท่องเว็บไซต์เขียนโปรแกรม ทำงานกราฟฟิคเล็กๆน้อยๆก็ควรเลือกเมาส์ที่ไม่ต้องแพงมากเพราะเกินความจำเป็นสำหรับทำงาน เนื่องจากว่าเมาส์ที่มีประสิทธิภาพสูงนั้น ราคาก็มากขึ้นด้วยดังนั้นจึงไม่คุ้มค่า และเมาส์ในกลุ่มนี้จะเน้นการใช้งานที่สบายเหมาะมือมั่นคงและ แม่นยำมากกว่า
2.การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์
เนื่องจากว่าเราต้องใช้งานคอมพิวเตอร์เมาส์ เป็นระยะเวลานานในแต่ละวันควรเลือกเมาที่ใช้งานสบายและเหมาะสมกับมือของเราโดยต้องเลือกเมาส์ยี่ห้อที่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพราะจะทำให้เราสามารถใช้งานเมาส์ได้โดยที่ไม่เกิดอาการบาดเจ็บที่ข้อมือ หรือเกิดอาการปวดแขนเมื่อใช้ไปนานๆ โดยเมาส์ประเภทนี้มีไม่กี่บริษัทที่คำนึงถึงจุดนี้ อย่างเช่น Logitech ,Microsoft เป็นต้น ซึ่งเมาส์จากบริษัทดังกล่าวได้มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และวิจัยแล้วในด้านต่างๆว่าเหมาะสมสำหรับการใช้งาน ไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บแน่นอน นอกจากการเลือกเมาส์แล้ว แผ่นรองเมาส์ ที่รองแขนนั้นก็จำเป็นด้วยซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นก็สามารถช่วยเพิ่มความสบายในการใช้งานและลดการเหนื่อยล้าจากการใช้งานเมาส์ได้เช่นกัน
เป็นคำที่ใช้ในการโฆษณาของบริษัทผู้ผลิตเมาส์ ว่าเมาส์ที่มีค่าดังกล่าวสูงนั้นจะดี ก็ถูกแต่ก็ไม่ถูกทั้งหมดเพราะค่า DPI นั้นหมายถึงค่าความเร็วของลูกศรเมาส์ในการเคลื่อนที่ในหน้าจอ ซึ่งการเคลื่อนที่เร็วนั้นบางที่ หรือสำหรับบางงานก็ไม่จำเป็น หรือไม่เหมาะสมกับงานเช่น งานกราฟฟิค ควรเลือกใช้เมาส์ที่มีค่า DPI ต่ำๆจะเหมาะสมที่สุด เพราะเป็นงานที่ต้องการความละเอียด ไม่ต้องการความเร็ว ส่วนเมาส์ที่มีค่า DPI สูงๆนั้นเหมาะสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่ความละเอียดสูงหรือมีการต่ออกหลายจอ เพื่อทำให้สามารถลากเมาส์ผ่านหน้าจอได้รวดเร็วนั่นเอง ส่วนเมาส์ในการเล่นเกมควรเลือกเมาส์ที่สามารถปรับค่า DPI ได้เนื่องจากว่าความต้องการของแต่ละเกมไม่เท่ากัน โดยคุณสามารถทำการปรับค่าดังกล่าวให้เหมาะสมในแต่ละเกมเอง
Polling Rate คืออัตราความถี่ที่เมาส์ส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อรายงานตำแหน่งมีหน่วยวัดเป็น เฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งแสดงจำนวนครั้งในแต่ละวินาทีที่เมาส์รายงานตำแหน่งของมันไปยังคอมพิวเตอร์ ตัวเลขที่สูงขึ้นหมายถึงความแม่นยำและการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นยิ่งขึ้น นักเล่นเกมไม่ควรใช้เมาส์ที่มีค่า Polling Rate ต่ำกว่า 500 เฮิร์ต เพราะต้องการความแม่นยำสูงนั่นเอง
เมาส์ Optical นั้นใช้เพียงหลอดแอลอีดีเล็กๆในการทำงาน ในขณะที่ เมาส์แบบเลเซอร์นั้นใช้แสงเลเซอร์ในการส่งข้อมูลไปยังเซ็นเซอร์ ซึงมีความแม่นยำมากกว่าแบบ ออปติคัลเมาส์มาก และเมาส์ Laser นั้นยังสามารถนำไปใช้ในทุกพื้นผิวแม้กระทั่งกระจกและมีค่า Polling Rate มากกว่าเมาส์แบบธรรมดานั่นเอง
เมาส์แบบมีสายและเมาส์ไร้สายปัจจุบันนี้ในแง่ของการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ มีความเร็วต่างกันแต่ไม่มากแต่ราคาต่างกันถึง 1 เท่าตัวโดยแต่ละชนิดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน โดยถ้าเป็นเมาส์แบบมีสายบางครั้งอาจจะรู้สึกหนืดๆเพราะมีสายเมาส์ทีคอยรั้งไว้ ซึ่งน่ารำคาญพอสมควร ส่วนเมาส์ไร้สายนั้นคือคุณจะต้องซื้อในราคาที่แพงมากกว่า และจะต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 6 เดือนแต่ราคาแบตเตอรี่ก็ไม่ได้แพงมากแลกกับความสะดวกก็ถือว่ายอมรับได้
ในส่วนการส่งสัญญานของเมาส์ไร้สายนั้นจะมี 2 แบบ คือการส่งขอมูลไปยังคอมพิวเตอร์แบบ สัญญาณวิทยุ หรือ (RF) และแบบ Mouse Bluetooth เราขอแนะนำให้เลือกใช้แบบ Bluetooth จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบ RF
จนถึงตอนนี้คุณก็จะสามารถเลือกเมาส์สำหรับไว้ใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณเรียบร้อยแล้ว เราแนะนำให้คุณทำการเลือกซื้อเมาส์ผ่านทางช่องทาง ออนไลน์จะทำให้คุณสะดวกสบายมากกว่าเพราะว่าคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆของเมาส์ได้ละเอียดกว่า และการซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ยังมีสินค้าให้เลือกมากกว่านั่นเอง
3.ค่า DPI ของเมาส์
เป็นคำที่ใช้ในการโฆษณาของบริษัทผู้ผลิตเมาส์ ว่าเมาส์ที่มีค่าดังกล่าวสูงนั้นจะดี ก็ถูกแต่ก็ไม่ถูกทั้งหมดเพราะค่า DPI นั้นหมายถึงค่าความเร็วของลูกศรเมาส์ในการเคลื่อนที่ในหน้าจอ ซึ่งการเคลื่อนที่เร็วนั้นบางที่ หรือสำหรับบางงานก็ไม่จำเป็น หรือไม่เหมาะสมกับงานเช่น งานกราฟฟิค ควรเลือกใช้เมาส์ที่มีค่า DPI ต่ำๆจะเหมาะสมที่สุด เพราะเป็นงานที่ต้องการความละเอียด ไม่ต้องการความเร็ว ส่วนเมาส์ที่มีค่า DPI สูงๆนั้นเหมาะสำหรับหน้าจอขนาดใหญ่ความละเอียดสูงหรือมีการต่ออกหลายจอ เพื่อทำให้สามารถลากเมาส์ผ่านหน้าจอได้รวดเร็วนั่นเอง ส่วนเมาส์ในการเล่นเกมควรเลือกเมาส์ที่สามารถปรับค่า DPI ได้เนื่องจากว่าความต้องการของแต่ละเกมไม่เท่ากัน โดยคุณสามารถทำการปรับค่าดังกล่าวให้เหมาะสมในแต่ละเกมเอง
4. Polling Rate ต่างหากที่สำคัญ
Polling Rate คืออัตราความถี่ที่เมาส์ส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อรายงานตำแหน่งมีหน่วยวัดเป็น เฮิรตซ์ (Hz) ซึ่งแสดงจำนวนครั้งในแต่ละวินาทีที่เมาส์รายงานตำแหน่งของมันไปยังคอมพิวเตอร์ ตัวเลขที่สูงขึ้นหมายถึงความแม่นยำและการเคลื่อนไหวที่ราบรื่นยิ่งขึ้น นักเล่นเกมไม่ควรใช้เมาส์ที่มีค่า Polling Rate ต่ำกว่า 500 เฮิร์ต เพราะต้องการความแม่นยำสูงนั่นเอง
5.เลือกเมาส์ Optical หรือ Laser ดี
เมาส์ Optical นั้นใช้เพียงหลอดแอลอีดีเล็กๆในการทำงาน ในขณะที่ เมาส์แบบเลเซอร์นั้นใช้แสงเลเซอร์ในการส่งข้อมูลไปยังเซ็นเซอร์ ซึงมีความแม่นยำมากกว่าแบบ ออปติคัลเมาส์มาก และเมาส์ Laser นั้นยังสามารถนำไปใช้ในทุกพื้นผิวแม้กระทั่งกระจกและมีค่า Polling Rate มากกว่าเมาส์แบบธรรมดานั่นเอง
6.เลือกเมาส์แบบมีสาย หรือเมาส์ไร้สายดี
เมาส์แบบมีสายและเมาส์ไร้สายปัจจุบันนี้ในแง่ของการส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ มีความเร็วต่างกันแต่ไม่มากแต่ราคาต่างกันถึง 1 เท่าตัวโดยแต่ละชนิดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน โดยถ้าเป็นเมาส์แบบมีสายบางครั้งอาจจะรู้สึกหนืดๆเพราะมีสายเมาส์ทีคอยรั้งไว้ ซึ่งน่ารำคาญพอสมควร ส่วนเมาส์ไร้สายนั้นคือคุณจะต้องซื้อในราคาที่แพงมากกว่า และจะต้องทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทุกๆ 6 เดือนแต่ราคาแบตเตอรี่ก็ไม่ได้แพงมากแลกกับความสะดวกก็ถือว่ายอมรับได้
ในส่วนการส่งสัญญานของเมาส์ไร้สายนั้นจะมี 2 แบบ คือการส่งขอมูลไปยังคอมพิวเตอร์แบบ สัญญาณวิทยุ หรือ (RF) และแบบ Mouse Bluetooth เราขอแนะนำให้เลือกใช้แบบ Bluetooth จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่าแบบ RF
จนถึงตอนนี้คุณก็จะสามารถเลือกเมาส์สำหรับไว้ใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณเรียบร้อยแล้ว เราแนะนำให้คุณทำการเลือกซื้อเมาส์ผ่านทางช่องทาง ออนไลน์จะทำให้คุณสะดวกสบายมากกว่าเพราะว่าคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆของเมาส์ได้ละเอียดกว่า และการซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ยังมีสินค้าให้เลือกมากกว่านั่นเอง